คลิปเสียงมัดโกงลอตเตอรี่30ล้าน


เพิ่มเพื่อน    

"หมวดจรูญ" ร้องขอความเป็นธรรมกับ ผบช.ก. หลัง ผบ.ตร.สั่งโอนคดีให้กองปราบฯ เผยโล่งใจเชื่อจะได้รับความเป็นธรรม 100% ขณะที่ "ฐิติราช" ลั่นใครคิดไม่ดีทำเรื่องนี้จะจับให้หมด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง   ทิ้งปริศนา “นึกไม่ถึงจะมาถึงวันนี้ได้ ชี้แจงไปแล้วน่าจะสำนึกได้” ด้าน “อัจฉริยะ” มอบหลักฐานคลิปภาพ เสียง   ให้ตำรวจน็อกขบวนการโกงลอตเตอรี่ได้แน่นอน
    ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยถึงคดีหวย 30 ล้าน หลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้โอนสำนวนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) ให้ บก.ป.ดูแลคดีว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ การดำเนินการต่อจากนี้ จะไม่ทำงานทับซ้อนพื้นที่ ภ.7 ที่ผ่านมาเรื่องลอตเตอรี่เกิดปัญหามาแล้ว 5-6 เรื่อง เจ้าหน้าที่จะพยายามรวบรวมเรื่องทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้น ที่ผ่านมาได้ยินคำว่าแพทย์เฉพาะทาง วันนี้ บช.ก.พยายามพัฒนาตัวเองให้เป็นที่พึ่งของสังคม จริงๆ การทำงานของตำรวจพื้นที่มีข้อจำกัดหลากหลาย ถ้าผิดก็ผิดทุกๆ ฝ่าย
    ผบช.ก.กล่าวว่า พยายามจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญเข้าไปทำงาน เพราะคดีทุกๆ คดีจะมีแผนประทุษกรรม ถ้าเราจับแผนประทุษกรรมได้ ก็จะง่ายต่อการทำงาน ส่วน 5 หรือ 6 คดีที่กล่าวมา ไม่เกี่ยวข้องกัน เพียงแต่บางเรื่องเกิดขึ้นจากผู้ขายลอตเตอรี่ บางเรื่องเกิดจากผู้ซื้อ บางเรื่องเกิดจากบุคคลที่สาม จากนี้ไปหลังจากรับเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะตรวจสอบดูว่าใครให้การอย่างไร มีพยานหลักฐานอะไรบ้าง เรื่องนี้ทางกองปราบฯ ได้เข้าไปร่วมตรวจสอบตั้งแต่ต้น แต่ยังไม่ขอเปิดเผยถึงรายละเอียด มีการแจ้งความในพื้นที่ภาค 7 และเกิดประเด็นถึงความไม่พึงพอใจหลายเรื่องหลายประเด็น ผบ.ตร.ดูแล้วว่าจะกลายเป็นเรื่องบานปลาย จะมอบให้ทาง บช.ก.เป็นผู้ดำเนินการแทน
     "เรื่องนี้จะทำให้ดีที่สุด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับรายอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สังคมจะได้เลิกสับสนปั่นป่วนสักที ส่วนการทำงาน การสืบสวนต้องทำตามพยานหลักฐานอย่างเดียว ประกอบด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ วัตถุเอกสาร พยานบุคคลต่างๆ การสืบสวนต้องเดินจากพยานหลักฐานเท่านั้น ใช้ความคิดความเชื่อไม่ได้ โดยส่วนตัวถือว่าโชคดีเพราะเติบโตมาจากกองปราบฯ มีประสบการณ์ทำงานหลายคดี ทำให้เรารู้ว่าอะไรผิดอะไรถูกในเบื้องต้น" พล.ต.ต.ฐิติราชกล่าว
    ต่อมา ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ฐิติราช เพื่อขอความเป็นธรรม โดยมีสื่อมวลชนสนใจเข้ารุมล้อมสัมภาษณ์กันแน่นขนัด  ร.ต.ท.จรูญเปิดเผยว่า รู้สึกสบายใจที่ได้เข้าให้ข้อมูลกับทางกองปราบฯ มากกว่าการให้ข้อมูลกับทาง บช.ภ.7 ตนเชื่อมั่นในการดำเนินการของกองปราบปรามในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อชี้ขาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลมูลค่า 30 ล้านบาทจะเป็นของตนเองหรือของครูปรีชา ใคร่ครวญ ทั้งนี้ ไม่ว่าผลการรวบรวมพยานหลักฐานจะออกมาว่าตนเองหรือครูปรีชาเป็นเจ้าของที่แท้จริง ก็พร้อมยอมรับคำตัดสินในวันนี้ ก่อนจะให้พบ พล.ต.ท.ฐิติราช ผบช.ก. ที่ชั้น 2 ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
    หลังจากนั้น พล.ต.ท.ฐิติราชเปิดเผยว่า เรื่องนี้มีอยู่ 2 สำนวน ต่างฝ่ายต่างกล่าวหา ครูปรีชาแจ้งความกล่าวหา ร.ต.ท.จรูญยักยอกทรัพย์หรือรับของโจร ส่วน ร.ต.ท.จรูญแจ้งความกลับครูปรีชาว่าแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งให้ได้รับโทษ แต่ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับ ร.ต.ท.จรูญบ้างแล้ว แต่ให้ทาง บช.ภ.7 ทำหน้าที่ของเขาไปก่อน คดีอย่างนี้ไม่เคยเกิดมาก่อนในประเทศไทย เพิ่งเริ่มมีมา 5-6 คดี ตอนนี้เราเริ่มมองเห็นอะไรชัดขึ้น แต่ขอยังไม่ลงรายละเอียด ที่ผ่านมากองปราบปรามได้ลงไปดูคดีนี้ด้วย เพียงแต่ไม่ต้องการให้พยานหลักฐานปนเปื้อน เราได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผย 
    "เพราะสิ่งเหล่านั้นนึกไม่ถึงว่าจะถึงวันนี้ เราคิดว่าคนที่เราได้ชี้แจงไปแล้ว น่าจะสำนึก น่าจะคิดได้ นี่เป็นการพูดแบบรวมๆ ไม่ได้ระบุใคร และวันนี้ไม่ต้องควรมีการมาสาบาน ไม่ควรต้องให้ศาลมาตัดสินคดีอะไรพวกนี้ ต่อไปนี้ถ้ามีคดีในกรณีเดียวกันตำรวจสอบสวนกลางจะลงไปทำเอง เตือนไว้เลย อย่าเด็ดขาด ใครที่คิดไม่ดีทำเรื่องนี้จะจับให้หมด ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน เรื่องนี้ผมไม่ตำหนิใคร ตำรวจภูธรภาค 7 ก็เหมือนแพทย์ประจำอำเภอหรือจังหวัด มีข้อจำกัดในเรื่องของเครื่องมือ ยืนยันว่าจะทำเรื่องนี้ให้จบ และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ใครทำผิดก็ต้องรับไป บ้านเมืองมีกฎหมาย ต้องใช้กฎหมาย ไม่ได้ใช้กฎแห่งกรรม คุณรู้ตัวคุณเองคุณทำอะไรอยู่ ใครทำต้องรับผิดชอบ" พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าว 
    ด้าน ร.ต.ท.จรูญเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในความรู้สึกส่วนตัวเชื่อใจ พล.ต.ท.ฐิติราช คิดว่าท่านจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้ 100% ส่วนที่ไม่มั่นใจการทำงานของตำรวจภูธรภาค 7 มีหลายอย่าง สรุปคือจะแจ้งข้อหาตนอย่างเดียว แล้วจะได้รับความเป็นธรรมได้อย่างไร ในเมื่อตนเป็นผู้บริสุทธิ์ เรื่องนี้แค่เริ่มต้น ทางตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดกาญจนบุรีได้เรียกตนไปพูดคุยที่บ้านพัก พยายามให้ตนยอมรับว่าเป็นคนเก็บลอตเตอรี่ที่หล่นได้ แต่จริงๆ แล้วตนซื้อมาโดยสุจริต วันนี้เหมือนยกภูเขาออกจากอก
    เมื่อถามว่า ตอนไปซื้อลอตเตอรี่มีพยานเห็นหรือไม่ ร.ต.ท.จรูญตอบว่า ไม่มีหรอก ถ้ามีก็คงไม่มีใครมาเป็นพยานให้ตนหรอก ตอนไปซื้อไม่มีใครรู้จักตนเลย และไม่ได้ซื้อกับแม่ค้าคนไหนเป็นเจ้าประจำ ไม่มีใครจำตนได้อยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่มีใครมาเป็นพยานให้ก็ไม่รู้สึกหนักใจถ้าเรื่องจริงตนแพ้ก็อยู่กันไม่ได้ 
    ถามอีกว่า ถึงขนาดนี้แล้วจะฝากอะไรไปถึงครูปรีชาหรือไม่ ร.ต.ท.จรูญตอบว่า ไม่มีอะไรจะฝากแล้ว เมื่อถามว่าถ้าผลสุดท้ายการสอบสวนหาเจ้าของลอตเตอรี่ 30 ล้านไม่ใช่ของ ร.ต.ท.จรูญจะว่าอย่างไร เขาตอบว่า “เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว” 
    หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พาตัว ร.ต.ท.จรูญไปสอบปากคำพร้อมบันทึกรายละเอียดพยานหลักฐานที่ ร.ต.ท.จรูญนำมามอบให้เพิ่มเติม
    ขณะเดียวกัน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม ได้นำหลักฐานคดีหวย 30 ล้าน ที่เชื่อว่าครูปรีชาไม่ได้เป็นเจ้าของลอตเตอรี่มอบให้กับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามด้วย พร้อมเปิดเผยว่า หลักฐานที่มายื่นวันนี้สามารถน็อกกระบวนการนี้ได้แน่นอน มีทั้งคลิปภาพ คลิปเสียง ไทม์ไลน์ในรายละเอียดของคดีนี้ คดีนี้มีพยานปากสำคัญคือเจ้าหน้าที่รัฐเป็นตัวแปรสำคัญ และเป็นเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้โดยเฉพาะ ส่วนคลิปเสียงที่ส่งให้เจ้าหน้าที่นั้น เป็นคลิปเสียงของครูปรีชาสนทนากับแม่ค้า ทั้งสองคนสนทนากันว่าไม่ได้รับลอตเตอรี่มา และเป็นการทะเลาะกัน  
    "โดยในเสียงสนทนาครูปรีชาบอกว่า “เธอไม่ได้เอาให้ฉัน 533 726” ส่วนแม่ค้าบอกว่า “ได้เอาให้ครูไปแล้ว”   เป็นข้อความที่มีการสนทนากันหลังจากวันที่หวยออกแล้ว หลักฐานพวกนี้ผมได้มาจากแหล่งข่าว ได้มาโดยชอบทำ และเชื่อถือได้แน่นอน วันนี้หมดเวลาของครูปรีชาแล้ว ถึงแม้จะไม่ยอมรับ แต่ผมมั่นใจว่า บช.ก.และ ปอท.ได้กู้ไฟล์เสียง ข้อความ และภาพต่างๆ ได้มากแล้ว คดีนี้สัปดาห์หน้าน่าจะสรุปได้" นายอัจฉริยะระบุ
    ส่วนกรณีที่มีการเเชร์คำสั่งอัยการสูงสุดในโลกออนไลน์ว่า เคยมีคำสั่ง อสส.(อัยการสูงสุด) เด็ดขาดไม่ฟ้อง หวย ลอตเตอรี่ ไม่ใช่ทรัพย์มีทะเบียน ผู้ใดครอบครอง ย่อมเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ ประกอบกับด้านหลังสลากได้มีคำเตือนระบุว่า จะจ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ครอบครองสลากเท่านั้น จึงไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอว่าผู้ครอบครองสลากได้สลากมาโดยมิชอบ จึงมีคำสั่งไม่ฟ้องนั้น นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวชี้แจงว่า ขอยกคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2578/2530 ที่ระบุว่า เงื่อนไขการรับรางวัลที่ได้ระบุไว้ด้านหลังสลากกินแบ่งทุกฉบับว่าเงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับ เป็นข้อกำหนดที่มีไว้เพื่อจะจ่ายเงินให้เจ้าของสลากกินแบ่งที่แท้จริง ป้องกันผู้ทุจริตแอบอ้างมารับเงินรางวัล เพื่อให้มีหลักฐานในการที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถูกรางวัลเท่านั้น ไม่ใช่ข้อกำหนดที่จะไม่จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ถูกรางวัลที่สลากหายไป เมื่อโจทก์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัล โจทก์จึงมีสิทธิที่จะได้รับรางวัลสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะอ้างข้อกำหนดนี้เพื่อไม่จ่ายเงินรางวัลให้แก่โจทก์หาได้ไม่
    นายโกศลวัฒน์กล่าวต่อว่า และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11224/2555 ระบุว่า การที่สลากกินแบ่งรัฐบาลถูกรางวัลที่หนึ่ง และจำเลยทั้งสองร่วมกันไปรับเงินรางวัลมาแล้ว ย่อมทำให้โจทก์ร่วมหมดโอกาสที่จะได้รับเงินรางวัล เท่ากับว่าโจทก์ร่วมต้องสูญเสียเงินจำนวนนั้นไป เนื่องจากการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองโดยตรง โจทก์จึงมีสิทธิขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนเงินหรือใช้เงินเท่ากับจำนวนเงินรางวัลที่หนึ่งให้แก่โจทก์ร่วมได้ และโจทก์ร่วมซึ่งได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองย่อมมีสิทธิที่จะขอให้บังคับจำเลยทั้งสองใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วม โดยเรียกดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ต้องใช้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 440 ประกอบ ป.วิ อาญา มาตรา 44/1 ได้
    "จากฎีกาที่กล่าวมานั้น จะเห็นได้ว่าเรื่องหวยหายก็มีมานานแล้วตั้งแต่อดีต ในส่วนคดีคงต้องแล้วแต่ข้อเท็จจริงเป็นกรณีไป ข้อเท็จจริงในคดีใด ก็มีผลเฉพาะคดีนั้น จะนำมาเทียบเคียงแล้ววินิจฉัยเลยทีเดียวไม่ได้ อัยการเจ้าของสำนวนคงจะต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่ายว่านำพยานอะไรบ้างเข้าสู่สำนวนมาพิจารณาดูว่าความน่าเชื่อถือของพยานหักล้างกันอย่างไรบ้าง ซึ่งรายละเอียดของพยานในเเต่สำนวนไม่เหมือนกัน ซึ่งเเต่ละสำนวนย่อมไม่มีทางเหมือนกันทั้งหมดได้อยู่แล้ว ก็ต้องถือตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในแต่ละสำนวนกันไป อย่างที่ตนได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ว่าอัยการจะพิจารณาจากพยานหลักฐาน ไม่ใช่กระแสโซเชียล" นายโกศลวัฒน์ระบุ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"