เถื่อนล่าสัตว์ทุ่งใหญ่ จับคาป่าประธานอิตาเลียนไทย/มูลนิธิสืบฯจี้เอาผิดถึงที่สุด


เพิ่มเพื่อน    

จับ "เปรมชัย" ปธ.อิตาเลียนไทยฯ พร้อมพวกอีก 3 ราย ตั้งแคมป์ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี ยึดอาวุธปืนไรเฟิล ปืนลูกซอง พร้อมซากเสือดำถูกชำแหละถลกหนัง ซากเนื้อเก้งและไก่ฟ้าหลังเทา  ตำรวจแจ้ง 6 ข้อหาหนัก ทนายยื่นศาลวางหลักทรัพย์คนละ 1.5 แสนประกันตัวออกไป "บิ๊กตู่" ลั่นดำเนินคดีตามกม. "สุรศักดิ์" ปัดเป็นแขกวีไอพีอุทยานฯ "มูลนิธิสืบนาคะเสถียร" ชม จนท.สวมหัวใจผู้พิทักษ์ปกป้องป่า  
    เมื่อวันอังคาร เวลา 08.30 น. นายวิเชียร ชิณวงษ์นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี แถลงผลการจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวก รวม 4 คน ล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2561 ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช ว่ามีกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้าไปตั้งแคมป์พัก บริเวณจุดลำห้วยปะชิ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามตั้งแคมป์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่าชุกชุมมากมาย 
    เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบ พบคณะของนายเปรมชัย ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) อยู่เลขที่12/3 ซอยศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พร้อมนายยงค์ โดดเครือ อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 84 ม.8 ต.คุ้งพะยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี, นางนที เรียมแสน อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 102 ม.1 ต.ทุ่งสว่าง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา และนายธานี ทุมมาศ ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ลักลอบตั้งแคมป์พักแรมในจุดบริเวณห้วยปะชิ อยู่ระหว่างหน่วยฯ ทิคองกับหน่วยฯ มหาราช ค่าพิกัด 47 P 485821 E 1678956 N ซึ่งเป็นจุดที่ ขสป.ทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ไม่อนุญาตให้ตั้งแคมป์ 
    นอกจากนี้ ยังพบอาวุธปืนยาวลูกกรดขนาด .22 ยี่ห้อ CZ 452 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนยาวไรเฟิลยี่ห้อ STEYR-MANNLICHER-M ติดลำกล้อง จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนลูกซองแฝดยาวเบอร์ 20 ยี่ห้อ AYA-AGUIRRE-ARANZABAL จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนพร้อมใช้งาน และพบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง 1 กก. รวมทั้งขยายพื้นที่ตรวจสอบพบซากเสือดำถูกชำแหละและถลกหนัง  บริเวณใกล้เคียงพบเครื่องกระสุนปืนเพิ่มอีกมาก 
    สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา นายเปรมชัยพร้อมพวกรวม 4 คนเข้าไปท่องเที่ยวในเส้นทางสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก-หน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง-หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช ในเส้นทางที่อนุญาตเปิดให้ท่องเที่ยวชื่อ ทินวย-ทิคอง-มหาราช ระยะทาง 30 กม. ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.พ. คณะของนายเปรมชัยได้เดินทางลักลอบเข้าไปตั้งแคมป์พักแรมบริเวณห้วยปะชิ ซึ่งเป็นจุดที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปตั้งแคมป์ และได้ใช้อาวุธปืนออกยิงสัตว์ป่าหลายชนิด จนเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบพบและจับกุมตัวผู้กระทำผิดทั้งหมดพร้อมของกลางทั้งอาวุธปืนและซากสัตว์ป่าส่ง สภ.ทองผาภูมิดำเนินคดี
    ที่อาคารสำนักงานหน่วยมาลาเรียที่ 7 (ทองผาภูมิ)  นายธรรมรัช วงษ์โสภา ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ รักษาราชการ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หน.ชุดเฉพาะกิจ พญาเสือ กรมอุทยานฯ และนิติกร สอบ.3 ร่วมประชุมกับนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เพื่อตรวจสอบหลักฐานและบันทึกจับกุม
แจ้งข้อหา ปธ.อิตาเลียนไทยฯ
    ต่อมาคณะของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำโดยนายธรรมรัชและนายชัยวัฒน์ รวมทั้งนิติกร ได้นำบันทึกจับกุมและพยานหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ โดยแจ้งข้อกล่าวหารวม 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3.ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4.ฐานนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 5.ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 6.สำหรับความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 รวมทั้งขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษตามฐานความผิดต่อไป
    จากนั้น พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี, พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.7,  พ.ต.อ.ชาตรี ศรีบุญ ผกก.สอบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี และ พ.ต.อ.สมหมาย โชติกะนาวิน นวท.(สบ 4) นำเจ้าหน้าที่วิทยาการ ภ.จว.กาญจนบุรี ลงพื้นที่ สภ.ทองผาภูมิ สมทบกับ พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผกก.สภ.ทองผาภูมิ และ ร.ต.ท.สุมิตร บุญยะนิจ รอง (สารวัตร) สอบสวน ร่วมกันสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหานายเปรมชัยและผู้ต้องหา โดยทั้งหมดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
    เวลา 15.50 น. พนักงานสอบสวนนำตัวนายเปรมชัยพร้อมพวกขึ้นรถตู้เดินทางไปฝากขังต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิทันที โดยทนายเตรียมยื่นประกันหลักทรัพย์คนละ 150,000 บาท
    มีรายงานว่า ศาลอนุญาตให้ประกันตัวนายเปรมชัยและพวก ในวงเงินรายละ 150,000 บาท โดยหลังจากได้รับการประกันตัวผู้กระทำผิดทั้ง 4 ได้เดินทางออกจากศาลทันที
    ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้รับรายงานว่านายเปรมชัยขออนุญาตเข้าไปพักค้างคืนตามปกติ แต่เขาอยู่เกินที่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงไปจับกุม ซึ่งโดยปกติเวลานักท่องเที่ยวเข้าไปในเขตอุทยานฯ เจ้าหน้าที่จะไม่ได้ไปค้นรถยนต์ และนักท่องเที่ยวที่เข้าไปไม่ได้ถือปืนให้เห็น ถ้าถือให้เห็นเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้เข้าไป  
    พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้คือมีคนแอบเข้าไปล่าสัตว์แล้วเจ้าหน้าที่จับได้ แต่กรณีนี้เขาขอเข้าไป เมื่อเข้าไปแล้วเขาไม่ออก แต่กลับไปกางเต็นท์อยู่ข้างใน ถือว่าขัดต่อระเบียบ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปจับกุม พอเข้าไปเจออาวุธปืนและซากสัตว์บางส่วนจึงควบคุมตัวออกมา ขณะที่ในช่วงเช้า เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอีกพบซากเสือดำ ถือเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่แค่สัตว์เล็กน้อย เมื่อเป็นคดีความเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการเหมือนคดีทั่วไป 
    "ต้องสอบสวนว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร ผิดเป็นผิดไม่ต้องกังวล ส่วนโทษจะสูงหรือไม่ ขอให้ความผิดปรากฏก่อน ผมไม่ทราบ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เราเสียใจ สลดใจ ไม่น่าเชื่อว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เรางงๆ อยู่ เราอยู่กระทรวงทรัพย์ สัตว์ตายเราเสียใจ ไม่น่าเกิดขึ้นใน พ.ศ.นี้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมถือว่าได้ทำหน้าที่ แม้แต่ในที่ประชุม ครม.ยังพูดถึงเรื่องช้าง  แต่เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุม” พล.อ.สุรศักดิ์กล่าว
    รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปฏิเสธว่า นายเปรมชัยไม่ได้เป็นแขกพิเศษของเจ้าหน้าที่ ตนไม่รู้จักเขา และถ้าใครเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการ โดยจะให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไปดูที่เกิดเหตุ
อุทยานปัด 'เปรมชัย' VIP
    ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานขณะนี้ ยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่กลุ่มของนายเปรมชัยขออนุญาตเข้าพื้นที่ไปจุดหนึ่ง แต่กลับไปอีกจุดหนึ่ง หากเจ้าหน้าที่ไม่มีการลาดตระเวนคงไม่สามารถจับกุมได้ 
    ถามว่ากังวลหรือไม่ นายเปรมชัยเป็นถึงนักธุรกิจระดับสูง นายธัญญากล่าวว่า ไม่ได้กังวล เพราะถือว่าเจ้าหน้าที่เราทำดีที่สุด ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ต้องให้ขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ เนื่องจากไม่ได้เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าใครถ้าผิดว่าไปตามผิด แต่ต้องอยู่ที่พยานหลักฐานว่าเป็นอย่างไร
    ส่วนที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงว่า การอนุญาตให้เข้าในพื้นที่ กรมอุทยานฯ จะมีหน้าที่อนุญาตในเบื้องต้น ก่อนมอบอำนาจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ซึ่งกรณีดังกล่าวสามารถอนุญาตได้ โดยผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3  
    ซักว่ามีข่าวรู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายเปรมชัย น.ส.กาญจนากล่าวว่า ไม่จริง ส่วนตัวไม่ได้รู้จักคนชื่อนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนที่เข้ามายังพื้นที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นแขกของเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยกรณีดังกล่าวมีผู้ประสานมายังตนผ่านหมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวและหมายเลขโทรศัพท์ห้องทำงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขออนุญาตให้กลุ่มของนายเปรมชัยเข้าไปศึกษาธรรมชาติ ซึ่งตนได้แจ้งว่าขอให้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต่อไป 
    “ทางผู้ประสานแจ้งว่าจะขอเข้าไปศึกษาธรรมชาติ โดยระบุชื่อของนายเปรมชัย กรรณสูต ซึ่งเราก็ไม่รู้จักว่าเขาเป็นใคร อย่างไรก็ตาม ผู้ประสานงานไม่ได้เป็น 1 ใน 4 คนที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมแต่อย่างใด” น.ส.กาญจนากล่าว
    ถามว่า มีการเลือกปฏิบัติในมาตรการตรวจค้นอาวุธกับคนมีชื่อเสียงที่เข้าไปภายในพื้นที่หรือไม่ น.ส.กาญจนากล่าวว่า ทุกคนอยู่ภายใต้มาตรการเดียวกัน ต้องมีการขออนุญาตตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่มีอุปกรณ์ตรวจโลหะในลักษณะเดียวกับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ 
    "ขอยืนยันเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่ได้รู้จักใครเป็นการส่วนตัว ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ทุกขั้นตอน และจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าทั้ง 4 คนไม่เคยมีประวัติเข้าพื้นที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรมาก่อน" ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ กล่าว
    ถามว่า ขณะมีการลอบล่าสัตว์ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้ยินเสียงปืนหรือไม่ น.ส.กาญจนากล่าวว่า ในเบื้องต้นได้มีการแจ้งเตือนกลุ่มของนายเปรมชัยให้กลับไปพักในหน่วยที่กำหนด แต่ทางกลุ่มไม่ยอมเดินทางกลับ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางกลับมายังหน่วยจึงได้ยินเสียงปืน จากนั้นขอกำลังเพิ่มเพื่อเข้าตรวจสอบ จนพบเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของพวกเราทุกคน
    “กลุ่มของนายเปรมชัยมีความตั้งใจที่จะเข้าไปล่าสัตว์ มีพฤติกรรมผิดวัตถุประสงค์ที่แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ไม่พักอยู่ในบริเวณที่กำหนด และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งเตือนให้กลับมายังกลุ่มที่กำหนดไม่ได้ปฏิบัติตาม และจากการตรวจค้นอุปกรณ์ เชื่อว่ามีการเตรียมการเข้ามาลอบล่าสัตว์โดยเฉพาะ มีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง มาตรา 19 ห้ามมิให้ครอบครองซากสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง มาตรา 36 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า” น.ส.กาญจนากล่าว
'บิ๊กตู่' ลั่นลงโทษตาม กม.
    ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของการทำผิดกฎหมาย ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษ ถ้ามีการพิจารณาคดีแล้วว่าผิด ก็ต้องเข้ากระบวนการยุติธรรม ซึ่งการเข้าสู่กระบวนการก็ต้องมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และนำเข้าสู่การพิจารณา และตัดสินโดยศาลหรือกระบวนการยุติธรรม 
    "ผมไม่มีอำนาจไปก้าวล่วงอะไรเขาตรงนี้ ทุกเรื่องเป็นเรื่องของกลไก ให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา อย่ามาอ้างผมหรืออ้างใครเอื้อประโยชน์ใคร ไม่ได้ทั้งนั้น" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว     
    ซักว่าอาวุธที่ยึดได้หลายรายการ มีข้อสงสัยว่าอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐไฟเขียวจึงทำให้นำอาวุธเข้าไปได้ นายกฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “เป็นเรื่องของผู้กระทำความผิดที่เขาไม่รับผิด แล้วมาเกี่ยวอะไรกับเจ้าหน้าที่รัฐ ผมไม่เข้าใจ คำถามแบบนี้ไม่สร้างสรรค์” 
    พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการล่าสัตว์ป่าในอุทยานฯ
นายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งการอะไรในที่ประชุม ครม.เป็นพิเศษ แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทำหน้าที่รักษากฎหมายในเรื่องที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด 
    "รัฐบาลไม่มีนโยบายให้เข้าไปล่าสัตว์ป่า เพราะไม่ตอบรับกับสังคมโลก และหากพบว่ามีใครที่เข้าไปล่าสัตว์ในพื้นที่ห้ามถือว่าทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นใครหรือคนที่มีฐานะต้องถูกลงโทษทั้งนั้น" พล.ท.สรรเสริญกล่าว
    โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา แสดงความเห็นใน ครม.เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่ามีวิธีที่จะทำให้คนอยู่ร่วมกับสัตว์ป่าได้ บางชุมชนที่อยู่ติดพื้นที่ป่าจะปลูกพืชตั้งรั้วไม้ไผ่ เป็นแนวกันชนป้องกันช้างป่าบุกเข้ามาในพื้นที่ ขณะที่ พล.อ.สุรศักดิ์ระบุว่าวิธีดังกล่าวใช้กับสัตว์ป่าบางประเภทเท่านั้น ยังมีสัตว์ที่บุกรุกเข้ามาอยู่ จึงต้องมีวิธีมาจัดการ และต้องหาวิธีที่เหมาะสมให้คนอยู่ร่วมกับสัตว์ป่าได้
    วันเดียวกัน นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพลงใน เฟซบุ๊กศศิน เฉลิมลาภ ตอนหนึ่งระบุว่า คนขนาดคุณเปรมชัย กรรณสูต เบอร์ 1 อิตาเลียนไทย ทำไมทำได้ขนาดนี้ อ้างผู้หลักผู้ใหญ่ขอเข้าไปเที่ยวทุ่งใหญ่ ตั้งแคมป์ แอบยิงเสือดำ เอาปืนเข้าไปเพียบ ดีที่เจ้าหน้าที่กล้าๆ ทำตามหน้าที่เรื่องนี้ยาวแน่ 
     มูลนิธิสืบนาคะเสถียรออกแถลงการณ์กรณีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเสมอมา สาธารณชนรู้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะได้รับการปกป้องและอนุรักษ์ให้ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าให้คงไว้ ดังนั้นการที่ผู้ต้องหาเข้าไปในพื้นที่โดยอ้างว่าไม่ทราบจึงเป็นไปไม่ได้
    2.30 ปีที่ผ่าน ประชาชนชาวไทยเจ้าหน้าที่และองค์กรต่างๆ ให้ความร่วมมือช่วยกันอนุรักษ์เรื่อยมาจนสัตว์ป่าเพิ่มมากขึ้น แต่การที่คนที่มีสถานภาพทางสังคมเข้าไปล่าสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์ จึงแสดงให้เห็นถึงการไม่เคารพต่อกฎหมาย และผลงานการอนุรักษ์ของสังคมไทย 3.จากการติดตามข่าว นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) อ้างรู้จักต่อข้าราชการในระดับบริหาร ขอเข้าไปยังพื้นที่โดยให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวพักผ่อน แต่กลับเข้าไปล่าสัตว์ป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่พบสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง ซากเสือดำ ถูกชำแหละและถลกหนัง รวมถึงพบอาวุธปืน 3 กระบอก นับเป็นการกระทำที่ปราศจากความละอายใจ และย่ามใจว่าเจ้าหน้าที่คงไม่กล้าดำเนินการตรวจสอบ
    4.ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ในความกล้าหาญสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ 5.ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐบาล อย่างได้เกรงกลัวต่ออิทธิพลและสถานะทางธุรกิจอันใหญ่โตของผู้ต้องหา ขอให้สืบสวนและดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ดีต่อไป
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูล บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า นายเปรมชัย เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 อยู่ที่ 785 ล้านหุ้น คิดเป็น 14.88% โดยดำรงตำแหน่ง ประธานบริหารและกรรมการ ITD ส่วนนายยงค์ โดดเครือ หนึ่งในผู้ต้องหา พบว่าเป็นพนักงานขับรถของ ITD ซึ่งนายเปรมชัยจะเรียกใช้ขับรถเพื่อเดินทางไปต่างจังหวัดอยู่เป็นประจำ จากการตรวจสอบข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายยงค์ โดดเครือ ที่ใช้ชื่อว่า Yong Dod Krua พบว่า มีการถ่ายรูปกับนายเปรมชัย ที่เป็นภาพกางเต็นท์ในสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ พร้อมอาวุธปืนวางอยู่บนโต๊ะ และมีการรับประทานอาหารร่วมกันภายในบ้าน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ITD กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ยังไม่มีความคืบหน้าหรือนโยบายใดๆ สั่งการลงมาจากผู้บริหาร ซึ่งต้องรอความชัดเจนของเรื่องดังกล่าวก่อน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"