โอกาส? ปีหมูทอง


เพิ่มเพื่อน    


    ก้าวเข้าสู่ปีใหม่มาได้เกือบ 2 สัปดาห์แล้ว หลายคนก็คงหวังให้ปีใหม่นี้เป็นปีแห่งการเริ่มต้นใหม่ ก้าวหน้าไปในสิ่งดีๆ ทั้งการงาน การเงิน รวมถึงด้านอื่น และทุกการผลัดเปลี่ยน ก็จะมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ว่าจะเป็นการตั้งระบบให้รีเซตตัวเองใหม่ สิ่งที่เคยล้มเหลว หรือปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในปีเก่าๆ ที่เป็นปัจจัยให้ผู้คนต้องเหนื่อยล้ามาก็จะเหมือนได้กดปุ่มเริ่มต้นใหม่
    ขณะที่ด้านความเป็นอยู่ สังคม หรือแม้กระทั่งเศรษฐกิจ ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นก็อาจจะไม่ถูกรีเซตค่าให้เป็นศูนย์เหมือนกับชีวิตที่ผู้คนหวังให้เป็นอย่างนั้น เพราะทุกอย่างเป็นกลไกที่เดินหน้ากันมาอย่างต่อเนื่อง หากปัญหาการเงินที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว เมื่อเริ่มปีใหม่มามันก็อาจจะยังไม่ถูกสะสางให้จบในทันที และยังดำเนินต่อไปจนอาจจะทำให้เป็นปัญหาที่มาบั่นทอนการดำเนินงานในปีนี้อีกด้วย
    รวมถึงตัวเศรษฐกิจ และถึงจะเปลี่ยนปี แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ยังเหมือนเดิมอยู่ และหากปัญหาเหล่านั้นส่งผลดีต่อประเทศไหน ปีนี้ก็ยังส่งผลดีอยู่อย่างแน่นอน แต่หากมันส่งผลกระทบต่อด้านไหนมันก็ยังกระทบอยู่เช่นเดิม และที่กล่าวมาทั้งหมดก็จะพูดได้ว่า ปัญหาการเมืองหรือเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับโลกเมื่อช่วงปีที่แล้ว บางอย่างก็ยังไม่ถูกสะสางแม้จะเปลี่ยนปีแล้วก็ตาม อย่างเช่น การกีดกันทางการค้า การเมืองระหว่างประเทศ ปัญหาคว่ำบาตร หรือเพิ่มปริมาณการผลิตจนเกินความต้องการ
    แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้กระทบประเทศไทยมากนัก เนื่องจากระบบการค้ายังไม่ได้เทียบชั้นกับประเทศที่มีปัญหา รวมถึงบางเรื่องยังส่งโอกาสดีให้กับประเทศด้วยซ้ำ และหลายคนมองว่า ในปี 2562 นี้ ประเทศไทยอาจจะต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลกอย่างมาก และเลือกสิ่งที่เป็นโอกาสดึงมาพัฒนาให้เป็นจุดแข็งของประเทศในช่วงที่เกิดความโกลาหลนั้นๆ
    อย่างเช่น การลงทุนในปี 2562 หลายฝ่ายทั้งเอกชนและรัฐบาลเองยังมองว่าเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะมีทิศทางเติบโตได้ดี เนื่องจากปัญหาการกีดกันการค้าหรือสงครามการเมือง ที่ทำให้ประเทศต้นเหตุไม่สามารถไปลงทุนหรือทำการค้าขายให้กับแหล่งการค้าเดิมได้แล้ว ก็จะต้องทำการเปลี่ยนตลาดให้สามารถระบายสินค้าหรือแม้กระทั่งสั่งวัตถุดิบต่อไปได้ และนี่คือหนึ่งโอกาสของประเทศไทยที่จะเป็นเบอร์ 1 ในอาเซียนของทุกๆ ด้าน ด้วยความพร้อมของวัตถุดิบ กำลังคน และสถานที่ หากจับจุดถูกและพัฒนาให้เป็นจุดแข็ง ก็พร้อมจะรองรับความต้องการของประเทศนั้นๆ ได้
        แต่ขณะเดียวกันอนาคตอันใกล้นี้ก็จะเกิดการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนรองรับเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาถึง หรือที่เรียกว่า การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี (ดิสรัปทีฟ) ก็จะเป็นความท้าทายอีกหนึ่งข้อให้กับผู้ประกอบการในประเทศไทย แต่ก็ยังเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากเป็นช่วงที่ไทยจะต้องปรับเปลี่ยนให้เร็วและตามทันกลุ่มประเทศอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดความล้าหลัง และยิ่งปัจจุบันรัฐบาลก็มีการสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายสมัยใหม่ ที่จะต้องอาศัยการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้อยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะก้าวไปพร้อมๆ กับประเทศที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนเหมือนกัน
    แต่อุปสรรคที่ท้าทายที่สุดไม่ใช่การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีของประเทศเท่านั้น เพราะต้องรวมถึงการสร้างความเข้าใจและผลักดันให้ก้าวทันของคนในประเทศด้วย รวมถึงความพร้อมของเทคโนโลยีที่จะรองรับความต้องการของโลก รวมถึงการมีพันธมิตรที่ดี ที่จะพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้าก็สำคัญอย่างมาก หากทั้ง 3 สิ่งนี้ประเทศไทยมีพร้อมแล้ว การเปลี่ยนผ่านหรือการรับมือเทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นอุปสรรคอย่างที่หลายคนกลัว
    อย่างไรก็ตาม ปีหมูทองปีนี้อาจจะไม่ใช้การกดปุ่มรีเซตให้ทุกอย่างกลับไปเป็นศูนย์และเริ่มพัฒนาใหม่ แต่มันเป็นการกดปุ่มสตาร์ทในการที่จะหยิบยืมโอกาสการเปลี่ยนแปลงของโลกมาเป็นการพัฒนาประเทศให้ก้าวทันคนอื่น ซึ่งก็หวังว่าการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลชุดเก่า หรือรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาทำงานในปีนี้จะมีความเข้มข้น และเข้มแข็งพอที่จะฝ่าฟันอุปสรรคที่จะเข้ามา และมีความทันสมัย ฉลาดที่จะพลิกวิกฤติให้เกิดเป็นโอกาสขึ้นมา.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"