ทหารเรือร่วมกับตำรวจ 2 จังหวัดประเดิมศักราชใหม่ สกัดจับ 2 คนร้ายขนยาบ้าเกือบ 4 ล้านเม็ดของกลุ่ม "ยี่เซ" ด้าน บช.ภ.1 ก็มีผลงาน ยึดยาบ้า 8.5 แสนเม็ดพร้อมผู้ต้องหาคนสำคัญ
    ที่กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเทศบาลเมืองนครพนม วันที่ 7 มกราคมนี้ พล.ร.ต.ระพีพงษ์ โสวรรณ ผบ.นรข., พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร, พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม, พล.ต.สัญชัย รุ่งศรีทอง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พล.ต.ต.นัฐ สิงห์อุดม ผบก.ตชด.23 แถลงผลการจับกุมยาบ้าเกือบ 4 ล้านเม็ด พร้อมผู้ต้องหา 2 คน ซึ่งเป็นการจับกุมยาเสพติดล็อตแรกของปี 2562 ในเขตพื้นที่ จ.นครพนม
    ก่อนหน้านี้ น.อ.อภิชาติ แก้วดวงเทียน ผบ.นรข.เขตนครพนม ทราบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดให้โทษไม่ทราบชนิด โดยไม่มีพิกัดแน่นอนว่าจะขนขึ้นพื้นที่ไหน ระหว่าง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หรือ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร จึงพร้อมด้วยหน่วยงานความมั่นคงบูรณาการวางแผนเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดดังกล่าว โดยแบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด ลาดตระเวนอย่างเข้มงวด
    กระทั่งวันที่ 6 ม.ค.62 เวลาประมาณ 20.00 น. ชุดลาดตระเวนทางถนนหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 (ถนนชยางกูร) พบรถกระบะต้องสงสัยยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว 4 ประตู ทะเบียน สฐ 5264 กรุงเทพมหานคร ภายหลังทราบว่าเป็นทะเบียนปลอม มีลักษณะผิดสังเกต เนื่องจากบริเวณท้ายกระบะมีวัตถุต้องสงสัยยัดจนเต็มพื้นที่ ได้ขับแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันบางจาก ใกล้กับสามแยกอำเภอหว้านใหญ่ บ้านคำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร มีชายนั่งมา 2 คน ก่อนจะขับมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองมุกดาหาร เจ้าหน้าที่จึงวิทยุแจ้งข่าวตามจุดต่างๆ แล้วไล่ติดตามไปจนถึงทางแยก 82 พรรษา บ้านโคกสุวรรณ ต.มุกดาหาร ก่อนจะถึงตัวจังหวัดไม่กี่กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงขับรถปาดหน้าพร้อมแสดงตัวขอตรวจค้น 
    ตรวจสอบทราบว่าชาย 2 คนที่นั่งมาคือ นายวรวุฒิ เสนพันธุ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขับ และนายบรรจบ ศรีวรสาร อายุ 46 ปี ทั้งสองเป็นชาวนครพนม ที่กระบะท้ายบรรทุกสิ่งของห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำ ภายในเป็นถุงกระสอบสำหรับบรรจุอาหารสัตว์ จำนวน 19 กระสอบ ล้วนบรรจุยาบ้า จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปที่กองบังคับการสถานีเรือธาตุพนม เพื่อทำการตรวจนับพบเป็นยาบ้าประมาณ 3,760,000 เม็ด คิดเป็นมูลค่า 376 ล้านบาท หากเล็ดลอดถึงพื้นที่ชั้นในจะมีราคาเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
    สอบสวนนายวรวุฒิให้การว่า เพิ่งรับจ้างขนยาบ้าเป็นครั้งแรก และไม่เคยรู้จักกับนายทุนมาก่อน โดยได้ค่าจ้างคนละ 50,000 บาท จ่ายก่อนคนละ 10,000 บาท พร้อมค่าน้ำมันรถอีก 10,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท ซึ่งนายทุนจะสั่งการทางโทรศัพท์ให้ไปรับยาบ้าที่บ้านทรายมูล หมู่ 7 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม แล้วสั่งให้ขับมุ่งหน้าไปทาง จ.มุกดาหาร โดยมีนายบรรจบนั่งมาเป็นเพื่อน 
    ด้านเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งสอง เนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.61 นายวรวุฒิถูกจับกุมพร้อมเพื่อน มียาบ้าจำนวน 48 เม็ด ในชั้นต้นเป็นเพียงผู้เสพ จึงถูกสั่งให้บำเพ็ญประโยชน์ ก่อนจะรับออเดอร์งานขับรถขนยาบ้าเกือบ 4 ล้านเม็ด พร้อมกับเพื่อนต่างวัยคือ นายบรรจบ ที่มีอาชีพเป็นช่างเชื่อม เคยถูกไฟฟ้าชอร์ตจนขาพิการข้างหนึ่ง ซึ่งกลุ่มนายทุนและผู้ต้องหาต่างอยู่ในขบวนการผิดกฎหมายข้ามชาติ ทั้งรถยนต์และยาเสพติดทุกประเภท เบื้องต้นยาบ้าล็อตนี้มีตรา 999 สัญลักษณ์ของกลุ่มว้าใต้ หรือนายพลยี่เซ
    ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 กับพวก แถลงจับกุมนายกิตติไกร หรือกอล์ฟ ชัยยงยศ อายุ 36 ปี ชาว จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 856,000 เม็ด จับกุมได้ที่ริมถนนสาธารณะ บริเวณคอสะพานก่อนถึงแยกไฟแดงบ่อเงิน หมู่ 13 ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี 
    สืบเนื่องจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดของนายวราวุฒิ จันทร์เงิน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 586,000 เม็ด ที่บริเวณ ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 โดยมีการนำยาบ้าซุกซ่อนไว้ภายในตู้แช่เย็นอาหารทะเล จากการสอบสวนขยายผล ทราบว่านายกิตติไกร หรือกอล์ฟ ชัยยงยศ เป็นผู้ค้ารายใหญ่ จะขนยาบ้าอีกเที่ยวหนึ่งจากชายแดนเชียงรายไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดยจะซุกยาบ้าไว้ในตู้แช่เย็นอาหารทะเล เจ้าหน้าที่จึงสกัดจับไว้ได้.