โพลยังยกบิ๊กตู่นั่งนายกฯ


เพิ่มเพื่อน    

  พรรคการเมืองเดินสายเปิดตัว “ปชป.”  ใช้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแง้มว่าที่ 30 ผู้สมัคร ส.ส.ใน กทม. ลั่นเดินหน้า ปชต.ไม่มีวนกลับแน่ “หญิงหน่อย” ทัวร์อีสาน อ้าแขนให้ชาวบ้านกอด เผยไม่เลิกบัตรคนจน! ซูเปอร์โพลชี้ 86% มอง “บิ๊กตู่” เหมาะนั่งเก้าอี้นายกฯ ต่อ บี้ 4 รัฐมนตรีหุ้นไขก๊อก ชี้หากช้าทำคะแนนนิยมวูบแน่

    เมื่อวันอาทิตย์ หลายพรรคการเมืองยังคงเดินสายหาเสียงและทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เริ่มที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า ปชป.พร้อมแกนนำพรรค ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 30 เขต ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ทีมงานมีการสวมเสื้อแจ็กเกตของพรรค พร้อมทั้งชูป้าย รวมถึงปล่อยขบวนรถหาเสียงอีกหลายสิบคัน ซึ่งทุกคันจะมีภาพคู่ของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในแต่ละเขตกับนายอภิสิทธิ์ พร้อมข้อความว่า “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ”, “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต” และยังติดคิวอาร์โค้ดสำหรับการเข้าถึงช่องทางสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียด้วย
จากนั้น เวลา 14.00 น. นายอภิสิทธิ์ประกาศจุดยืนพรรคว่า ปัจจุบันอาจยังไม่แน่นอนเรื่องวันเลือกตั้ง แต่พรรคยืนยันว่าประเทศไทยต้องกลับคืนสู่หนทางประชาธิปไตย อันเป็นหลักประกันว่าคนที่เข้ามาจะตอบโจทย์แก้ปัญหาตอบสนองประชาชน พรรคจึงปล่อยขบวนรถประชาธิปไตยเพื่อบอกว่าการเดินหน้าครั้งนี้จะต้องไม่วนกลับ พอแล้วกับการเมืองที่วนเวียนวัฏจักร เลือกตั้งแล้วผู้มีอำนาจทุจริต ก่อความขัดแย้ง วนมายังการรัฐประหาร จนบริหารบ้านเมืองมีสภาวะแบบที่เป็นอยู่ 4-5 ปีที่เผชิญกันมา
"อยากให้ประชาชนส่งเสียงดังๆ โดยการไปเลือกตั้ง เพื่อให้ดังพอจน 250 ส.ว.แต่งตั้งต้องเคารพผลการเลือกตั้ง ไม่ให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้งฝืนเสียงประชาชนแล้วนำไปสู่ความขัดแย้งอีก” หัวหน้าพรรค ปชป.ระบุ
สำหรับรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 30 เขต ประกอบด้วย เขต 1 พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ ดุสิต (ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี) ส่งนางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ, เขต 2 ปทุมวัน บางรัก สาทร ส่ง น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์, เขต 3 บางคอแหลม  ยานนาวา ส่ง ม.ล.อภิมงคล โสณกุล, เขต 4 คลองเตย วัฒนา ส่งนายอนุชา บูรพชัยศรี, เขต 5 ดินแดง ห้วยขวาง นายธนา ชีรวินิจ, เขต 6 พญาไท ราชเทวี จตุจักร (เฉพาะแขวงจตุจักร และจอมพล) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี, เขต 7 บางซื่อ ดุสิต (เฉพาะแขวงถนนนครไชยศรี) นายคณวัฒน์ จันทรลาวัณย์, เขต 8 ลาดพร้าว วังทองหลาง นายสรรเสริญ สมะลาภา, เขต 9 หลักสี่ เขตจตุจักร (ยกเว้นแขวงจตุจักร และจอมพล) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ, เขต 10 ดอนเมือง นายธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ, เขต 11 สายไหม ดร.สมชาย เวสารัชตระกูล, เขต 12 บางเขน นายรัฐพงศ์ ระหงษ์, เขต 13 บางกะปิ วังทองหลาง (เฉพาะแขวงพลับพลา) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ, เขต 14 บึงกุ่ม คันนายาว (เฉพาะแขวงรามอินทรา) นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์  
เขต 15 มีนบุรี คันนายาว (ยกเว้นแขวงรามอินทรา) นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย, เขต 16 คลองสามวา นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง, เขต 17 หนองจอก น.ส.เบญญาภา เกษประดิษฐ์, เขต 18 ลาดกระบัง นายอนันต์ ฤกษ์ดี, เขต 19 สะพานสูง ประเวศ (ยกเว้นแขวงหนองบอน และดอกไม้) นางนาถยา แดงบุหงา, เขต 20 สวนหลวง ประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน และดอกไม้) นายสามารถ มะลูลีม, เขต 21 บางนา พระโขนง นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์, เขต 22 คลองสาน บางกอกใหญ่ ธนบุรี (ยกเว้นแขวงดาวคะนอง บุคคโล และสาเหร่) ทพ.สุรันต์ จันทร์พิทักษ์,   เขต 23 เขตจอมทอง ธนบุรี (เฉพาะแขวงดาวคะนอง บุคคโล และสาเหร่) นางนันทพร วีรกุลสุนทร, เขต 24  ทุ่งราษฎร์บูรณะ นายสาทร ม่วงศิริ, เขต 25 บางขุนเทียน นายสากล ม่วงศิริ, เขต 26 บางบอน หนองแขม (เฉพาะแขวงนองแขม) พ.ต.ท.นพ. สามารถ ม่วงศิริ, เขต 27 ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน (เฉพาะแขวงตลิ่งชันและฉิมพลี) หนองแขม (ยกเว้นแขวงหนองแขม) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์, เขต 28 บางแค นางอรอนงค์ คล้ายนก,  เขต 29 ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน (ยกเว้นแขวงตลิ่งชันและฉิมพลี) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ และเขต 30 บางพลัด บางกอกน้อย ผศ.ดร.รัชดา ธนาดิเรก
หน่อยไม่เลิกบัตรคนจน
    ส่วนพรรคเพื่อไทย (พท.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พท. ลงพื้นที่  อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อช่วยนายฉลาด ขามช่วง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 2 ปราศรัยหาเสียง โดยคุณหญิงสุดารัตน์ปราศรัยตอนหนึ่งว่า หากเลือกตั้งเมื่อไหร่จะทำเต็มกำลังความสามารถ ให้ราคาข้าว  ราคายาง ราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำกลับมาดีขึ้น แม้วันนี้จะยังไม่เลือกตั้ง แต่ถ้าเลือกตั้งวันไหน พรรคจะขจัดทุกข์ให้กับประชาชน 
 “ดิฉันสนับสนุนให้เอาบัตรคนจน แต่คุ้มหรือไม่ที่ถือบัตรคนจนแม้ได้เงิน 300-500 บาทก็เป็นยาแดงสมานแผลไม่หาย แค่แก้แสบแก้คัน ก็เอาไว้ก่อน แต่พรรคจะทำให้เกษตรกรดีขึ้น อย่าไปเชื่อว่าเพื่อไทยยกเลิกบัตรคนจน เพื่อไทยทำไม่เป็นแก้แสบ แต่ต้องทำให้หายทุกข์ ยืนยันพรรคใช้เวลาไม่นาน ขอให้อดทนอีกนิด เราจะทำให้ได้มากกว่า ให้ประชาชนปลดทุกข์ให้ได้” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว และว่า ครั้งนี้แม้ยากเขามี 250 ส.ว. แต่พี่น้องจะสั่งสอนให้ถล่มทลายเกิน 250 เสียง ทางออกจากความทุกข์มีกุญแจดอกเดียวคือพรรคเพื่อไทย แบ่งคะแนนไม่ได้
          ในช่วงท้าย คุณหญิงสุดารัตน์บอกกับประชาชนว่า "ใครอยากจะกอดมาเลย มารับเลย หน่อยจะลงไปกอดทุกคน" ทำให้ประชาชนที่มารอฟังการปราศรัยด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวลุกขึ้นมาหาคุณหญิงสุดารัตน์เพื่ออุ้มรับคุณหญิงสุดารัตน์ที่กระโดดลงจากเวที 
ที่ศูนย์ประสานงานพรรคชาติพัฒนา อาคารเดอะไนน์ เพลส เขตประเวศ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) พร้อมคณะเปิดศูนย์ประสานงานพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ทั้ง 30 เขต โดยนายสุวัจน์กล่าวว่า  พรรคพร้อมในการลงสมัครรับเลือกตั้ง เหมือนกับเราเป็นนักกีฬา ที่เมื่อกรรมการเป่านกหวีด เราก็พร้อมลุย ส่วนจะเลือกเมื่อไร เรา No Problem ไม่มีปัญหา 
“พรรคเคยทำงานกับคนกรุงเทพฯ มาแล้วในอดีต ส.ส.กรุงเทพฯ เราเคยก็มีคุณปวีณา หงสกุล อีกทั้งพรรคก็ยังเคยส่งสมัครผู้ว่าฯ กทม.มาแล้ว ซึ่งชัดเจนว่าเราคุ้นเคยกับคนกรุงเทพฯ และวันนี้เราก็พร้อมรับใช้พี่น้องและแก้ปัญหาให้ชาวกรุงเทพฯ ให้หมดไป Bangkok No Problem” นายสุวัจน์กล่าว
ส่วนนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ ดร.กฤชนนท์ อัยยปัญญา (ดร.ตั้น) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางแค พรรคพลังประชารัฐ นำทีมลุยรับฟังปัญหาประชาชน 
    นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค พปชร.กล่าวว่า พรรคจะลงพื้นที่รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนและสมาชิกต่อเนื่อง โดยในวันจันทร์ที่ 14 ม.ค. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคอีสาน พร้อมคณะ จะเดินทางไปยัง อ.ปักธงชัย และ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา และช่วงบ่ายเดินทางไป อ.ปราสาท จังหวัดสุรินทร์ จากนั้นในวันอังคารที่ 15 ม.ค. จะเดินทางไป จ.ร้อยเอ็ด 
        “ในพื้นที่ภาคอีสาน นายสุริยะมีความมุ่งมั่นและตั้งใจมากที่จะกวาดเก้าอี้ ส.ส.ให้ได้ตามเป้า จึงลงพื้นที่อย่างหนัก ซึ่งในภาพรวมได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนดีมาก เพราะชาวบ้านอยากเห็นบ้านเมืองสงบ” 
ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานคณะทำงานพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อมคณะ เดินคารวะแผ่นดิน คารวะประชาชนที่บริเวณตลาดวังหิน จ.ตาก รณรงค์เชิญชวนประชาชนสมัครเป็นสมาชิกพรรค และมีเป้าต่อไปที่ จ.กำแพงเพชร
        ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พร้อมคณะ เดินสายประชาสัมพันธ์พรรคและแนะนำว่าที่ผู้สมัครในเขตภาคอีสานตอนบนเป็นวันที่ 2 โดยได้พบปะกับประชาชนใน จ.มหาสารคาม และ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งยืนยันว่า อนค.จะส่งผู้สมัครครบทุกเขตใน 2 จังหวัด พร้อมทั้งย้ำนโยบายว่าจะแก้ไขปัญหาที่ต้นตอของโครงสร้าง นั่นคือระบอบอภิสิทธิ์ชนที่ผูกขาดอำนาจ
ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมแกนนำและว่าที่ ส.ส.สมุทรสาคร เข้าสักการะเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ก่อนขึ้นรถ 3 ขบวนก่อนจะปราศรัยในช่วงเย็น
ที่ห้องประชุมโรงแรมวังแก้ว อ.เมืองฯ จ.พิษณุโลก นายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค จัดประชุมชี้แจงนโยบายพรรค และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตภาคเหนือตอนล่าง 
โพลยังหนุน"ประยุทธ์"
    วันเดียวกัน นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจภาคสนามเรื่อง คุณธรรม จริยธรรม นักการเมือง โดยสำรวจประชาชน 1,018 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 11-12 ม.ค. พบว่า ส่วนใหญ่ หรือ 71.4% ระบุการรับรู้ภาพลักษณ์นักการเมืองในสื่อมวลชนมีข่าวเสื่อมเสียมากกว่า ในขณะที่ 28.6% ระบุมีข่าวภาพลักษณ์ดูดีมากกว่า 
    ที่น่าเป็นห่วงคือ ความเห็นต่อข่าวสัมพันธ์รักนักการเมืองกับนักเคลื่อนไหวในคลิปที่เผยแพร่ในสื่อต่างๆ ส่งผลต่อพรรคการเมือง พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 58.7% ระบุเสื่อมเสียต่อพรรคการเมือง ในขณะที่ 41.3% ระบุไม่เสื่อมเสีย นอกจากนี้ ข่าว กกต.ลงมติรัฐมนตรีถือหุ้นสัมปทานรัฐผลประโยชน์ทับซ้อนมีผลต่อพรรคการเมือง พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 64.4% ระบุเสื่อมเสียต่อพรรคการเมืองต้นสังกัด ในขณะที่ 35.6% ระบุไม่เสื่อมเสีย และเมื่อถามความเห็นของประชาชนต่อคุณธรรมจริยธรรมนักการเมืองที่จะเป็นรัฐบาลในอนาคต พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 76.7% ระบุยังไม่มีคุณธรรมจริยธรรมมากพอ ยังไม่ผ่านเกณฑ์ ในขณะที่ 23.3% ระบุมีมากพอแล้ว
    ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯ มากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 85.6% ระบุยังไม่มีใครเหมาะสมมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ โดยมีเพียง 14.4% ที่ระบุว่ามีคนที่เหมาะสมมากกว่า
    นายนพดลกล่าวว่า รัฐมนตรีที่ถือหุ้นสัมปทานรัฐผลประโยชน์ทับซ้อนควรลาออกโดยเร็วที่สุดเป็นของขวัญวันเด็กให้แก่เด็กและเยาวชนของชาติ เพราะยุคนี้เป็นยุคที่รัฐบาลและ คสช.เข้ามาด้วยความหวังสูงสุดในการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้น แต่หากยังนิ่งเฉยรอเวลาต่อไปอีก อาจส่งผลกระทบกัดกร่อนฐานสนับสนุนและเสียหายต่อความเชื่อมั่นศรัทธาได้
    "วันนี้ผลสำรวจชี้ชัดว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เห็นมีใครเหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯ มากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นเพื่อไม่ให้กระทบต่อฐานสนับสนุนของสาธารณชนต่อนายกฯ รัฐบาล และ คสช. จึงเสนอให้รัฐมนตรีเหล่านั้นพิจารณาเสียสละลาออกทันที เพื่อรักษาระบบคุณธรรมจริยธรรมนักการเมืองเป็นของขวัญวันเด็กให้แก่เด็กและเยาวชนของชาติสืบทอดต่อไป" ผอ.ซูเปอร์โพลระบุ
    นายกอบศักดิ์กล่าวประเด็นนี้ว่า 4 รัฐมนตรีของพรรค พปชร.จะคงทำหน้าที่ต่อไป และจะลาออกในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งในส่วนของนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการถือหุ้นบริษัทที่มีสัมปทานกับรัฐ ว่าให้เป็นไปตามกระบวนการ เช่นเดียวกับกรณีของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ และเป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญที่ต้องวินิจฉัย ทั้งนี้ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็พร้อมยอมรับ และที่ผ่านมา พปชร.ปฏิบัติตามระเบียบของ กกต.มาโดยตลอด ไม่ต่างจากพรรคการเมืองอื่น เพราะกังวลเหมือนกัน เพราะหากปฏิบัติไม่ถูกต้อง อาจเกิดปัญหาเรื่องยุบพรรคได้ โดยก่อนทำกิจกรรมอะไรก็จะหารือกับ กกต.ก่อนเสมอ
มาร์คเมินโพลยกบิ๊กตู่
    ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงซูเปอร์โพลที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ว่าสุดท้ายอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งพรรคพร้อมเป็นทางเลือกหลักให้กับประชาชนและว่าที่ผู้สมัครทั้ง 350 เขต ก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่อาสาเข้ามาทำงานมีความมุ่งมั่น ซึ่งขณะนี้รอเวลาที่จะสามารถหาเสียงอย่างเป็นทางการได้ 
ขณะเดียวกัน นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์แสดงความเห็นเรื่องปัญหาการห้ามหาเสียง ว่าการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่อาจเข้าข่ายสองมาตรฐานหรือไม่ วันก่อนห้ามพรรคเพื่อไทยใช้พื้นที่หาเสียง วันนี้เชิญอีกพรรคเต็มที่ 2 มาตรฐาน จากหลังตีนกลายเป็นหน้ามือ เลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่เหมือนทุกครั้งทั่วไป มันคือการแข่งขัน ระหว่างพลังประชาชนกับพลังอำนาจรัฐ ใครอยู่-ใครไป วันหย่อนบัตรรู้กัน
    นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรค พปชร.ใช้ศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.เชียงราย เปิดรับสมัครสมาชิกว่า การที่หน่วยงานราชการเข้ามามีส่วนส่งเสริมสนับสนุนระบบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งรัฐบาล กกต.และท้องถิ่นควรสำนึกในข้อนี้ อยากถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่เคยบอกว่าการใช้สถานที่ราชการสนับสนุนการเมืองไม่ถูกต้องนั้น มันผิดกฎหมายอะไร เพราะดูรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทุกฝ่ายต้องช่วยกันส่งเสริมและสนับสนุนการเลือกตั้ง ใครขอใช้สถานที่ควรอนุญาตให้ทุกคนเสมอภาคกัน และอยากถาม พล.อ.ประวิตร ว่าหากห้ามใช้ที่ราชการแล้วพรรคการเมืองจะปราศรัยในกรุงเทพฯ ต้องปิดแยกราชประสงค์ใช่หรือไม่
         ร.อ.ดร.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พรรค พปชร. กล่าวในเวทีที่ จ.พะเยา ว่าทุกครั้งในการทำการเมือง คือการสร้างงาน ไม่ใช่สร้างภาพเพื่อให้ตัวเองดูดี แต่จับต้องอะไรไม่ได้ ใครอยากสร้างภาพ สร้างเรื่อง นั่นหมายความว่าไม่เคารพและให้เกียรติประชาชน เพราะประชาชนเขาต้องการความจริง สถานการณ์หรือเหตุการณ์ใดๆ ทางการเมืองทุกอย่างที่ผ่านมา ประชาชนเขารับรู้และวิเคราะห์ได้ เพราะปัจจุบันยุคของข้อมูลข่าวสารรวดเร็วมาก เราหลอกประชาชนไม่ได้หรอก โดยกรณีขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา และพรรค พท. ที่กำลังเป็นประเด็นขณะนี้ ก็ไม่ใส่ใจและไม่ให้ความสำคัญแต่ประการใด ไม่มาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระดังกล่าว ขอใช้เวลาทำงานหาเสียงเพื่อบ้านเมืองมีค่ากว่า.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"