จับ3หนุ่มขนยาไอซ์2.5พันล้าน 


เพิ่มเพื่อน    

จับ 3 หนุ่มรับจ้างขนยาไอซ์นั่งรถไฟไปหาดใหญ่ ตำรวจยึดของกลางได้กว่า 250 กก. เผยหากหลุดเข้ามาเลย์มูลค่าสูงถึง 1.5 พันล้าน
    ที่กองปราบปราม วันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงจับยาไอซ์กว่า 250 กิโลกรัม ผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายพลธวัช มะละ อายุ 20 ปี ชาวนครพนม นายวิศรุต ตราชัย อายุ 23 ปี ชาวนครพนม และนายจักรพัชร พุ่มพวง อายุ 27 ปี ชาวหนองคาย โดยการจับกุมครั้งนี้เป็นปฏิบัติการร่วมกันระหว่างตำรวจรถไฟและกองปราบปราม ขณะกลุ่มผู้ต้องหาลักลอบขนยาไอซ์ขึ้นรถไฟขบวนที่ 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก  
    พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก. กล่าวว่า หลังขบวนรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพงผ่าน จ.นครปฐม ขณะตำรวจรถไฟเดินตรวจตราความเรียบร้อย พบชาย 4 คนท่าทางมีพิรุธ จึงขอตรวจค้น แต่เมื่อรถไฟแล่นมาถึงบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ขณะเข้าจอดที่สถานี ทั้ง 4 ได้ลงจากรถไฟทันที โดยทิ้งกระเป๋าเดินทาง 5 ใบไว้ ค้นกระเป๋าพบซองชาสีเขียวอัดอยู่เต็มกระเป๋า ตรวจสอบในซองชา เป็นยาไอซ์น้ำหนักรวม 250 กิโลกรัม พร้อมประสานตำรวจกองกำกับการ 5 กองปราบปราม ตามจับผู้ต้องหาได้ 3 คน ขณะเข้าพักในหอพักแห่งหนึ่งที่ จ.ราชบุรี ส่วนอีกคนหลบหนีไปได้ สารภาพได้ค่าจ้างคนละ 20,000 บาท หากถึงปลายทางจะได้ค่าจ้างเพิ่มอีกก้อนหนึ่ง
    ด้าน พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ รอง ผบช.ปส. ระบุว่า จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มนี้เป็นขบวนการค้ายาไอซ์จากเมียนมา ผ่าน สปป.ลาว ก่อนเข้าประเทศไทยทาง อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม แล้วขนขึ้นรถไฟจากหัวลำโพงไป อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อส่งต่อมาเลเซีย หากถึงปลายทางจะมีราคาสูงขึ้นกว่า 10 เท่า โดยยาไอซ์ล็อตนี้มีมูลค่าถึง 2,500 ล้านบาท ตำรวจรู้ตัวขบวนการดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างติดตามจับกุม
    อีกราย ที่ สน.มีนบุรี พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผบก.น.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.3 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม น.ส.จารวี ท้อทอง หรือกิ๊ก อายุ 23 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนัก 6 กิโลกรัม ยาบ้า 30,000 เม็ด และยาอี 900 เม็ด จับกุมได้บริเวณป่าหลังเล้าไก่ชน ข้างห้องพักไม่มีเลขที่ ภายในซอยรามอินทรา 109 ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ
    สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลว่า นายสุทธิพงษ์ สีแจ่ม หรือท็อป อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี และ น.ส.จารวี เป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดรายสำคัญในย่านมีนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนจับกุม ก่อนจะไปซุ่มสังเกตดูพฤติกรรมจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองลักลอบจำหน่ายยาเสพติดจริง โดยจะนำยาเสพติดไปซุกซ่อนไว้ในป่าบริเวณที่สามารถจับกุมได้ ซึ่งพบนายสุทธิพงษ์เดินเข้าไปบริเวณที่ซุกซ่อนยาดังกล่าว ส่วน น.ส.จารวีเป็นคนดูต้นทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัว แต่นายสุทธิพงษ์วิ่งหลบหนีไปได้ จับกุมได้แต่ น.ส.จารวี ตรวจค้นบริเวณโดยรอบพบของกลางจำนวนดังกล่าว 
    สอบสวน น.ส.จารวี ยอมรับว่า ได้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดร่วมกับนายสุทธิพงษ์จริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว น.ส.จารวี และของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พร้อมเร่งติดตามจับกุมตัวนายสุทธิพงษ์ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี ก่อนจะทำการขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"