ซูเปอร์โพลเผย 'พลังประชารัฐ' มีคนรักไม่ถึง5%


เพิ่มเพื่อน    


    พปชร.หนาวแน่ มีคนแค่ 4.7% เท่านั้นอยากเลือก “เพื่อไทย” ครองใจคนกรุงและต่างจังหวัด จี้ 4 รัฐมนตรีลาออกก่อนพาคะแนนตกเหวหนัก ดุสิตโพลเผยชาวบ้านสนใจนโยบาย-ไม่อยากรู้เรื่องย้ายพรรค คน 40 อัพอยากเห็นแก้ปากท้อง
    เมื่อวันอาทิตย์ มีผลสำรวจความคิดเห็น (โพล) 3 สถาบันที่พร้อมใจกันทำโพลการเมือง โดยสำนักวิจัยซูเปอร์โพลได้เผยผลสำรวจเรื่อง เกาะติดเสียงประชาชนคนจะเลือกตั้ง ซึ่งสอบถามคนทั้งสิ้น 1,094 คน โดยเมื่อถามถึงจุดยืนทางการเมืองของคนตอบแบบสอบถาม พบว่า เกินกว่า 1 ใน 4 หรือ 28.8% สนับสนุนรัฐบาล ในขณะ 13.3% ไม่สนับสนุนรัฐบาล และ 57.9% ระบุเป็นพลังเงียบ และเมื่อจำแนกกลุ่มคนตอบออกเป็นคนในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด พบว่าคนใน กทม. 29.2% สนับสนุนรัฐบาล เทียบกับคนในต่างจังหวัด 28.6% ที่สนับสนุนรัฐบาล ในขณะที่ 11.7% ของคนมีสิทธิเลือกตั้งใน กทม.ไม่สนับสนุนรัฐบาล เทียบกับคนมีสิทธิเลือกตั้งในต่างจังหวัด 14.2% ไม่สนับสนุนรัฐบาล นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ทั้งคนมีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด คือ 59.1% และ 57.2% ระบุเป็นพลังเงียบ ยังไม่ตัดสินใจจุดยืนการเมือง
    ซูเปอร์โพลยังระบุอีกว่า ที่น่าสนใจคือ พรรคการเมืองที่คนตอบแบบสอบถามจะเลือก ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง พบว่า 38.3% ระบุจะเลือกพรรคเพื่อไทย (พท.) รองลงมา 24.4% จะเลือกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) และ 22.8% จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีเพียง 4.7% เท่านั้นจะเลือกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ 9.8% จะเลือกพรรคอื่นๆ และที่น่าพิจารณาคือ เมื่อจำแนกออกเป็นกลุ่มๆ คือ กลุ่มคนมีสิทธิเลือกตั้งใน กทม.และต่างจังหวัดตั้งใจเลือกพรรค พท.สูงกว่าทุกพรรค ในขณะที่คน กทม. 27.8% และคนต่างจังหวัด 19.8% จะเลือก ปชป. ส่วนพรรค อนค.พบคน กทม. 29.2% และ 21.5% ของคนต่างจังหวัดจะเลือก
    ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล กล่าวว่า ฐานสนับสนุนของรัฐบาลและ คสช. ที่เคยได้รับมากกว่า 80% ในตำรามติมหาชน ตอนนั้นคิดทำอะไรย่อมได้รับการสนับสนุนจากสาธารณชนจนฝ่ายตรงข้ามทำอะไรไม่ได้ แต่วันนี้ฐานสนับสนุนลดลงอยู่ในขอบเขตที่ล่อแหลมอาจเพลี่ยงพล้ำได้ ดังนั้น คนของพรรคการเมืองใดในรัฐบาลควรลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีและตำแหน่งกรรมการยุทธศาสตร์ชาติด้วย ถ้าฝืนทำแบบนี้ต่อไป น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าจะเหนื่อยเปล่า และอาจจะสูญเสียสารัตถะ และจะเหนื่อยกันอีกหลายเท่าตัว
    ด้านสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ จำนวน 1,149 คน ในหัวข้อเรื่องที่ประชาชนอยากรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง พบว่า 52.74% นโยบายของแต่ละพรรค และแนวทางปฏิบัติที่ทำได้จริง,  33.68% ความโปร่งใสในการจัดการเลือกตั้ง การป้องกันการทุจริต ซื้อเสียง, 32.55% การเลือกตั้งครั้งนี้จะช่วยให้สถานการณ์บ้านเมือง และเศรษฐกิจดีขึ้นได้จริงหรือไม่, 31.59% การแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวนที่นั่ง ส.ส. มี ส.ส.จำนวนเท่าใดในเขตของตนเอง, 26.89% ผู้สมัครมีใครบ้าง ชื่ออะไร หมายเลขอะไร สังกัดพรรคใด ประวัติเป็นอย่างไร โดยอันดับสุดท้าย 15.84% เป็นเรื่องพรรคเก่า พรรคใหม่ การย้ายพรรคของ ส.ส.    ขณะที่นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจความคิดประชาชนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป จำนวน 1,250 คน เรื่อง “40+ กับการเลือกตั้ง 2562” พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 72.56% อยากเห็นนโยบายแก้ปัญหาปากท้องและหนี้สินของประชาชน, 37.6% นโยบายการควบคุมราคาสินค้า ลดการผูกขาด, 30.16% ระบุว่านโยบายป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ ผู้มีอิทธิพล และ 27.44% ระบุว่านโยบายแก้ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม มิจฉาชีพ 
    สำหรับเรื่องที่คน 40 ปีขึ้นไปคิดว่าไม่ถูกต้องหรือรับไม่ได้มากที่สุด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 47.76% ระบุว่าเป็นเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ, 16.24% เรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ผู้มีอิทธิพล, 11.52% เรื่องความขัดแย้งทางการเมืองของคนในประเทศ, 10.88% เรื่องปัญหาสังคม และ 4.56% ระบุว่าเป็นเรื่องระบบการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพ ส่วนสิ่งที่คน 40 ปีขึ้นไปคาดหวังมากที่สุดหลังการเลือกตั้ง ประชาชนส่วนใหญ่ 62.64% ระบุว่าเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศที่ดีขึ้น รองลงมา 10.16% ประเทศมีความเป็นประชาธิปไตย, 8.8% ส่งเสริมการเพิ่มอาชีพ ลดการว่างงาน และ 6% พัฒนาด้านการศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้น. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"