ผลเลือกตั้งทัน9พ.ค. กกต.แจงยิบกฎเหล็กหาเสียง/พท.ข่มแจกบัตรคนรวย


เพิ่มเพื่อน    

  เลขาฯ กกต.แจงยิบระเบียบ-ประกาศ กกต. 9 ฉบับ เตือนผู้สมัครระวังกดไลค์-แชร์ข้อความใส่ร้ายเสี่ยงใบแดง พิมพ์หรือติดป้ายเกินเจอโทษคุก 6เดือน ช่วยซองงานบุญสุ่มเสี่ยงถูกตีความซื้อเสียง ระบุหากเลือกตั้ง 24 มี.ค. ประกาศผล 45 วันก่อน 9 พ.ค. "บิ๊กตู่" ย้ำเลือกตั้งมีแน่ก่อน 9 พ.ค. ยื้อไม่ได้ ไม่อย่างนั้นต้องแก้ รธน. ขอให้บ้านเมืองสงบระหว่างมีพระราชพิธี "บิ๊กป้อม" ให้รอประกาศ พ.ร.ฎ.เร็วๆ นี้ "ปิยบุตร" ย้อนหากอยากรู้คนอยากเลือกตั้งมีจำนวนเท่าไหร่ ต้องรีบจัดเลือกตั้ง "นิพิฏฐ์" ปูดปลัด จว.ซื้อเสียง 500 "หน่อย" ฟุ้งแจกบัตรคนรวยแทนบัตรคนจน 

    ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วันที่ 16 มกราคม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. กล่าวชี้แจงกรณีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ส.ส. และประกาศ กกต. จำนวน 9 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการเลือกตั้งว่า ระเบียบดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เมื่อพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.)ให้มีการเลือกตั้งมีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ การออกระเบียบดังกล่าว กกต.คำนึงถึงเรื่องการที่กฎหมายกำหนดให้การหาเสียงของผู้สมัครและพรรคการเมืองต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียมกัน อีกทั้งกฎหมายยังกำหนดให้รัฐสนับสนุนการหาเสียงให้พรรคการเมือง จึงทำให้ กกต.กำหนดค่าใช้จ่ายแบบแบ่งเขตไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และแบบบัญชีรายชื่อไม่เกิน 35 ล้านบาท 
    พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ในเรื่องโซเชียลมีเดียกำหนดให้ผู้สมัครหาเสียงได้ทั้งในเฟซบุ๊ก ไลน์ และแอปพลิเคชันต่างๆ โดยคิดเป็นค่าใช้จ่ายซึ่งผู้สมัครต้องแจ้งต่อ กกต.ก่อนการหาเสียง เพื่อป้องกันการแอบอ้าง อวตาร หรือการสวมรอยสวมชื่อเฟซบุ๊กแล้วนำไปใช้หาเสียงโจมตีผู้อื่น ซึ่งหาก กกต.ตรวจสอบพบ จะได้แจงไปยังผู้สมัครให้ลบทิ้ง ถ้าไม่ยอมลบ กกต.จะดำเนินการเอง กรณีหาตัวไม่ได้ก็ลบออกจากโซเชียลมีเดียเช่นกัน เพราะกรณีเช่นนี้ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งทำให้เสียหาย ซึ่งประธาน กกต.ให้ความสำคัญจะลงมาดูแลเอง สำนักงาน กกต.จะตั้งวอร์รูมตรวจสอบ และทำความตกลงกับเจ้าของเว็บไซต์ เว็บเพจ เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูบ เมื่อพบมีการโพสต์ข้อความไม่ถูกต้อง ใส่ร้ายป้ายสี จะประสานให้ผู้โพสต์ลบทิ้ง 
    "หากไม่ลบจะประสานให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการ กรณีเป็นการโพสต์มาจากต่างประเทศ จะประสานตัวแทนในประเทศไทยให้ลบ หากเป็นเว็บใต้ดินหาที่มาไม่ได้ก็จะลบเลย แต่จะเตือนไปยังผู้สมัครให้ระวังการกดแชร์ กดไลค์ กองเชียร์ กองแช่งมีเยอะ เพราะถ้าเป็นการกดแชร์หรือไลค์ข้อความใส่ร้าย นอกจะผิดอาญาข้อหาหมิ่นประมาทแล้ว ยังจะมีความ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และผิดกฎหมายเลือกตั้ง มีโทษใบแดง” พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว 
    ผู้สื่อข่าวถามถึงนายทักษิณ ชินวัตร จะจัดรายการ “กู๊ดมันเดย์” ซึ่งอาจมีเนื้อหาช่วยหาเสียงให้กับบางพรรค สามารถทำได้หรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ หลีกเลี่ยงที่จะตอบโดยอ้างว่า ถ้าเป็นเรื่องของการกระทำว่าอย่างนี้แล้วผิดหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับการตีความ จะให้มาตอบในขณะนี้คงไม่ได้ ยกเว้นเป็นคดีขึ้นมาเราก็จะไปตรวจสอบ
    เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า การติดป้ายประกาศหาเสียงเลือกตั้ง ผู้สมัครสามารถจัดทำป้ายขนาดเอ 3  ไม่เกิน 10 เท่าของหน่วยเลือกตั้ง หรือประมาณ 2,700แผ่น ต่อเขตเลือกตั้ง ส่วนป้ายขนาด 130X245 ซม.  ติดได้ไม่เกิน 2 เท่าของหน่วยเลือกตั้ง หรือ 540 แผ่นต่อเขตเลือกตั้ง ซึ่งป้ายทั้ง 2 แบบดังกล่าวจะติดได้ในสถานที่ที่ ผอ.กกต.เขตกำหนดเท่านั้น ส่วนแผ่นป้ายหาเสียง ขนาด 400X750 ซม. ติดได้ที่หน้าที่ทำการพรรคหรือสาขาพรรค เขตเลือกตั้งละ 1 ป้าย และขอให้พึงระวัง อย่าพิมพ์หรือติดป้ายเกิน เพราะมีโทษอาญา ซึ่งอาจถูกคู่แข่งไปแจ้งความ เนื่องจากมีโทษทางอาญา จำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  
    ส่วนป้ายติดรถหาเสียงและเวทีหาเสียงจะถูกควบคุมด้วยค่าใช้จ่าย สำหรับเนื้อหาและรูปภาพในป้ายหาเสียง เช่น คำขวัญ นโยบาย รูปของผู้สมัคร กรรมการบริหารพรรค และผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกฯ หัวหน้าและสมาชิกพรรคเท่านั้น ส่วนการหาเสียงทางวิทยุ และโทรทัศน์ ผู้สมัครจะดำเนินการเองไม่ได้ โดย กกต.จะจัดสรรเวลาออกอากาศให้ พรรคละไม่เกิน 10 นาที นอกจากนี้กฎหมายยังเพิ่มเติมการดีเบตนโยบายหรือประชันนโยบายของพรรคการเมือง โดยจัดเป็นกลุ่มพรรคการเมือง 3 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นพรรคที่ส่งผู้สมัครตั้งแต่ 300-350 เขต, กลุ่มที่ 2 ส่งผู้สมัครตั้งแต่ 200-299 เขต และกลุ่มที่ 3 ส่งผู้สมัครตั้งแต่ 199 เขตลงมา  ซึ่งในส่วนของสถาบันการศึกษาหรือองค์กรวิชาชีพต่างๆ ก็สามารถจัดดีเบตได้ แต่ต้องยึดหลักความเท่าเทียมกันดังกล่าว
    เมื่อถามถึงกรณีบางพรรคการเมืองมีเครือข่ายเป็นเจ้าของสื่อโทรทัศน์ จะให้น้ำหนักในการนำเสนอข่าวให้กับบางพรรค พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า หากมีการร้องเข้ามา กกต.ต้องไปตรวจสอบ สำหรับเจ้าของสื่อกฎหมายเขียนห้ามไว้แล้วการนำเสนอข่าวต้องเท่าเทียมกันทุกพรรคการเมือง ทำข่าวได้ หาเสียงไม่ได้ ห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองใช้ผู้ประกอบอาชีพ เจ้าของกิจการวิทยุโทรทัศน์ สื่อมวลชน สื่อโฆษณา เอื้อประโยชน์ในการหาเสียงให้กับตน เว้นแต่ถ้าบุคคลนั้นเป็นผู้สมัครสามารถใช้ความรู้ความสามารถทางศิลปะของตนเองในการหาเสียงได้ แต่ต้องไม่ใช้อุปกรณ์ในการแสดง 
เลือก 24 มี.ค.ประกาศผล 45 วัน
    สำหรับกรณีการช่วยซองงานบุญ งานบวช หรืองานศพ แม้จะเป็นงานตามประเพณีนิยมหรือเป็นจารีตประเพณีปกติ ก็ไม่สามารถทำได้ แม้แต่การวางพวงหรีดก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นทรัพย์สินที่ตีเป็นมูลค่าได้ อาจเข้าลักษณะหาเสียง และเป็นพฤติการณ์ที่สุ่มเสี่ยง ส่วนการขอใช้สถานที่ราชการในการหาเสียงของพรรคการเมือง สามารถทำได้ แต่เจ้าของสถานที่ต้องคำนึงถึงเรื่องความเท่าเทียมกัน และยังต้องวางตัวเป็นกลาง และมีจิตสำนึกว่าตัวเองเป็นข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่ใช่ไปเดินช่วยแจกใบปลิวหรือขึ้นเวทีหาเสียง
    เมื่อถามถึงกรณีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จะเชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น มาเตรียมความพร้อมในเรื่องการจัดการเลือกตั้ง เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่า กอ.รมน.ได้ประสานมายัง กกต.หรือไม่ แต่ กกต.ไม่มีอำนาจจะเข้าไปดูตรงนี้ และโดยปกติ กกต.ก็มีหน้าที่จัดอบรมให้ความรู้กับหน่วยงานต่างๆ อยู่แล้ว แต่ลักษณะดังกล่าวจะเป็น กอ.รมน. กกต.ก็มีการให้ความรู้กับหลายหน่วยงานอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นการใช้อำนาจหน้าที่จูงใจให้เลือกพรรคใดพรรคหนึ่งหรือไม่ ก็ต้องติดตามดูกันต่อไป
    พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวถึงการยกร่างคำร้อง 4 รัฐมนตรีถือครองหุ้นสัมปทานรัฐขัดรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งยกร่างคำร้อง อย่างช้าไม่น่าเกินสัปดาห์หน้าจะเสนอให้ประธาน กกต.พิจารณาได้ ส่วนกรณีการตรวจสอบโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐนั้น ขณะนี้ยังไม่ครบกำหนดระยะเวลา 30 วันที่ต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในวันที่ 19 ม.ค.นี้ พรรคจึงยังไม่ได้ส่งรายงานมา
     "ขณะนี้ กกต.ยังรอการประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีเมื่อไร ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้ประสานมา มีเพียงการประสานถึงงานพระราชพิธีว่าจะมีในวันใดบ้าง ในส่วนของ กกต. ได้พูดคุยกันว่าจะจัดการเลือกตั้งและประกาศผลภายใน 150 วัน นับแต่ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ใช้บังคับ ภายใน 9 พ.ค. ส่วนถ้ามีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ระยะเวลาการประกาศผลก่อนวันที่ 9 พ.ค. หรือรวมแล้ว 45 วัน ก็น่าเชื่อว่า กกต.สามารถทำได้ แม้ว่าระยะเวลาดังกล่าวค่อนข้างจะบีบและกฎหมายยังกำหนดให้ กกต.ต้องรับฟังความเห็นของผู้ตรวจการเลือกตั้ง ว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตหรือไม่ด้วย" พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณากำหนดวันเลือกตั้ง
    ที่คุรุสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานในพิธีงานวันครูปี 2562 ว่าในเรื่องสิทธิเสรีภาพ ต้องไม่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะตนไม่อยากเห็นบ้านเมืองเดือดร้อน สับสนอลหม่านอีกครั้ง เพราะปัญหาต่างๆควรได้รับการยุติในวันนี้ ซึ่งเราควรสงบเรียบร้อยได้ด้วยตัวเอง ด้วยคนไทยและระบอบประชาธิปไตยที่เป็นปกติ
    “เราคงต้องอยู่ด้วยกันต่อไปอีกสักพัก ขออย่าเพิ่งเบื่อ เพราะผมมีความจริงจังในการแก้ไขปัญหาระบบการศึกษา วันนี้รัฐบาลต้องดูแลคนหลายกลุ่ม รัฐบาลมีรายได้ 3 ล้านล้านต่อปี แต่ทุกกระทรวงของบประมาณมา 7-9 ล้านล้านต่อปี เวลาทำงบประมาณก็ปวดหัวไปหมด ซึ่งผมก็บีบให้ตรงตัวให้ได้ เพราะทุกกระทรวงอยากได้มาก แผนงานต่างๆ ที่เสนอจะต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจน ว่าจะทำได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ก็ยึดคืนทั้งหมด เพื่อแก้ปัญหาเรื่องความโปร่งใส จะได้ไม่มีครหา ไม่ได้จะไปไล่บี้อะไรใคร ซึ่งบางอย่างต้องฟังหูไว้หู เพราะถ้าไม่ฟังเลยก็โง่ แต่ถ้าฟังทุกอย่างก็จะบ้า” 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้บ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ถึงอย่างไรก็จะมีการเลือกตั้งแน่นอน ไม่สามารถที่จะดึงอะไรต่อไปได้ การเลือกตั้งจะขยับไปมา ก็แล้วแต่เหตุผล ซึ่งจะยังอยู่ภายในวันที่ 9 พฤษภาคม เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้แล้ว ไม่อย่างนั้นก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งทำไม่ได้ เพียงแต่จะขยับไปมาอยู่ภายในกรอบ ถึงอย่างไรก็เลือกตั้งก่อน 9 พฤษภาคม และช่วงนี้จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ ซึ่งวันนี้ก็มีการเคลื่อนไหวเดินขบวนกันไปกันมา 
    "ผมอยากให้ช่วงเวลาสำคัญนี้นิ่งสงบ เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้ว ก็จะมีการประกาศผล ตรวจสอบคุณสมบัติ ตั้งรัฐบาล เลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งยังมีอีกหลายขั้นตอน โดยช่วงหลังเลือกตั้งเป็นเวลาที่มีความนิ่ง เพราะไม่มีการหาเสียงแล้ว การเลือกตั้งไม่ควรจะพันกับช่วงเวลาสำคัญ เหตุผลผมมีแค่นั้น เพื่อมุ่งหวังที่จะได้การเมืองที่มีเสถียรภาพ มีประเทศไทยที่เจริญก้าวหน้า" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
รอประกาศ พรฎ.เร็วๆ นี้
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมือง หลัง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ออกมาปรามกลุ่มคนอยากเลือกตั้งไม่ให้ชุมนุมล้ำเส้นกระทบงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า คงไม่ต้องปราม เพราะกลุ่มคนอยากเลือกตั้งก็รู้อยู่แล้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่ว่าต้องช่วยกันอยู่ในกรอบของกฎหมาย แม้จะมีความเห็นต่าง ก็รู้กันอยู่แล้วว่าถึงอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้งภายใน 150 วัน เพราะ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง ส.ส.ก็ต้องออกมาอยู่แล้ว
    ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมลากยาวออกไปจะส่งผลกระทบต่อการเชิญแขกคนสำคัญมาร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เชื่อว่าการชุมนุมจะไม่ลากยาว เพราะลากไม่ได้ และไม่มีการลากแน่นอน ซึ่งหากจะมีการชุมนุมก็จะต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่เป็นรายวัน เรามีกฎหมายอยู่ ไม่ต้องห่วง 
    "อย่างไรก็ตาม ก็มีกลุ่มคนที่อยากให้มีการเลือกตั้งหลังงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก็มีคนคิดแตกต่างกัน มีทั้งสองฝ่าย เพราะถึงอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้งภายใน 150 วัน เป็นไปไม่ได้ที่จะนานกว่านั้น เมื่อมีการประกาศ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้งลงราชกิจจาเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ จากนั้น กกต.ก็จะไปดูว่ามีการทับซ้อนอะไรหรือไม่ ต้องให้เวลา กกต.ทำงานด้วย ซึ่งเราก็รออยู่ โดยเฉพาะ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง ที่จะประกาศในเร็วๆ นี้"
    เมื่อถามถึงการลงพื้นที่ภาคเหนือมีเสียงสนับสนุนรัฐบาลอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ดี ไม่เห็นมีอะไร รวมถึงยังมีเสียงสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อด้วย โดยวัดจากประชาชน ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนจะสามารถเปลี่ยนเป็นคะแนนเสียงได้หรือไม่นั้น ไม่ทราบ ส่วนการลงพื้นที่ทั้งฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ของภาคเหนือยังไม่มีรายงานอะไรเป็นพิเศษ เพราะตอนนี้เราไม่มีเสื้อสีอะไรทั้งนั้น
    ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตรระบุว่าคนที่ต้องการเลือกตั้งมีอยู่แค่นิดเดียว จากคนไทย 70 ล้านคนว่า ตนและทีมงานพรรคอนาคตใหม่เพิ่งกลับมาจากกิจกรรมคาราวานแนะนำพรรค อนค.และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในเขตภาคอีสานตอนบน ไล่มาตั้งแต่ จ.หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร และอำนาจเจริญ โดยทุกที่ที่เราไป พบว่ามีประชาชนเข้ามาพูดคุย เล่าให้ฟังถึงปัญหา โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ สินค้าราคาเกษตรตกต่ำ และสอบถามเรื่องวันเลือกตั้งกันเยอะมาก อย่างนี้เรียกว่าเป็นคนที่อยากเลือกตั้งได้หรือไม่
    "คิดว่า พล.อ.ประวิตรอาจจะไม่ค่อยได้เดินทางไปต่างจังหวัด หรือไม่ค่อยได้มีโอกาสพูดคุยกับประชาชนด้วยตัวเองเท่าไหร่นัก เพราะถ้าได้ไปย่อมต้องเจอคำถามว่าเมื่อไหร่จะมีการเลือกตั้ง ก่อนหน้านี้ ประชาชนคาดหวังไว้ว่า วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่แล้วจู่ๆ ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน ไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ เป็นธรรมดาที่ประชาชนจะแสดงออกและทวงถามถึงเรื่องนี้ และนี่คือประชาชนคนธรรมดาที่อยากเลือกตั้ง ไม่ใช่กลุ่มคนที่ พล.อ.ประวิตรมองว่าตั้งใจมากป่วน ถ้าอยากจะวัดว่าคนอยากเลือกตั้ง จากคน 70 ล้านคน ตัวชี้วัดที่เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด ไม่ใช่การใช้ความรู้สึกแบบที่ พล.อ.ประวิตรใช้อยู่ในตอนนี้ ก็ต้องจัดการเลือกตั้ง แล้วจะเห็นว่าคนอยากเลือกตั้งมีจำนวนมากขนาดไหน” นายปิยบุตรกล่าว
     นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า การชุมนุมเคลื่อนไหวหรือแสดงออกทางการเมืองของประชาชนเป็นเรื่องที่ทำได้ ไม่มีคำสั่งใดๆ บอกว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่า ปฏิกิริยาจากฝ่ายผู้มีอำนาจหรือฝ่ายความมั่นคง ตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวนี้เกินกว่าความจำเป็น แสดงอารมณ์ความรู้สึกหรือวาทกรรมเกินพอดี ภาษาฝรั่งเขาบอกว่า Over react หรือไม่ ดังนั้นฝ่ายผู้เคลื่อนไหวก็ต้องรอบคอบ รัดกุม แล้วก็ใช้ความอดทนอดกลั้น เป้าหมายปลายทางไม่ทราบว่าคืออะไร จึงห่วงว่าจะมีใครต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ก่อนการประกาศวันเลือกตั้ง
จี้นายกฯ ทำสัญญาประชาคม
    ส่วนที่ฝ่ายความมั่นคงห่วงการชุมนุมกระทบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ประชาชนมีความเข้าใจ และตระหนักรู้ว่าพระราชพิธีมหามงคลเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนจะต้องให้ความร่วมมือ ให้ดำเนินการไปด้วยความสง่างาม สมพระเกียรติ แต่คือสอบถามวันเลือกตั้งที่ชัดเจนเท่านั้น ไม่มีปรากฏการณ์หรือสัญญาณใดๆ ที่จะไปเกี่ยวข้องกับการจัดงานพระราชพิธีดังกล่าว เขาเพียงบอกว่าอย่าให้วันเลือกตั้งไกลเกินไปจนไปสุ่มเสี่ยงกับการตีความว่ากรอบเวลา 150 วัน เพราะจะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ถือว่าเป็นการถอย ไม่ใช่การรุก ไม่ใช่เป็นการกดดันจนผู้มีอำนาจกระดิกตัวไม่ได้ เป็นการแสดงความยืดหยุ่น และขอเพียงความชัดเจนเท่านั้นเอง ดังนั้นความเคลื่อนไหวของประชาชนกับการจัดงานพระราชพิธีสำคัญไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
    เมื่อถามว่า กลุ่มคนอยากเลือกตั้งรับได้ใช่หรือไม่ หากการเลือกตั้งไม่เกิดในวันที่ 24 ก.พ.นี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนพูดตามข่าวที่ปรากฏในแถลงการณ์ของการชุมนุมครั้งล่าสุด ซึ่งระบุว่าการเลือกตั้งไม่ควรจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 10 มีนาคม เมื่อผู้ชุมนุมแถลงมาเช่นนี้ ก็ตีความได้ว่าเข้าใจแล้วว่า 24 กุมภาพันธ์ อาจเป็นไปไม่ได้แล้ว ในวันนี้ก็ตีความตามเนื้อผ้าแถวนั้นเอง
    นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะยืนยันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในกรอบเวลา 150 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด พร้อมโยนให้ กกต. พิจารณาวันที่เหมาะสม ซึ่งคิดว่ายังไม่ชัดเจนและน่าจะมีหลักประกันที่มากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมามีการเลื่อนเลือกตั้งมาแล้วถึง 4 ครั้ง จนมีการกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นโมฆบุรุษไปแล้ว การสร้างหลักประกันที่ชัดเจนว่าจะไม่มีการเลื่อนเลือกตั้งอีก นั่นคือการทำสัญญาประชาคมระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับนักการเมืองและประชาชนในภาคส่วนต่างๆ
          "อยากขอความเป็นธรรมให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และกลุ่มคนและประชาชนที่ออกมาเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 เพราะทุกวันนี้ประชาชนทุกภาคส่วน ต้องการที่จะใช้สิทธิขั้นพื้นฐานเลือกผู้นำที่จะมาบริหารประเทศด้วยตัวเอง ไม่ได้เป็นม็อบอาชีพ และไม่เป็นการล้ำเส้น ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมถึง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์  กล่าวหา" นางลดาวัลลิ์กล่าว 
    นายโกศล ปัทมะ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 15 ม.ค. นายไซมอน ลีเวอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ได้พูดคุยกับตนที่โรงแรมฟอร์จูน ราชพฤกษ์ จ.นครราชสีมา เพื่อสอบถามสถานการณ์การเมืองก่อนจะมีการเลือกตั้ง เขาอยากเห็นการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม สะท้อนเจตจำนงของประชาชนให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง และได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ดังนั้นเพื่อให้ได้รัฐบาลที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ จึงขอเรียกร้องไปยัง กกต.ให้จัดการเลือกตั้งที่เป็นธรรม เจ้าหน้าที่รัฐต้องวางตัวเป็นกลาง หยุดพฤติกรรมที่ช่วยเหลือพรรคการเมืองที่สนับสนุนรัฐบาลไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามเหมือนที่ผ่านมา เพราะแบบนั้นการเลือกตั้งจะไม่ได้รับการยอมรับ 
    น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า ความไม่แน่นอนเรื่องวันเลือกตั้งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ การค้า และความเชื่อมั่นด้านการลงทุนของประเทศ เห็นได้จากภายหลังวันที่ 2 ม.ค.62 ที่รัฐบาลไม่ประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นเทขายหุ้น เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งยังมีความไม่แน่นอน ต่างชาติปฏิเสธที่จะลงทุนในประเทศไทย ในขณะที่การจับจ่ายใช้สอยของภาคประชาชนที่มีสัญญาณว่าจะดีในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ภายหลังที่มีข่าวว่าเลื่อนวันเลือกตั้ง ทำให้ประชาชนชะลอการจับจ่ายใช้สอย จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลรีบให้ความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้ง จะทำให้ประเทศกลับเข้าสู่สภาวะปกติมีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยเพื่อฟื้นคืนเศรษฐกิจ 
    ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เชื่อว่า ผบ.ทบ.เจตนาดี เป็นห่วงบ้านเมือง ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง ความรุนแรง หรือความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นมาอีก ท่านเป็นคนรักชาติ รักบ้านเมือง รักประชาชน ประกอบกับกำลังจะมีพระราชพิธีที่สำคัญของประเทศที่คนในชาติตั้งตารอ ดังนั้นพรรคการเมืองหรือกลุ่มคนอยากเลือกตั้งน่าจะเข้าใจ ไม่ใช่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมเพื่อกดดัน คสช. ทั้งนี้ การเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งได้มีการชี้แจงไปแล้วว่าต้องหากเลื่อนนิดหน่อยเพราะเหตุผลอะไร แต่ทำเหมือนพยายามไม่เข้าใจ ไม่รับฟัง และเลิกโจมตีว่าเลื่อนเลือกตั้งเพื่อช่วยพรรค พปชร.ได้แล้ว เพราะเราพร้อมสำหรับการเลือกตั้งทุกเวลา
แจกบัตรคนรวยแทนคนจน
          "การเคลื่อนไหวของกลุ่มอยากเลือกตั้งมีความเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งสังคมทราบดี เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งอีก ไม่ว่าจะเป็นการเผาบ้านเผาเมือง เผาศาลากลางจังหวัด ชุมนุมปิดถนน ปิดสนามบิน คนไทยอยากเห็นบ้านเมืองสงบ ส่วนการเลือกตั้งก็ต่อสู้กันไปตามระบอบประชาธิปไตย ใครรวบรวมเสียงข้างมากได้ก็เป็นรัฐบาล ใครเสียงข้างน้อยก็เป็นฝ่ายค้าน ได้ยินว่านายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำพรรคเพื่อชาติ จะเอานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมา เล่นเอาคนตกใจกันทั้งประเทศ เพราะเขากลัวความขัดแย้ง คนส่วนใหญ่ของประเทศอยากเห็นบ้านเมืองสงบเหมือนทุกวันนี้" นายธนกรกล่าว 
    นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความว่า ปลัดจังหวัดคนหนึ่ง เรียกกำนันคนหนึ่งไปบอกว่าให้ถ่ายบัตรประชาชนลูกบ้าน จะให้เงินลูกบ้านคนละ 500 บาท เป็นการซื้อเสียงในการเลือกตั้ง เห็นข่าวท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยสั่งให้ อปท.วางตัวเป็นกลาง ถ้าปลัดกระทรวงมหาดไทยสนใจอยากรู้ว่าปลัดจังหวัดคนไหนทำ โทร.หาผม ท่านมีเบอร์ผมอยู่แล้ว
     ที่อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค พท. พร้อมนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรค สมาชิกพรรค รวมถึงว่าที่ผู้สมัครของพรรค ร่วมปราศรัย โดยนายชัชชาติกล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยเข้ามาเราจะเร่งผลักดันเส้นพระราม 2 โดยยกระดับจากสะพานพระราม 9 ผ่านวงแหวน มาถึงยกระดับจากมหาชัย ไปวังมะนาว เพราะถนนพระราม 2 คือเส้นเลือดใหญ่ ถ้าเส้นเลือดไม่ดี สมุทรสาครก็ไปไม่ได้ หากเราได้เข้ามาเป็นรัฐบาล เราจะสามารถทำให้โครงการเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง
    ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า มั่นใจว่าทีมผู้บริหารของเราจะทำให้พี่น้องลืมตาอ้าปาก และหาเงินเข้ากระเป๋าให้ตุงๆ ได้ มีคนถามว่า พท.จะทำให้พี่น้องกระเป๋าตุงได้จริงหรือ เราขอยืนยันว่า ถ้าเป็นเพื่อไทยทำได้แน่นอน ไม่เหมือนกับอีกคนที่ยิ่งทำพี่น้องประชาชนยิ่งจนลง แถมยังให้ประชาชนไปขึ้นทะเบียนคนจนอย่างภาคภูมิใจว่ามีคนจนเท่านั้นเท่านี้ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ พท.ทำไม่เป็น พรรค พท.อยากแจกบัตรคนรวย ไม่ใช่แจกบัตรคนจน ไม่ว่าเลือกวันไหน เราก็พร้อมบอกเขาว่าเราจะกุมมือกันออกจากความทุกข์
    ด้าน พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ตั้งสโลแกนว่า อยู่กับเรากระเป๋าตุง อยู่กับลุงกระเป๋าแฟบ นั้น ว่า "ผมไม่รู้ ต้องไปถามเขาดูเอง ว่าคนไหนตุง คนไหนแฟบ ให้ไปถามคนพูด" 
    ในเวทีเสวนาวิชาการหัวข้อ "มุมมองทางการเมือง ต่อความเหลื่อมล้ำทางสังคม" ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ร่วมกับมติชน มีตัวแทนพรรคการเมืองเข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งส่วนใหญ่เสนอให้มีการกระจายอำนาจ กระจายรายได้ แก้ปัญหาการผูกขาด จัดระบบสวัสดิการ  สาธารณสุข  เพิ่มรายได้ เพิ่มแหล่งทุน พัฒนาการเกษตร การท่องเที่ยว และระบบขนส่งสาธารณะ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"