'บิ๊กป็อก'บ่นคนไทยถ้าไม่มีการรณรงค์ พูดไปก็เหมือนไม่ค่อยมีผลกระตุ้นให้เขาทำ


เพิ่มเพื่อน    

1 ม.ค.62-  พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย กล่าวถึงแนวทางการทำงานของกระทรวงมหาดไทยในปี 2562 ว่า  เท่าที่เหลือเวลาทั้งหมด แบ่งเป็นงานพื้นฐาน เช่น งานบริการประชาชน เน้นให้ตอบสนองประชาชนให้รววดเร็ว ทำให้มีประสิทธิภาพ ให้อยู่บนพื้นฐานกฎหมายโดยเคร่งครัด 

ส่วนงานที่ต้องบูรณาการ เช่น การกำจัดขยะ อยากเร่งให้เป็นรูปธรรม สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือความพร้อมของท้องถิ่นที่จะต้องทำ อาทิ การเก็บขยะแบบแยก ซึ่งอยากทำให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด เพราะมีการเตรียมแนวทางที่ชัดเจนอยู่แล้ว เหลือแต่การซักซ้อมว่ามีความพร้อมหรือไม่  และในส่วนของประชาชนเองก็ต้องดำเนินการตามหลัก 3 อาร์ คือ  การลดการใช้การใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด  และ การนำหรือเลือกใช้ทรัพยากรที่สามารถนำกลับมารีไซเคิล หรือนำกลับมาใช้ใหม่  และแยกขยะ

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่าคนไทยถ้าไม่มีการรณรงค์พูดไปก็เหมือนไม่ค่อยมีผลกระตุ้นให้เขาทำ ดังนั้นจึงต้องทำให้เกิดเป็นวาระขึ้นมา และจะต้องรีบดำเนินการเพราะปัญหาขยะมันพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน โดยเฉพาะพื้นที่บนเกาะที่กำจัดยาก ไม่มีที่จะตั้งโรงงานขยะ แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีขยะมาก ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว

รมว.มหาดไทยเผยว่า เรื่องของน้ำเสีย ทางองค์การจัดการน้ำเสีย มาอยู่ในกำกับของกระทรวงมหาดไทยแล้ว ตนได้ไปเยี่ยมหน่วย ฟังบรรยาสรุปมาแล้ว และเตรียมให้เขาเสนอแผนปฎิบัติในระยะยาว ระยะกลาง และระยะ 1 ปี มาให้  ทั้งนี้เราอยากจะเริ่มให้เร็วที่สุด ทั้งเรื่องขยะและเรื่องน้ำเสีย ในกรณีที่เลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยน่าจะได้มีการเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าใครจะได้มาเป็นรัฐบาลก็อยากให้ทำอย่างต่อเนื่อง เพราะเราใช้เวลาในการเตรียมเรื่องนี้มานาน จึงอยากจะทำให้เป็นรูปธรรม 

เขากล่าวว่าในส่วนของงานอื่นๆ เช่น ผังเมือง ขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มอบหมายให้กรมโยธา จัดทำผังน้ำน้ำไหล เพื่อบรรจุไว้ในผังเมือง ซึ่งจะมีข้อกำหนดว่าหากจะไปสร้างในพื้นที่จะต้องมีล่อลอด มีทางระบายน้ำ เพื่อจะไม่ให้เกิดสาธารณภัย ด้านกรมที่ดิน ก็มีการใช้ระบบรางวัดจากดาวเทียม  โดยจะใช้เครื่องมีร่วมกับทางทหาร หากมีการจัดซื้อครบเรียบร้อย เราก็จะมีพื้นที่ที่ใช้ระบบดังกล่าวนี้ทั่วประเทศ เพื่อจะใช้ระบบพิกัดในการจัดทำโฉนดที่ดิน หรือของกรมปกครอง นอกจากจะดูแลเรื่องทะเบียนราษฎรแล้วเรามีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลประชาชน 

"นายกฯ ได้มอบหมายให้ไปสร้างความรับรู้กับประชาชนในทุกเรื่อง เช่น งานของรัฐบาลและทุกๆ กระทรวง เพราะเราเป็นหน่วยงานเดียวที่มีเจ้าหน้าที่รัฐอยู่กับประชาชน ส่วนกรมปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ก็จะเป็นการพัฒนาพื้นที่ตามบทบาทของตนเอง แต่อย่างไรก็ตามงานทุกส่วนจะต้องไปในทิศทางเดียวกัน เน้นให้สอดคล้องกับแผนพัฒนากับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ลงมาถึงแผนแม่บท และถึงแผนปฎิบัติการของกระทรวง"

รมว.มหาดไทยกล่าวว่าถ้าประเทศชาติเดินไปในกรอบที่นายกฯ ได้พยายามพูดกับประชาชนเป็นหลัก  แล้วทำตามแผนพัฒนาที่กล่าวจะเป็นเรื่องที่ดี สำหรับที่ถามว่าพรรคการเมืองเกี่ยวด้วยหรือไม่ ผมมองว่าเกี่ยว เพราะเขาอยู่กับประชาชนก็ให้ทำการสอบถาม แต่จะต้องทำข้อมูลที่ได้รับจากประชาชนขึ้นมาคิด มาหาวิธีดำเนินการ หากพรรคการเมืองใดได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไปบอกรัฐบาลให้กระทรวง ทบวง กรม ดำเนินการ ถ้าเป็นพรรคฝ่ายค้านก็ไปกำกับฝ่ายรัฐบาลว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง โดยการยื่นยัติหรืออะไรก็แล้วแต่ เพื่อจะใช้กลไกที่มีกำกับรัฐบาล ถ้าหากไม่เป็นไปตามแผนนโยบายที่ให้ไว้กับสภาก็ดำเนินการในสภาให้รัฐบาลทำ

"ผมสนใจเช่นนี้ไม่ใช่ให้มีการลัดขั้นตอน ถ้าเราไม่ช่วยให้ประเทศชาติเป็นเช่นนี้ จะไม่มีทางเจริญหรือพัฒนาเช่นประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตามผมทำงานที่กระทรวงถือว่าสนุก แม้ว่าจะยากลำบากก็ตาม” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"