'เอี่ยม' แนะ พปชร.สำรวจตัวเองบ้าง เป็นต้นเหตุความขัดแย้งในอดีต


เพิ่มเพื่อน    

23 ธ.ค. 2561 นายอนุสรณ์  เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หยิบยกความขัดแย้งในอดีตมาหาเสียง ระบุจะรบหรือจะระเบิดก็เลือกเอา ว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าพอสารพัดปัญหารุมเร้า กระแสความนิยมผ่านโพลสำนักต่างๆคะแนนนิยมพรรคพลังประชารัฐลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงปลุกผีความขัดแย้งรอบใหม่หรือไม่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ สารภาพว่าคนจะอดตายอยู่แล้ว ทำโครงการรัฐชื่อเหมือนพรรคการเมือง 4 รัฐมนตรีไม่ยอมลาออก นายอำเภอและเจ้าหน้าที่รัฐพาผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่หาเสียง แล้วยังมีประเด็นสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายจากจัดโต๊ะจีนพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคพลังประชารัฐ หลุดปากรัฐธรรมนูญออกแบบเพื่อพวกเราและพูดในทำนองว่ามีส.ว. 250 คนรองรับอยู่แล้ว มั่นใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ประเด็นเหล่านี้เป็นการท้าทายประชาชนและเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นอย่างชัดเจนหรือไม่ 

พรรคพลังประชารัฐ ต้องหันไปสำรวจตัวเองว่า มีพฤติกรรมที่จะเป็นเหตุแห่งความขัดแย้งหรือไม่ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เหมือนลิงแก้แห แก้ไม่ตก ผลงานในช่วง4-5ปีที่ผ่านมา ประชาชนรายได้ลดลง หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น ความเหลื่อมล้ำสูงขึ้นหรือไม่ ความจริงแกนนำม็อบชัตดาน์ประเทศหลายคนก็ไปเป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ถ้านายนายสนธิรัตน์ มั่นใจก็ให้ระบุไปเลยว่าเลือกพรรคไหน จะมีความขัดแย้ง อย่าไปผูกขาดความปรองดองไว้เพียงพรรคเดียว การปลุกผีความขัดแย้งใส่ร้ายพรรคอื่น กกต.ต้องไปตรวจสอบว่าผิดกฎหมายหรือไม่ พรรคเพื่อไทยพยายามมุ่งมั่นนำเสนอแนวทางสร้างความปรองดองสมานฉันท์ อยากให้ประเทศเดินหน้า ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพผลการตัดสินใจของประชาชน มีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ แพ้ไปเป็นฝ่ายค้าน ชนะไปเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ยึดมั่นในระบบรัฐสภา ปัญหาจะไม่เกิด 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"