ชัยวัฒน์สู้ปปท. ฟ้องกลับ157


เพิ่มเพื่อน    


    "ชัยวัฒน์" ประกาศสู้ ป.ป.ท. ร้องกองปราบแจ้งความกลับมาตรา 157 "ศิษย์เก่าวนศาสตร์" ออกโรงป้องบี้ต้นสังกัดดูแล ขณะที่เครือข่าย #Save ป่าแก่งกระจานบุกทำเนียบฯ ยื่นนายกฯ งัดกฎหมายพิทักษ์เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เอาผิดกลุ่มรุกป่า
    ความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชี้มูลความผิดนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ รวม 6 คน ได้เข้ารื้อถอนเผาทำลายบ้านเรือน ยุ้งฉาง และทรัพย์สินอื่นๆ ของนายโคอิ หรือคออี้ มีมิ ชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจาน และของชาวบ้านอีกหลายราย มีความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 และมีมติให้ออกจากราชการนั้น
    เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นายชัยวัฒน์เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ การสอบสวนของ ป.ป.ท.ผิดหลักการสอบสวน ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ลงไปดูในพื้นที่ป่าเลยแม้แต่คนเดียว ว่าพื้นที่ตรงจุดเกิดเหตุเป็นอย่างไร ตรงไหนเป็นจริงตามพยานหลักฐานหรือไม่ แต่การตัดสินครั้งนี้ ป.ป.ท.อ่านแค่หนังสือเอกสารจากกลุ่มชาติพันธุ์ แล้วด่วนสรุปตัดสิน จึงเสมือนไม่ให้ความเป็นธรรมต่อตน เรื่องนี้คงต้องปกป้องศักดิ์ศรี ไม่ใช่ทำเพื่อตนเอง แต่เพื่อข้าราชการทุกคน ที่ทำงานด้วยความเหนื่อยยากในการปกป้องผืนป่า อันเป็นทรัพยากรธรรมชาติของประเทศและของชาวไทยทุกคน โดยในวันที่ 1 มี.ค.นี้ จะเดินทางไปที่ ป.ป.ท.จังหวัดนครปฐม เพื่อสอบถาม ป.ป.ท.ในรายละเอียดกรณีที่มีการลงมติให้ตนออกจากราชการ 
    รวมทั้งจะเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่กองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับบอร์ด ป.ป.ท.ในความผิดมาตรา 157 เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีไม่มีเจ้าหน้าที่ลงไปในพื้นที่ที่มีความผิดจริง แต่มีการชี้มูลความผิด และมาตรา 200 วรรค 2 ผู้ใดที่มีการให้บุคคลใด หรือผู้หนึ่งผู้ใดต้องรับโทษ หรือรับโทษหนักขึ้น หรือต้องถูกบังคับตามวิธีเพื่อความปลอดภัย ผู้กระทำต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 4 แสนบาท 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ได้มีการลงพื้นที่แก่งกระจานจริง แต่เข้าไปตรวจสอบในเรื่องของการปลูกป่าตามที่มีการร้องเรียน ซึ่งไปเพียงแค่จุดเดียวเท่านั้น รวมทั้งมีเอกสารลับ โดยในรายละเอียดของเอกสารนั้น ป.ป.ท.มีมติว่า ไม่รับข้อสอบสวนของนายชัยวัฒน์ ที่ต้องการให้ไปตรวจสอบพื้นที่ที่มีการกระทำผิด ซึ่งเอกสารดังกล่าวนี้ นายชัยวัฒน์จะนำไปประกอบหลักฐานอ้างอิง เป็นข้อยืนยันว่าไม่ตรวจสอบ ไม่คุ้มครองสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 
    ทางด้านนายพิพัฒน์ ชนินทยุทธวงศ์ นายกสมาคมศิษย์เก่าวนศาสตร์ กล่าวว่า ตอนนี้สังคมรับรู้กันแล้วว่า กรณีที่ ป.ป.ท.ชี้มูลความผิดนายชัยวัฒน์นั้น ยังไม่เคยลงพื้นที่ได้ไปเห็นพื้นที่จริงเลย จึงทำให้ไม่ได้รับรู้ในความยากลำบากของการปฏิบัติงานในพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร แล้วมาตัดสินใจอย่างไร้ความเป็นธรรมอย่างนี้ เป็นสิ่งที่พวกเราคนป่าไม้เอง โดยเฉพาะกลุ่มวนศาสตร์ เราต้องต่อสู้ เพราะว่านายชัยวัฒน์เองเป็นศิษย์เก่าวนศาสตร์ ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะฉะนั้นเราคงจะต้องผนึกกำลังกัน ร่วมใจกันต่อสู้เพื่อให้ความเป็นธรรมกับน้องของเรา ซึ่งได้หารือกันในเบื้องต้นมีการคุยกันนอกรอบแล้ว และในวันที่ 1 มี.ค. จะมีการประชุมกรรมการร่วมกัน จะมีฝ่ายกฎหมายของสมาคมเอง มองว่าถ้าเรามีข้อมูลเพียงพอ เราจะฟ้องกลับไปที่ ป.ป.ท. ทราบว่านายชัยวัฒน์จะไปฟ้อง ป.ป.ท.อยู่เหมือนกัน ทางสมาคมจะเข้าไปร่วมด้วย 
    "เรื่องการบั่นทอนจิตใจของคนดูแลผืนป่านั้นชัดเจนเลย คุณชัยวัฒน์เป็นคนที่ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง มีจิตวิญญาณที่จะรักษาผืนป่า ต้องโดนอย่างนี้ ถ้าไม่มีการเข้ามาช่วยเหลือกัน ต่อไปใครล่ะจะไปปฏิบัติงานเพื่อรักษาผืนป่าของพวกเรา อันนี้เป็นหน้าที่ของเรา เป็นหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะต้นสังกัดด้วยที่จะต้องดูแล ที่จริงแล้วเมื่อ ป.ป.ท.ชี้มูลแล้ว เขาจะต้องส่งสำนวนมาให้ต้นสังกัด ตรงนี้ก็หวังว่าต้นสังกัดจะได้มีส่วนร่วมในการพิจารณา ว่าจะทบทวนไปที่ ป.ป.ท.หรือเปล่า หรือว่าจะทำอะไร" นายกสมาคมศิษย์เก่าวนศาสตร์ระบุ
    ขณะเดียวกัน ในวันที่ 1 มี.ค. เวลา 09.00 น. กลุ่มเครือข่าย # Save ป่าแก่งกระจาน ประกอบด้วย สมาคมอุทยานแห่งชาติ, คนเพชรบุรีรักษ์ผืนแก่งกระจาน, กลุ่มพิทักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ร่วมกันทำหนังสือคุ้มครองผืนป่าแก่งกระจาน ผืนป่าของโลก โดยจะรวมตัวกันกว่า 100 คน เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือ #Save ป่าแก่งกระจาน ให้ดำเนินการตามกฎหมายปกป้องเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า และให้ชาวกะเหรี่ยงที่เข้าไปอยู่บริเวณที่มีการบุกรุก/ล่าสัตว์ป่า ต้องออกมาจากป่าในพื้นที่ดังกล่าวทันที.   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"