ฉก.พญาเสือลุยตรวจป่าเชียงดาว พบนายทุนบุกรุกจ่อยึด 8 รีสอร์ท


เพิ่มเพื่อน    

19 ม.ค.62 - นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ที่ปรึกษาหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยฉก.พญาเสือ) เปิดเผยว่า นายพนัชกร โพธิบัณฑิต รักษาการหัวหน้าหน่วยฉก.พญาเสือ/หัวหน้าอุทยานฯไทรโยค พร้อมด้วย นายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ และเอกสารสิทธิ์ในที่ดินบริเวณ หมู่ที่ 5 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว และเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว จำนวน 8 ราย

กำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ บริเวณพื้นที่ดังกล่าวพบว่า มีการปลูกสร้างอาคาร บ้านพัก ลักษณะเป็นบ้านพักตากอากาศ / รีสอร์ท โดยมีการประกอบกิจการธุรกิจอย่างชัดเจน จำนวน 8 แห่ง  โดยมีรีสอร์ท จำนวน 2 แห่ง คือ วิลล่าเดอวิล และ บ้านสวนริมธาร ได้นำสำเนาหนังสือรับรองการทำประโยชน์ มาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ จะนำไปตรวจสอบว่า ออกมาโดยชอบด้วยกฏหมายหรือไม่

ทั้งนี้ รีสอร์ท จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย มาลีบังกะโล, เชียงดาวเนส1, บ้านสวนบุพผา, บ้านพักตากอากาศอาจารย์มนัส,บ้านดินเชียงดาว, ม่อนผ่อดอย ไม่มีหลักฐานเอกสารสิทธิ์ใดๆ มาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่เป็นพื้นที่ แจ้งครอบครองการทำประโยชน์ ในที่ดินแปลงสำรวจ ถือครองเพื่อรอการพิสูจน์ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2541ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว แต่ในปัจจุบันพบว่า ได้เปลี่ยนแปลง ผู้ครอบครองทำประโยชน์ ในที่ดินดังกล่าว ซึ่งในพื้นที่แปลงสำรวจถือครอง ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2541 ผู้แจ้งการครอบครอง สามารถอยู่อาศัยทำกินภายในบริเวณ ที่แจ้งการครอบครองนั้น แต่ไม่สามารถมอบการครอบครอง และการทำประโยชน์ในที่ดินนั้น ให้แก่บุคคลอื่นได้ การโอนสิทธ์หรือซื้อขาย หรือการยินยอมให้ผู้อื่น ครอบครองทำประโยชน์ ถือว่าผู้ครอบครองเจตนาสละการครอบครอง

ดังนั้นการกระทำของเจ้าของรีสอร์ท ทั้ง 6 ราย ดังกล่าว เป็นการกระทำผิดเงื่อนไข การนำพื้นที่ที่ได้รับการผ่อนปรน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 ให้อยู่อาศัยทำกิน ตามความจำเป็น เพื่อการครองชีพ แต่ได้มีการนำพื้นที่ไปเพื่อปลูกสร้างบ้านพัก ลักษณะตากอากาศ ซึ่งเป็นการดำเนินการในลักษณะนายทุน ไม่ใช่ผู้ยากไร้ ซึ่งไม่มีระเบียบแนวทางปฏิบัติ การดำเนินการแก้ไข ปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ ตามมติคณะรัฐมนตรี30 มิ.ย. 2541ที่จะผ่อนผันให้ราษฎร แจ้งการครอบครองทำประโยชน์ ในลักษณะบ้านพักตากอากาศ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ได้

คณะเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้ว จึงได้ลงความเห็นว่า การกระทำการข้างต้นดังกล่าว เป็นการยึดถือครอบครองที่ดิน ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ปลูกสร้างสิ่งก่อสร้าง ลักษณะบ้านพักตากอากาศ ผิดปกติวิสัยของราษฎรทั่วไป เป็นการเปลี่ยนแปลงการทำประโยชน์ที่ดิน และผิดปกติเงื่อนไขตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิ.ย. 2541 ไม่อยู่ในสถานะผู้ยากไร้ ที่จะผ่อนปรนให้อยู่อาศัยทำกิน ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ได้ ผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และเป็นการขยายพื้นที่ทำกินเพิ่มเติม เป็นการกระทบกระเทือน ต่อการรักษาป่า หรือสิ่งแวดล้อม

จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 เป็นการกระทำผิดหลักเกณฑ์ การแจ้งครอบครองที่ดิน เพื่อรอการพิสูจน์สิทธิ์ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2541 ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ จะได้ดำเนินการตรวจยึดรีสอร์ทดังกล่าวต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"