พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก จี้ กกท. เร่งสอบประเด็นที่ตนเองยื่นท้วง ส.บอลฯ ทุจริตการบริหารงาน นำหลักฐานส่งมอบเพิ่มเติม ทั้งการเลี่ยงภาษี รวมถึงการรับเงินเดือนที่ถือว่าผิดข้อบังคับฯ ยันต้องตรวจสอบให้แล้วเสร็จ ทั้งที่เคยยื่นให้ตรวจสอบเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ประกาศจุดยืนหากกกท.ยังเกียร์ว่าง เตรียมใช้แผน 2 เดินหน้ายื่นให้ "ปปช." เอาผิดแน่  ด้านโฆษก ส.บอลฯ สวนกลับได้ชี้แจงกับ กกท. เรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.61 ไม่กังวล เพราะแฟร์

        สืบเนื่องจากที่ "บิ๊กเจี๊ยบ"พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก อดีตเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)เพื่อขอให้มีตรวจสอบการบริหารงาน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯในการกระทำผิดข้อบังคับสมาคมฯ ทั้งเรื่องการรับเงินเดือนโดยตรง รวมถึงการโกงภาษีในรูปแบบต่างๆ โดยได้มีการยื่นให้ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยไปแล้วตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.2561 ถึงปัจจุบัน เรื่องยังไม่คืบหน้า ยังไม่มีการตรวจสอบใดๆ

        เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2562 พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ได้เดินทางมายื่นหนังสืออีกฉบับให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท. ) เพื่อขอให้มีการเร่งรัดการตรวจสอบการส่อไปในทางทุจริตของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ไม่อยากให้ล่าช้า เพราะถือเป็นประเด็นใหญ่ที่คนแวดวงกีฬาเฝ้าติดตามกันอยู่ โดย พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ให้สัมภาษณ์ว่า  

        "ครั้งนี้ได้มาทวงถามหลังจากที่ผมได้ยื่นหนังสือที่ กกท. เกี่ยวกับการตรวจสอบการทำงานของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯไปเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ปีที่แล้ว นี่ก็ผ่านมา 2 เดือนกว่า เห็นว่ามันเงียบไป ไม่มีอะไรคืบหน้า ผมก็รอเวลากับ กกท.และครั้งนี้ผมก็ได้เอาพยานหลักฐานที่ผมเก็บไว้ตอนที่เป็นเลขาฯ เห็นว่ามีอะไรที่ไม่ถูกต้องก็เอามารวบรวมส่งให้ กกท. ผมไม่ใช่มวยล้ม ไม่ตามเรื่อง ผมยังตามอยู่"

        "ผมมีพยานหลักฐานแบบนี้ตอนที่ผมเป็นเลขา ท่านก็สามารถเอาไปตรวจสอบได้ ถ้าท่านมีข้อสงสัย ท่านก็เรียกผมมาสอบได้พร้อมกับยืนยันว่าเอกสารที่ผมเก็บไว้สามารถตรวจสอบได้ ในเอกสารก็จะมีบอกหมดว่าใครรับเงินเดือนที่ไหนบ้าง ผิดข้อบังคับอะไรบ้าง ก็สามารถชี้ให้กกท.ได้รับทราบและสามารถตรวจสอบได้ตามขั้นตอน"

        "แต่ถ้าท่านไม่ทำ ท่านมาแจ้งผมว่าท่านไม่ทำ ท่านก็เป็นหน่วยงานที่อยู่ใต้กฏหมาย ซึ่งถ้าท่านไม่ทำ ท่านละเว้น ท่านก็ว่าไป ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยจะต้องมีการประเมินการทำหน้าที่ทุก 6 เดือน ซึ่งผมก็ต้องติดตามทุกที่ หน่วยงานไหนที่เกี่ยวข้อง ผมก็จะส่งไปทุกที่ โดยเฉพาะเรื่องการโกงภาษี ผมต้องการให้มีการตรวจสอบทั้งหมด ผลอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย แต่พยานหลักฐานก็มีอยู่ในเอกสารทั้งหมด"

        "ถ้า กกท. ไม่ตรวจสอบผมก็จะร้องเรียนไปที่ ปปช.เลย  และถือว่า กกท.ละเว้น หรือเข้าด้วยช่วยเหลือ กกท. ก็อยู่ภายใต้กฏหมาย ต้องปฎบัติตามกฏหมาย ผมก็เป็นตำรวจเก่า เอาคนติดคุกมาก็เยอะแล้ว"

        "ถ้าสุดท้ายสมาคมกีฬาฟุตบอลฯมีความผิดจริง กกท.ก็ต้องฟันธงได้เลย กกท.ก็ถือกฏหมายอยู่ ถ้าถามว่า กกท.สามารถสั่งปลดนายกสมาคมฯได้หรือไม่กรณีมีความผิดจริง ผมก็ไม่รู้ว่า กกท.เขาจะกล้าทำหรือเปล่า ไม่ใช่แค่ที่ กกท. อย่างเดียว" 

        ขณะเดียวกันทางด้าน พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯได้มีการแถลงข่าวชี้แจงกับประเด็นดังกล่าว ว่า "ทางสมาคมทำงานเป็นระบบ และส่งเอกสารให้ทาง กกท.ตั้งแต่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะอยู่ในระหว่างการพิจารณา โดยทางสมาคมได้ชี้แจงไปทั้งหมดที่อดีตเลขาสมาคมข้องใจ"

        "ส่วนตัวมองว่า สมาคมฯไม่ได้กังวลอะะไร เมื่อทุกอย่างมีความชัดเจนทั้งหมด และหากใครยังจำสโลแกนในการเข้ามาทำงาน คือ แฟร์ และยังคงเป็นเช่นนั้น ส่วนผลงานของทีมชาติที่บางครั้งฟุตบอลแพ้ ตกรอบไม่ได้เข้าชิง ก็ดันเอาเรื่องนี้มาโฟกัสที่นายกฯว่าควรจะออกจากตำแหน่ง คงไม่ใช้ทั้งหมด เพราะการทำฟุตบอลมันต้องใช้เวลาในการพัฒนา"