กกต.ส่ง200รายชื่อส.ว. เครียด!คนค้านทุจริต


เพิ่มเพื่อน    


    ​​กกต.เครียด ผู้สมัคร ส.ว.ยื่นเรื่องคัดค้านขอให้ตรวจสอบนิติบุคคลส่งผู้สมัครกลุ่ม 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมมั่ว ไม่ตรงวัตถุประสงค์การจัดตั้ง ทำให้การเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม พิลึกอดีตข้าราชการครูลงสมัครกลุ่มกฎหมายฯ เข้าข่ายฮั้ว ขัดต่อกฎหมาย จี้ให้การเลือกเป็นโมฆะ 
    ​​รายงานข่าวเปิดเผยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) 7 คน และเลขาธิการ กกต. กำลังเครียดหนักเกี่ยวกับการหาทางออกกรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กลุ่ม 2 คือ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากมีผู้สมัครยื่นคำร้องถึงประธาน กกต. 3 คำร้อง คำร้องแรกจากนายธิติ วีระวัฒน์ จังหวัดอุทัยธานี, คำร้องที่สอง จากนายพภสุ โคตรศรี  ขอนแก่น และคำร้องที่สาม จากนายนิวัฒน์ ซุ่นสั้น จังหวัดตรัง
    ​ในคำร้องขอให้ตรวจสอบวัตถุประสงค์ขององค์กรนิติบุคคลที่แนะนำบุคคลให้มาลงสมัครในกลุ่มกฎหมายฯ โดยที่นิติบุคคลไม่ได้มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับกฎหมายฯ  ผู้สมัครก็ไม่ได้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านนี้ วุฒิทางกฎหมายก็ไม่มี ซึ่งขัดต่อกฎหมาย ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ให้ตรวจสอบการเลือกระดับจังหวัดขอนแก่น ผู้ร้องคัดค้านทั้ง 3 รายขอให้เพิกถอนหรือให้บัตรเลือกที่องค์กรนิติบุคคลแนะนำชื่อผู้สมัครเป็นโมฆะ
    ​​ข่าวแจ้งว่า หนังสือคำร้องของทั้ง 3 รายนี้มีความเกี่ยวข้องกัน โดยระบุในคำร้องว่า ผู้สมัครที่จังหวัดขอนแก่น ได้แก่ นายสุทัศน์ น้อยผาง ส่งโดยมูลนิธินายศรีผ่อง-นางกี่ จดทะเบียนที่กระบี่, จ.ส.ต.บัณฑิตย์ มูลวิชา ส่งโดยมูลนิธิอุษรินทร์ จดทะเบียนที่กรุงเทพฯและนายมนตรี ฤทธิ์มนตรี ส่งโดยมูลินิธิมหาจุฬามณี ศรีสุวรรณภูมิ จดทะเบียนที่ปทุมธานี 
    ทั้ง 3 คนนี้ มีนายสุทัศน์เป็นหัวหน้าทีม อยู่ตำบลเดียวกันที่ขอนแก่น บ้านห่างกันประมาณ 1 กม. ในการลงสมัครกฏหมายว่าด้วยการเลือก ส.ว. กำหนดให้องค์กรนิติบุคคลประชุมกรรมการลงมติ และประธานหรือนายกสมาคมฯ ต้องลงชื่อรับรองว่าผู้ที่ส่งลงสมัครเป็นสมาชิกหรือเคยเป็นสมาชิก ทำงานหรือเคยทำงานที่นิติบุคคลไม่น้อยกว่า 2 ปี ที่สำคัญต้องมีประวัติระบุเพศ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์และสาขาอาชีพของผู้ที่จะส่งลงสมัคร 
    แต่ข้อเท็จจริงทั้ง 3 รายดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติในด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม มาลงสมัครเพื่อจะเลือกนายสุทัศน์ที่เป็นหัวหน้าทีมซึ่งขัดกับมาตรา 93 ของกฎหมายการเลือก ส.ว. นอกจากนี้ยังมีอีกหลายองค์กรที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับกฎหมายฯ แต่ส่งคนมาลงสมัครเพื่อจะเลือกหัวหน้าทีมให้ได้คะแนนมากกว่าผู้สมัครที่สมัครโดยสุจริต
    ​​รายงานข่าวกล่าวอีกว่า ในกลุ่ม 7 เกี่ยวกับผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมพบว่า องค์กรนิติบุคคลส่งคนในมูลนิธิฯ และสมาคมฯ มาลงสมัครเพื่อเลือกหัวหน้าทีมและทำผิดกฎหมายเช่นกัน
    ​​“กกต.ต้องตรวจสอบและสอบสวนเรื่องนี้ จะปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้ แม้จะส่งรายชื่อ 200 คนให้ คสช.แต่ความผิดยังคงอยู่ และจะเกิดปัญหาตามมาภายหลัง เรื่องนี้จะต้องถึงศาลฎีกาแน่นอน คสช.ก็ต้องดูให้ดีด้วยก่อนจะจิ้มเอามา 50 คน บางทีการเลือกเองของผู้สมัครส.ว.ครั้งนี้อาจโมฆะได้” แหล่งข่าวกล่าว
    พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ​เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเห็นชอบรายชื่อผู้ได้รับการเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาทั้ง 200 คน จากที่ กกต.ได้จัดให้มีการเลือกเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2561 แล้ว พร้อมให้ส่งรายชื่อทั้งหมดให้กับ คสช. ภายในวันเดียวกันนี้ ซึ่ง คสช.จะไปคัดเลือก 50 คน และขึ้นบัญชีสำรองไว้อีก 50 คน 
    ส่วนเรื่องร้องคัดค้าน ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 16 เรื่อง อยู่ระหว่างการพิจารณาสอบสวน โดยจะได้รายงานให้ คสช.ทราบด้วย หากการสืบสวนสอบสวนของ กกต.แล้วเสร็จ และพบว่าผู้ได้รับการเลือกคนใด ได้รับเลือกมาโดยไม่สุจริต ก็จะมีการแจ้ง คสช.ทราบ และยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้เพิกถอนสิทธิสมัครของผู้นั้นต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"