ไอเดียปฏิรูปตร. ใช้โดรนจับโจร เด้งกากีผมยาว


เพิ่มเพื่อน    

     คกก.ปฏิรูปตำรวจผุดไอเดียใช้ "จีพีเอส-โดรน" ตามจับคนร้าย พร้อมแบ่งงบประมาณตามขนาดโรงพัก 3 ระดับ "สตช." มีคำสั่งล็อตสอง เด้ง 31 สีกากีเข้ากรุ ศปก.ตร. เหตุผมยาวไม่ยอมตัดตามระเบียบ  
    ที่รัฐสภา วันที่ 7 ก.พ. นายมานิจ สุขสมจิตร โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิรูปตำรวจว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณายกระดับโรงพักเป็น 3 ขนาด หรือ เอส, เอ็ม และแอล คือ 1.ขนาดเล็ก มีบุคลากร 50-70 นาย 2.ขนาดกลาง มีบุคลากร 100-120 นาย และ 3.ขนาดใหญ่ มีบุคลากร 180-220 นาย เพื่อให้เป็นการอำนวยความสะดวกในการจัดสรรในการใช้งบประมาณในแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสม 
    นายมานิจกล่าวว่า การแบ่งขนาดโรงพักเพื่อไม่ให้เป็นภาระตำรวจกับประชาชน ที่อาจมีการใช้ระบบอุปถัมภ์ พร้อมทั้งมีคู่มือตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เช่น การเปรียบเทียบปรับ จะต้องทำให้เสร็จภายใน 30 นาที และการรับแจ้งเอกสารหาย จะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 นาที การดำเนินการสำเนาเกี่ยวกับคดีต้องแล้วเสร็จภายใน 2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ประชาชนรอนาน
    โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรมฯ กล่าวว่า ในที่ประชุมยังให้ยกเลิกคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) และตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบการบริหารที่ดีประจำจังหวัด และคณะกรรมการส่งเสริมสนับสนุนตำรวจระดับสถานี โดยผู้ที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการฯ มีทั้งตำรวจ ประชาชน หน่วยงานเอกชน และท้องถิ่น เข้ามาร่วมทำงานด้วย ส่วนในระดับจังหวัดนั้น จะมีทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งเป็นความร่วมมือเป็นไปตามโมเดลประชารัฐ 
    "จะมีการนำระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ติดตามผู้ร้าย เช่น ใช้ระบบจีพีเอสและใช้โดรนในการไล่ล่าผู้ร้ายตามสถานการณ์ที่เหมาะสม เพื่อรองรับให้เท่าทันโลกในการปราบอาชญากรรมเหมือนในต่างประเทศ ซึ่งคณะกรรมการฯ ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับข้อเสนอเหล่านี้เช่นกัน" โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมฯ กล่าว
    วันเดียวกัน พล.ต.ท.สุรพล พินิจชอบ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนามในหนังสือคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) ที่ 9/2561 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    หนังสือคำสั่งตอนหนึ่งระบุว่า ตามวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ 0007/02 ลงวันที่ 30 มกราคม 2561 กำชับการปฏิบัติเรื่องความประพฤติและระเบียบวินัยในการแต่งเครื่องแบบและทรงผมของข้าราชการตำรวจนั้น เนื่องจากพบว่าข้าราชการตำรวจบางนายยังประพฤติปฏิบัติไม่เป็นผู้เคร่งครัดในระเบียบ วินัย ตามแนวทางที่กำหนด ปล่อยให้ผมยาวไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการปฏิบัติงาน
    "จึงให้ข้าราชการตำรวจจำนวน 31 ราย ตามบัญชีรายชื่อแนบท้ายคำสั่งนี้ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากต้นสังกัด เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง"
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจทั้ง 31 นายที่ถูกคำสั่ง ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีตั้งแต่ระดับรองผู้กำกับการ (รอง ผกก.) ลงไปถึงชั้นประทวน แบ่งเป็น รอง ผกก.3 นาย, สารวัตร(สว.) 7 นาย, รองสารวัตร (รอง สว.) 7 นาย, ชั้นประทวน 14 นาย โดยส่วนใหญ่เป็นตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (บช.ภ.3) และตำรวจสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.).


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"