การเมืองเซ็งนายกดักคอให้เบาๆ


เพิ่มเพื่อน    

“ประยุทธ์” ขนคณะลงพื้นที่ตราด-จันทบุรี โปรยยาหอมรับ 7 ข้อเสนอวงเงินกว่า 3.3  พันล้านยกระดับเกาะช้าง พร้อมบอกชาวบ้านรื้อเพิงหมาแหงน ลั่นมีหย่อนบัตรแน่ พร้อมสำทับเลือกให้ดีไม่งั้นซ้ำรอยอดีต ย้ำไม่มาด้วยการเมือง ประชุมนักการเมืองระดับท้องถิ่น-ชาติ “ปชป.” ขนทีมร่วมด้วยเป็นครั้งแรก แต่ไม่ชื่นมื่นเจอ “ลุงตู่” ดักคอให้เบาๆ ชาวบ้านบางส่วนก็เซ็งอดยื่นข้อเรียกร้องกับมือ
เมื่อเวลา 07.00 น. วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง  กรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  (คสช.) พร้อมคณะออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานตราด ต.ท่าโสม อ.เขาสมิง จ.ตราด เพื่อตรวจราชการ จ.ตราดและจันทบุรี และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่  1/2561 จ.จันทบุรี ระหว่างวันที่ 5-6 ก.พ.61 
โดยจุดแรกที่คณะ พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่คือ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ บ้านเปร็ดใน ต.ห้วงน้ำขาว อ.เมืองตราด ซึ่งคณะนายกฯ ได้เดินดูงานทั้ง 4 จุด ประกอบด้วย  1.พื้นที่ป่าชายเลนบ้านเปร็ดใน มรดกผืนป่าตะวันออก 2.ระบบการบริหารจัดการน้ำจืด-น้ำเค็ม 3.การสำรองและกักเก็บน้ำจืดพัฒนา และ 4.เกษตรผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ โดยนายกฯ ได้เป็นประธานเปิดสถานีโทรมาตรตรวจวัดสภาพอากาศและปริมาณน้ำฝนอัตโนมัติที่สถานีบ้านเปร็ดในด้วย
ทั้งนี้ระหว่างพูดคุยกับชาวบ้าน นายกฯ ได้ถามว่ามีรายได้ต่อวันเท่าไหร่ โดยชาวบ้านตอบว่าวันละ  1,000 บาท ทำให้นายกฯ ตอบว่าถ้าได้วันละ 1,000 ทั้งปีจะมีรายได้ 360,000 บาท ก็ต้องเสียภาษีนะ  รายได้ขนาดนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่พอเพียง อย่าให้ใครเขามาบิดเบือนว่าต้องรวย แล้วที่ผ่านมาเขาทำได้ไหม  แล้วปล่อยให้คนเหล่านั้นมาเล่นงานทุกวัน ช่วยบ้าง สัญญาแล้วนะว่าจะช่วยกัน
    จากนั้นนายกฯ เดินทักทายประชาชนและกล่าวกับนักศึกษาที่มาต้อนรับว่า เราอย่ามองเรื่องต่างๆ  ให้แคบ เพราะถ้ามองเช่นนั้นจะก่อให้เกิดปัญหา เหมือนกับที่มีปัญหาอยู่ทุกวันนี้ หากเราเป็นคนไม่ดี ก็ต้องมองดูว่ามีคนไม่ดีเหมือนเราหรือไม่ จากนั้นก็ช่วยกันพยุงกันขึ้นมา อย่าให้ใครมาชักพาเพื่อนำไปสู่ความขัดแย้ง วันนี้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. ท้องถิ่นต้องคิดกันใหม่ โดยรัฐบาลจะทำเท่าที่มีเวลาทำได้  และ 3 ปีมานี้ก็รบกับหลายเรื่อง วันนี้เราทำเพื่อทุกคน วันนี้บ้านเมืองยังไม่เรียบร้อยก็ขอเวลาหน่อย  เพราะวันหน้าถ้ายังไม่เรียบร้อยทุกอย่างก็วุ่นไปหมด
    ขณะเดียวกันนายกฯ ได้กำชับกับผู้นำท้องถิ่นว่า อย่างที่รู้ว่าบ้านเมืองเรายังไม่สงบ ซึ่งเกิดจากคนไม่กี่คน บางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับเราก็ให้กลไกได้ทำงานไป เราไม่ต้องแบกรับทั้งหมด ให้กฎหมายได้เดินหน้าไป ผลจะเป็นอย่างไรก็ถือว่าจบ แต่วันนี้บ้านเมืองปั่นป่วนไปหมดแล้ว ทุกฝ่ายต้องยอมรับในกระบวนการยุติธรรม แต่วันนี้กลายเป็นว่าถ้าศาลตัดสินเข้าข้างบอกว่าเป็นธรรม ถ้าไม่เข้าข้างก็บอกว่าไม่เป็นธรรม ซึ่งมันไม่ใช่ ไม่เคยไปก้าวล่วงอะไรสักอย่าง อะไรที่ยังไม่เข้ากระบวนการยุติธรรมก็จะต้องเอาเข้าให้หมด เราไปเร่งรัดอะไรไม่ได้ รัฐบาลที่แล้วเข้ากระบวนการยุติธรรม ก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเขาเลย แล้วทำไมถึงไม่ยอม มันไม่ได้นะ
    ต่อมานายกฯ ได้ทักทายประชาชนด้วยสีหน้าอารมณ์ดีพร้อมถามอีกว่า "นายกฯ ตัวจริงน่าเกลียด น่ากลัวหรือไม่" โดยประชาชาตอบว่า "ไม่" พร้อมให้กำลังใจนายกฯ ด้วย
    นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้พยายามทำทุกอย่าง เศรษฐกิจจะดูเฉพาะข้างล่างอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูตรงกลาง ดูเรื่องของภาษี การค้าขาย ถึงจะมาดูข้างล่าง แต่ถ้าเราต่อต้านกันทั้งหมดมันก็จบ มันไปไม่ได้หรอก เราต้องคิดใหม่ว่าจะทำบ้านเมืองไปอย่างไร ถามว่าประชาธิปไตยใช่ไหม ตอบว่าใช่ มันต้องมีไหม มันก็ต้องมี ไม่เคยคิดว่ามันไม่ต้องมี มันต้องมี แต่ท่านต้องเลือกให้เป็น 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างนั้นนายกฯ ได้หันไปถามประชาชนว่า "รู้หรือยังจะเลือกใคร" ซึ่งประชาชนไม่ตอบคำถาม ทำให้นายกฯ ตอบกลับว่าแสดงว่ารอถ่ายรูปอยู่ใช่หรือไม่ เรียกเสียงหัวเราะ  ก่อนที่นายกฯ จะกล่าวเพิ่มเติมว่า "ถ้าเลือกไม่ดีแล้วได้แบบเดิมมาจะเกิดอะไรขึ้นไม่รู้นะ และวันนี้ไม่ได้มาเพื่อการเมือง" 
ทั้งนี้ในการเดินทางไปดูงานเกษตรผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ได้เขียนข้อความในสมุดเยี่ยมว่า "ยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาเยี่ยมเยือนในวันนี้ และขอบคุณในการต้อนรับที่อบอุ่น รอยยิ้มที่สดใส ทำให้ผมและ ครม.มีกำลังใจที่จะทำเพื่อพ่อแม่พี่น้องต่อไป ประเทศชาติต้องแข็งแรงด้วยประชาชนเอง รัฐบาลจะส่งเสริม ผลักดัน และสนับสนุน ซึ่งทุกอย่างต้องเกิดจากภายในระเบิดจากข้างใน  ตามแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราต้องร่วมมือกัน ประชารัฐมุ่งไทยนิยมคือนิยมทำคุณงามความดี เพื่อตนเอง ครอบครัว และผู้อื่น ขอให้ประสบความสำเร็จทุกประการ"
การลงพื้นที่ จ.ตราด นายกฯ ได้เดินทางด้วยรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ เลขทะเบียน 4 กฉ  9929 กรุงเทพมหานคร
สุดเซ็งอดยื่นข้อเรียกร้อง
    ขณะเดียวกันที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลเกาะช้าง (ศรภ.เกาะช้าง) ทัพเรือภาค 1 ประชาชนชาวเกาะช้างกว่า 300 คนเดินทางมาเพื่อรอต้อนรับคณะ พล.อ.ประยุทธ์ โดยเมื่อเวลา 09.15  น. นายวัชระ มันทวิน และนายจักรกฤษณ์ เพิ่มทรัพย์ แกนนำชาวเกาะช้างได้นำแผ่นป้ายไวนิล 3 ป้าย ที่มีข้อความว่า “ชาวเกาะช้างจะมีชีวิตดี หากนายกรัฐมนตรีได้โปรดเห็นใจ” และอีก 2 ป้ายแต่ยังไม่ทันคลี่ออกมา ทหารนาวิกโยธินตราดได้ทำการเก็บป้ายทั้งหมดไป ทำให้แกนนำไม่พอใจและต่อว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาตรวจสอบและห้ามไม่ให้ชูป้ายหรือข้อความใดๆ และหากต้องการร้องเรียนให้ยื่นหนังสือได้ที่โต๊ะของศูนย์ดำรงธรรม จ.ตราด
นอกจากนี้ กลุ่มประมงปลากะตัก จ.ระยองและตราด นำโดยนายสุชาติ มีผึ้ง และพวกกว่า 100 คน  นำดอกไม้มาแสดงความยินดีแก่นายกฯ พร้อมยื่นเรื่องปัญหาแรงงานต่างด้าวและการทำกิน แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและทหารนาวิกโยธินตราดไม่ยินยอม จนต้องเดินทางกลับไป โดยนายสุชาติระบุว่ามายื่นหนังสือให้แก้ไขปัญหา และนำดอกไม้มามอบให้กำลังใจด้วย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าก็จะนำดอกไม้ไปทิ้งทะเลเพราะไม่มีประโยชน์แล้ว
ในเวลา 12.00 น. คณะนายกฯ ได้เดินทางถึง ศรภ.เกาะช้าง โดยนายสักศิท มุ่งการ เลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ตราด ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการภาคเอกชนได้ขึ้นกล่าวและเสนอปัญหาเกาะช้างให้นายกฯ ใน 7 โครงการ วงเงินรวม 3,331,711,680 บาท ก่อนที่นายกฯ จะกล่าวกับผู้มาต้อนรับว่าวันนี้มากันครบหมดทั้ง ครม. กรุงเทพฯ ไม่มีคนทำงาน วันนี้มีนักการเมืองมาหรือเปล่าไม่เห็น เดี๋ยวจะหาว่ารังเกียจนักการเมือง วันนี้ไม่รู้ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหน เป็นทั้งนายกฯ และหัวหน้า คสช. ทุกคนต้องเข้าใจโลกกำลังเปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนโลยี เกาะช้างถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพต้องเตรียมความพร้อม ต้องเริ่มต้นจากตัวเราเอง รัฐบาลนี้ทำอะไรได้ก็จะทำ อะไรยังทำไม่ได้ก็ต้องคอย  ทุกอย่างที่ขอมารัฐบาลจะรับไปพิจารณา 
“สิ่งที่รัฐบาลอยากแนะนำคือ ทุกคนต้องช่วยกันดูแลเกาะช้างให้สวยงาม สิ่งที่ไม่จำเป็นอย่างเพิงหมาแหงน ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็ขอให้นำออกไป เพราะทำให้ทิวทัศน์การท่องเที่ยวหายไป ถนนต้องสะอาด ทั้งหมดท้องถิ่นจะต้องช่วยกันดูร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดรายได้ในพื้นที่ ลดอาชญากรรมและต้องไม่เกิดขึ้น ส่วนสิ่งที่ชาวเกาะช้างขอมาทั้งหมด 7 ข้อ รัฐบาลจะรับหลักการทั้งหมด  และจะนำไปพิจารณาหาวิธีการดำเนินการให้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์และจำเป็น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลนี้พยายามทำทุกเรื่อง แต่ไม่ใช่นำเงินมาให้ ประชาชนต้องมีส่วนร่วมตามโครงการประชารัฐ และโครงการไทยนิยมคือทุกคนต้องนิยมทำความดี เคารพกฎหมาย เลือกตั้งให้เกิดความเป็นธรรม ได้คนดีเข้ามาบริหารบ้านเมือง นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าไทยนิยม ไม่ได้หมายความว่าจะให้เงินเท่านั้นเท่านี้ และถ้าที่ผ่านมาไม่เกิดความเสียหาย สิ่งที่ขอมาวันนี้ก็สามารถใช้ได้ทั้งหมด 
บิ๊กตู่ลั่นยังมีกำลังใจ
ในช่วงท้ายนายกฯ กล่าวด้วยว่ายังมีกำลังใจในการทำงานต่อ แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง ซึ่งอาจเกิดจากความหวังดีหรือว่าไม่หวังดี ความเข้าใจหรือความไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่อยากจะให้เข้าใจคือ ความตั้งใจในการเข้ามาทำงานตั้งแต่เป็นทหาร แต่จะทำอย่างไรให้เกิดขึ้นได้ และหลายอย่างก็ควรเกิดขึ้นมานานแล้วแต่ก็เกิดไม่ได้ แต่รัฐบาลนี้สามารถที่จะทำได้ ในบางเรื่องที่ไม่เกิดข้อขัดแย้งมาก และวันนี้สิ่งที่ต้องการก็คือไม่ให้ประชาชนแบ่งแยกกัน ต้องหันหน้าเข้าหากัน อย่าให้ใครเข้ามาชี้นำให้เราแตกแยกอีกต่อไป วันนี้รัฐบาลจะทำเป็นแบบอย่างให้ไว้ วันข้างหน้าจะได้เลือกคนดีๆ เข้ามาทำงาน ซึ่งสุดแล้วแต่ทุกคนเพราะบังคับใครไม่ได้ แต่อยากได้คนดีมาต่อยอด เราต้องวางรากฐานประเทศให้เข้มแข็ง ไม่ใช่เพื่อนายกฯ ไทยหรือเพื่อใคร แต่ทั้งหมดเพื่อลูกหลานของทุกๆ คน
    จากนั้นเวลา 14.00 น. นายกฯ พร้อมคณะร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรมคลองพร้าว รีสอร์ท ก่อนออกเดินทางจากเกาะช้างโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังค่ายตากสิน จ.จันทบุรี ซึ่งบรรยากาศมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะชุมชนริมน้ำจันทบูรและวิสาหกิจเพื่อสังคมซึ่งนายกฯ จะลงพื้นที่ มีการวางกำลังทั้งทหาร ตำรวจ รวมถึงฝ่ายปกครองดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด รวมทั้งมีหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) กว่า 50 นายตรวจเช็กความเรียบร้อย และมีมาตรการตรวจสอบร้านค้าต่างๆ ภายในตลาดอย่างรัดกุม พร้อมขอความร่วมมือให้ร้านค้านำรถจักรยานยนต์เข้าไปจอดภายในบ้านเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
เวลา 15.30 น. ที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายในค่ายตากสิน อ.เมืองจันทบุรี พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะเดินทางเข้าถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากนั้นเดินทางต่อมายังหอจดหมายเหตุแห่งชาติ เพื่อพบปะพูดคุยผู้นำท้องถิ่น โดยมีบรรดานักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นเข้าร่วม 41 คน และเป็นครั้งแรกที่มีอดีต ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้าร่วมจำนวนมากด้วย 
นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล กล่าวว่า การประชุมร่วมกับนายกฯ ครั้งนี้เพื่อพบปะพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาท้องถิ่นใน 8 จังหวัดภาคตะวันออก โดยจะไม่มีการพูดเรื่องการเมืองเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าพรรคการเมืองมีความพร้อมตลอดเวลาอยู่แล้ว
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวเช่นกันว่า การเข้าหารือกับนายกฯ จะไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง จะพูดคุยเรื่องการพัฒนาในพื้นที่ภาคตะวันออก และอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมเหมือนสมัยที่พรรคเป็นรัฐบาลที่ใช้คณะกรรมการกลางเข้ามาดูแล อยากให้สานต่อตรงนี้  
นักการเมืองไม่ชื่นมื่น
โดยนายกฯ กล่าวกับผู้นำท้องถิ่นของภาคตะวันออกว่า ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ได้ช่วยกันคิดทำเพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย ตั้งใจเข้ามาวางพื้นฐานให้ทุกคน สิ่งที่ทำให้เป็นปัญหาที่สุดคือความขัดแย้งระหว่างกัน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการเรื่องความปรองดองอยู่ แต่จะสั่งให้คนที่ขัดแย้งกันหยุดการขัดแย้งกันก็ทำไม่ได้ ขอให้อย่าคิดว่านายกฯ อยู่เพื่อสืบทอดอำนาจ ขอให้ทุกฝ่ายคุยกันว่าจะทำอย่างไรเพื่อบ้านเมือง อยากให้มองว่าจะเดินหน้าประเทศอย่างไร วันนี้รัฐบาลได้เริ่มให้ทั้งหมดแล้ว และรัฐบาลสนับสนุนทุกพรรคการเมืองที่ทำเพื่อชาติบ้านเมือง รวมทั้งมีความจริงใจให้นักการเมือง เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ทั้งนี้เรื่องใดที่เป็นปัญหาต้องแก้ไขขอให้บอกมายังรัฐบาล  ผู้นำท้องถิ่นต้องทำตัวให้เป็นที่พึ่งของประชาชนในวันหน้า มีเรื่องใดขอให้คุยกัน ต้องทำให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุนในบ้านเรา และก็ต้องขอให้ทุกคนช่วยกันสานต่อสิ่งที่รัฐบาลได้ทำไว้ให้ 
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้รับฟังข้อเสนอแนวทางการพัฒนาด้านต่างๆ จากผู้นำท้องถิ่น
ด้านนายสาธิตกล่าวถึงบรรยากาศในการประชุมว่า เป็นไปด้วยดีแต่ยังไม่ชื่นมื่น เพราะไม่ว่าเสนอหรือพูดอะไรจะอ้างว่ากำลังทำอยู่หรือบางเรื่องทำแล้ว โดยเมื่อนายกฯ เข้ามาถึงก็แซวว่า “สาธิตต้องเบาๆ หน่อย” ซึ่งชี้แจงไปว่าพูดในหลักการ นายกฯ บอกว่าจะรับฟัง ก็ต้องขอบคุณ และการมาประชุมครั้งนี้ก็ไม่ได้มากดดันนายกฯ ไม่ได้มาเสริมภาพลักษณ์ทางการเมืองให้ใคร เพราะไม่ได้มาเพื่อการเมือง  แต่มาเพื่อจะพัฒนาในจังหวัดภาคตะวันออก นายกฯ รับไปพิจารณา 
“นายกฯ ได้ขอว่าอย่ากดดันกันมาก ถ้าไม่กดดันจะทำให้ดี โดยได้เสนอไปหลายเรื่อง ซึ่งนายกฯ รับฟังบอกบางเรื่องทำไปแล้ว บางเรื่องรับไปแก้ไข แต่ผมเห็นว่ายังไม่ลงลึกในรายละเอียดมากเพียงพอ” นายสาธิตระบุ 
นายสนธยากล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคพลังชลพร้อมสนับสนุนนายกฯ คนนอกหรือไม่ ว่า วันนี้เรายังไม่มองถึงขั้นนั้น ขณะนี้รอให้มีการประกาศเลือกตั้งตามโรดแมปที่นายกฯ เคยประกาศไว้  เพราะสถานการณ์แต่ละเวลามีหลายปัจจัย การเลือกตั้งจะมีเมื่อไหร่เราก็เตรียมการในส่วนของเราก่อน  ส่วนจะสนับสนุนใครนั้นพรรคพลังชลยังไม่พูดคุยเรื่องนี้ พรรคได้วางสถานะตัวเองไว้เป็นขนาดกลาง แต่ตอนนี้เรายังไม่ประเมินว่าจะสนับสนุนใครเพราะยังเร็วเกินไป และขณะนี้ยังไม่รู้สถานการณ์หลังเลือกตั้ง  แม้รัฐธรรมนูญเปิดช่องนายกฯ ก็ตาม 
    ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีการดีลระหว่างพรรคพลังชลกับทหารนั้น นายสนธยายืนยันว่าไม่มีการดีลทางการเมือง มีแต่การพูดคุยเรื่องการขับเคลื่อนงานต่างๆ ในภูมิภาค ซึ่งในที่หารือวันนี้นายกฯ ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเมือง เพียงแต่พูดเรื่องงาน และหวังว่าฝ่ายการเมือง ประชาชน และรัฐบาลจะได้พูดคุยในเรื่องการทำงานเพื่อให้เกิดผลดีต่อประชาชนในภาพรวม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"