แจงผ่านสื่อไม่ได้ DSIยันเรียกอ๊อด สอบยืมเงินเพื่อน


เพิ่มเพื่อน    

กรมสอบสวนคดีพิเศษลั่นต้องเรียก "อดีตผบ.ตร." สอบพัวพันเสี่ยกำพลหรือไม่ ลั่นชี้แจงผ่านสื่อไม่สามารถนำมาแก้ต่างในสำนวนคดี "ศรีวราห์" โยน ปปง.สอบ "บิ๊กอ๊อด" ยืมเงินเพื่อนรัก 300 ล้าน
    พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถึงกรณี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ปัจจุบันเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตกเป็นข่าวมีส่วนพัวพันเงิน 300 ล้านบาท ที่นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือเสี่ยกำพล เจ้าของสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท ได้โอนเงินให้ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า การที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ออกมาชี้แจงผ่านสื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง ก็ไม่ได้หมายความว่าดีเอสไอไม่มีความจำเป็นต้องเรียกมาสอบ เพราะจนถึงขณะนี้ดีเอสไอไม่เคยได้หนังสือหรือข้อชี้แจงใดๆ ในเรื่องนี้จากอดีต ผบ.ตร. 
    "การดำเนินการในเรื่องนี้ ดีเอสไอจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับพยานหลักฐานอื่นๆ ที่ได้มา ลำพังการชี้แจงผ่านสื่อไม่สามารถนำมาแก้ต่างในสำนวนคดีได้ ฉะนั้นการเรียกมาสอบ ดีเอสไอคงจะไม่เฉพาะเจาะจงไปที่อดีต ผบ.ตร. ใครที่เกี่ยวข้องจะต้องเรียกมาสอบทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้น"
    พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวต่อว่า ในส่วนของอดีต ผบ.ตร.หากมีการเรียกมาคงจะต้องทำเป็นกลุ่ม เพราะจากหลักฐานที่ดีเอสไอมีอยู่ นอกจาก พล.ต.อ.สมยศแล้วยังมีอีกหลายบุคคลที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินกับนายกำพล ส่วนจะเรียกเมื่อไหร่ จำนวนกี่คน และต้องทำเป็นหนังสือเชิญหรือออกหมายเรียกนั้น ต้องรอการประชุมร่วมของคณะทำงานในคดีนี้ จึงจะสามารถสรุปได้ ยืนยันทำงานอย่างตรงไปตรงมาไม่มีข้อยกเว้น ส่วนจำนวนเงินที่ยึดอายัดเครือข่ายนายกำพล ขณะนี้ยังอยู่ที่กว่า 300 ล้านบาท ยังไม่มีเพิ่มเติม แต่ยังคงประสานการทำงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เดินหน้ายึดทรัพย์อย่างต่อเนื่อง
    วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า ขณะนี้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยังไม่ได้ประสานมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้ามีการประสานมา ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ถึงแม้หน่วยตำรวจจะทำหนังสือไปถึง ปปง. เพียงแต่เขาเอาเราไปร่วมตามที่เรามีหนังสือไป เพราะอำนาจสอบสวนเป็นของ ปปง.
    "พล.ต.อ.สมยศไม่จำเป็นต้องเข้ามาพบผม ตอนแรกเลขคดีค้ามนุษย์เป็นของตำรวจ เมื่อคดีค้ามนุษย์อยู่ในมือตำรวจ ในเบื้องต้นเราก็ทำหนังสือแจ้งไปที่สรรพากรให้ตรวจสอบเรื่องภาษี เพราะเราทำเองไม่ได้ตามประกาศคณะปฏิวัติ ห้ามไม่ให้ตำรวจทำ ให้สรรพากรทำ ส่วนในเรื่องของการยึดทรัพย์ความผิดมูลฐาน เราก็แจ้งไป ปปง. ผู้ที่ทำหน้าที่คือ ปปง. ส่วนจะเอาหน่วยไหนไปร่วม ก็เป็นเรื่องของ ปปง."
    ผู้สื่อข่าวถามว่า บุคคลใดที่มีความเกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์ พนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอจะเป็นคนดำเนินการ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องเบื้องต้น ตอนดีเอสไอจับมาไม่ได้กล่าวหาค้ามนุษย์ ตำรวจเป็นคนกล่าวหาค้ามนุษย์ และได้รายงานให้ ปปง.รับทราบแล้ว ดีเอสไอเป็นเจ้าภาพจับเรื่องการค้าประเวณี ส่วนเรื่องของ พล.ต.อ.สมยศ เป็นเรื่องของ ปปง. ที่จะต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการแค่ไหนอย่างไร
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และอดีต ผบ.ตร. ได้มีการยืมเงินนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือเสี่ยกำพล เจ้าของสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครทนั้น  จากการตรวจสอบแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2, แบบ 256-2) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยในช่วงปี 57 มีรายงานการทำรายการผู้ได้มาและจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง 
    พบว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค.57 เข้าซื้อหุ้นของ บมจ.เอคิว เอสเตท (AQ) แบบจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจง (พีพี) จำนวน 2,500 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.342 บาท มูลค่ารวม 855 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 30 ต.ค.57 ซื้อหุ้นใน บมจ.วธน แคปปิตัล (WAT) (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.โพลาริส แคปปิตัล (POLAR)) จำนวน 7,500 ล้านหุ้น หรือ 14.20% ในราคาหุ้นละ 0.036 บาท มูลค่ารวม 270 ล้านบาท.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"