แรงโม้‘พปชร.’ ได้ส.ส.150เขต ‘พท.’ด่าตัวเอง


เพิ่มเพื่อน    

  พรรคการเมืองเคลื่อนไหวคึกคัก พลังประชารัฐฟุ้งจากพรรคโนเนมเป็นพรรคตัวเต็ง กวาดเก้าอี้ ส.ส.เขตเกิน 150 ที่นั่งแน่นอน ลั่น "สุริยะ" ทำให้กระเป๋าตุงได้แน่นอน ตอกเพื่อไทยกลับไปพิจารณาตัวเอง บริหารประเทศอย่างไร รัฐมนตรีถึงได้ติดคุก "อดิศร" ขว้างงูไม่พ้นคอ เผลอด่าไทยรักไทย อ้างรู้จัก "สุริยะ" ดี หากเปิดโอกาสให้มีอำนาจทางการเมืองอีก กิจการใต้โต๊ะ คอมมิชชั่นก็จะมาอีก

    เมื่อวันที่ 19 มกราคม มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองคึกคัก หลายพรรคการเมืองลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงเปิดตัวผู้สมัคร ส.ว. และพบปะประชาชนในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ต่างประกาศยึดพื้นที่เลือกตั้ง มีชัยชนะเหนือพรรคการเมืองคู่แข่ง
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความมั่นใจ หลังเปิดตัว 4 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาธิปัตย์ แทนคนเดิมที่ลาออกว่า พรรคประชาธิปัตย์ประสบความสำเร็จหลายครั้ง ในพื้นที่ภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพื้นที่หนึ่งที่มีการแข่งขันสูง เที่ยวนี้เราได้คนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจเข้ามาทำงานการเมือง และมีความมั่นคงร่วมอุดมการณ์ซึมซับในแนวทางนโยบายของพรรค โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกันตั้งแต่ระดับชาติมาถึงภาคตะวันออก และฉะเชิงเทรา จะเป็นทางเลือก ที่พี่น้องประชาชนให้การสนับสนุน
         เขากล่าวว่า การย้ายพรรคของอดีต ส.ส. ถือเป็นเรื่องปกติของการเมืองไทย สำหรับพรรคประชาธิปัตย์เราอยู่ได้ด้วยความมีอุดมการณ์และความเป็นสถาบันของพรรค ที่น่าดีใจคือ เรามีคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาสืบสานอุดมการณ์ของพรรคต่อเนื่อง ฉะนั้นเรามั่นใจว่า เราสามารถจะเดินหน้าต่อ และมีโอกาสรับใช้พี่น้องชาวฉะเชิงเทราได้ต่อ
    "พรรคประชาธิปัตย์มีคนที่มีคุณภาพที่จะมาทำงานให้ที่น้องประชาชน อีกทั้งยังมีแนวนโยบายพรรคตรงกับความต้องการของประชาชนในขณะนี้ ผมจึงมั่นใจว่า จ.ฉะเชิงเทรา พรรคจะได้ ส.ส." นายอภิสิทธิ์กล่าว
    ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เขตบางแค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางมาร่วมเปิดศูนย์ประสานงานพรรค พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า พรรค พปชร.จะปักหมุดในเขตบางแคให้ได้ เราจะเป็นพรรคการเมืองที่อยู่จริง อยู่นาน อยู่ถาวร ตอบโจทย์และทำงานกับประชาชนอย่างใกล้ชิด เราไม่กังวลใจว่าพื้นที่นี้เคยมี ส.ส.พรรคอื่นมาก่อน เพราะเรามีความสดใหม่และตั้งใจทำงานมากไม่แพ้กัน 
    โฆษก พปชร.กล่าวว่า เราต้องการ ส.ส.ใน กทม.ให้มากที่สุด โดยต้องการเป็นพรรคการเมืองของคนกรุงเทพฯ ให้ได้ และเชื่อว่าทั่วประเทศจะได้ ส.ส.เขตเกิน 150 ที่นั่ง จากเดิมที่เป็นพรรคโนเนม แต่ตอนนี้เราเป็นพรรคการเมืองตัวเต็ง เชื่อว่าเราจะสามารถออกนโยบาย มีผู้สมัคร และมีผู้นำที่โดนใจประชาชนได้ 
    “เราเน้นว่าจะไม่จะกลับไปทะเลาะกันอีกแล้ว เราควรเดินไปข้างหน้า เพื่อเป็นประเทศไทยที่สุขสงบ มันหมดสมัยแล้วที่จะกลับไปเดินขบวน ทะเลาะกัน เราควรมีความสามัคคีและช่วยกันเปลี่ยนแปลง การเมืองใหม่จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าไม่มีคนรุ่นใหม่เข้ามา"
4 ปีระเบิดไม่ลง
    นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ประชาชนคนไทยชอบ 4 ปีที่ผ่านมา ที่มีความสงบ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความรุนแรง ไม่ต้องมากังวลว่าจะมีการเดินขบวนที่ใด และไม่ต้องกังวลว่าจะมีระเบิดลงหรือไม่ คนไทยนั้นรักสงบ ถ้ามีคนที่เดินขบวนหรือคนที่เรียกร้องประชาธิปไตย ถามว่าประชาธิปไตยที่ต้องการคืออะไร ประชาธิปไตยต้องฟังเสียงประชาชน รับฟังความเห็นต่าง ต้องไม่มีความรุนแรง ตอนนี้เรากำลังจะกลับสู่การให้ประชาชนตัดสินใจ ขอให้รออีกไม่นาน
    เขาบอกว่า ตอนนี้พรรค พปชร.รอด้วยความตื่นเต้นว่าพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้งจะประกาศเมื่อใด เพื่อจะได้ดำเนินการเรื่องต่างๆ ต่อไป แต่ก็ต้องอดใจ เพราะเราบังคับ กกต.ไม่ได้ ส่วนการลาออกของ 4 รัฐมนตรีนั้น จะเกิดขึ้นพร้อมกันแน่ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม โดยทั้ง 4 คนจะนั่งคุยกัน แล้วตัดสินใจว่าจะลาออกเมื่อใด ซึ่งส่วนตัวเคลียร์งานเสร็จไปแล้วกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ เราพร้อมมากสำหรับการเลือกตั้ง ไม่ได้อยากเลื่อนเลือกตั้งอย่างที่มีการกล่าวหา เพราะเรามีความพร้อม ผู้สมัครหลายคนก็เรียกร้องอยากให้เลือกตั้งโดยเร็ว
    นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้บริหารของพรรคพลังประชารัฐได้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและสมาชิกอย่างหนักทุกพื้นที่ โดยในวันอาทิตย์ที่ 20 ม.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง, ดร.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคเหนือ และตน จะเดินทางลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ อ.แม่ระมาด และ อ.แม่สอด จังหวัดตาก เพื่อพบปะสมาชิก
    นายธนกรกล่าวอีกว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคอีสาน ยังได้ลงพื้นที่ในภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง โดยในวันจันทร์ที่ 21 ม.ค. นายสุริยะ, นายสมศักดิ์ และนายอนุชา นาคาศัย ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคกลาง จะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในจังหวัดชัยภูมิทั้ง 3 เขต โดยมีนายวสันต์ กล้าแท้, นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ และนายพีระพล ติ้วสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พร้อมชาวบ้านนับหมื่นคนมาให้การต้อนรับ 
    ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ในหลายจังหวัดทำให้เรามั่นใจว่าการต่อยอดนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่พรรคจะปรับเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีที่สุด และจะมีสวัสดิการในหลายๆ ด้าน เพื่อสร้างหลักประกันให้ผู้มีรายได้น้อยและนโยบายการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นมาตรการช่วยเหลือชาวนา ยางพารา การเลี้ยงโคแก้จน จะสามารถโค่นพรรคเพื่อไทยได้ 
ยันอยู่กับสุริยะกระเป๋าตุง
    นายภิรมย์ พลวิเศษ คณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค พปชร. และเลขานุการนายสุริยะ กล่าวว่า นายสุริยะกล่าวกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ระบุว่าอยู่กับพรรคเพื่อไทยกระเป๋าตุง อยู่กับลุงตู่กระเป๋าแฟบนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะจากการลงพื้นที่สอบถามความเป็นอยู่ของชาวบ้านใน จ.อุบลราชธานี พบว่าราคาข้าวหอมมะลิพุ่งสูงถึง กก.ละกว่า 20 บาทแล้ว ส่วนมันสำปะหลังก็ กก.ละเกือบ 3 บาท
          นอกจากนี้ ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ขายได้ กก.ละ 30 บาท ซึ่งจะเห็นว่าชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ยังได้จ่ายเงินค่าเกี่ยวข้าวให้ไร่ละ 1,500 บาท และมอบเงินสวัสดิการประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าอุปโภคบริโภค ต่อเดือนอีกด้วย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้านเป็นอย่างมาก นี่คือสาเหตุที่นายสุริยะประกาศว่าถ้าพรรคพลังประชารัฐไม่มี ส.ส.ใน จ.อุบลราชธานี ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ก็จะยุติบทบาททางการเมืองทันทีหลังการเลือกตั้ง
        พร้อมขอให้พรรคเพื่อไทยกลับไปทบทวนตัวเอง ว่าตอนเป็นรัฐบาลบริหารอย่างไร ทำไมรัฐมนตรีถึงมีการทุจริต และศาลตัดสินให้ติดคุก ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรัฐบาลมา 5 ปี ประชาชนอยู่ดี กินดี ไม่อดอยาก และไม่มีรัฐมนตรีติดคุกแม้แต่คนเดียว ส่วนที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ประชาชนเลือก ส.ส.เพื่อไทยให้ถึง 250 คนนั้น เป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว และประชาชนก็รู้ทันว่าจะเลือกพรรคไหนถึงจะทำประโยชน์ให้ได้จริง
    ด้านนายอดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสุริยะ มั่นใจพรรคพปชร.จะได้ ส.ส.ขอนแก่นยกจังหวัดทั้ง 10 เขตว่า ไม่ทราบว่าตอนพูดมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนดีหรือเปล่า ได้ศึกษาและมีความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมทางการเมืองของคนขอนแก่นดีแล้วหรือไม่ ขอนแก่นเป็นเมืองที่ศรัทธาประชาธิปไตย ไม่สนับสนุนการรัฐประหาร ไม่สนับสนุนเผด็จการ เมื่อนายสุริยะไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ให้สืบทอดอำนาจ อย่าหวังจะได้รับการสนับสนุนจากชาวขอนแก่น เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ คือโจรปล้นอำนาจประชาชน
    เขากล่าวว่า นายสุริยะคงได้เลิกเล่นการเมืองสมความปรารถนา เพราะความจริงนายสุริยะก็ไม่มีราคาค่างวดอะไร ความคิดการเมือง สนับสนุนคนทำรัฐประหาร ซึ่งถือว่าเป็นเผด็จการ ให้สืบทอดอำนาจ ไม่เหมือนหลานชาย อย่ามายุ่มย่ามกับเมืองขอนแก่นจะดีกว่า 
"สุริยะ"มาโกงอีก
    "ผมรู้จักคุณสุริยะดีมาก หากเปิดโอกาสให้มีอำนาจทางการเมืองอีก กิจการใต้โต๊ะ คอมมิชชั่น ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยทำการวิจัยไว้ว่า คสช.เข้ามามีเงินใต้โต๊ะ 5-15 เปอร์เซ็นต์ สูญเสียเงินงบประมาณไปกว่า 900,000 ล้านบาท คงงอกงามเต็มบ้านเต็มเมืองแน่ หนุนประยุทธ์คือหนุนเผด็จการ พระอาทิตย์ไม่ขึ้นทางทิศตะวันตกนะคุณสุริยะ" นายอดิศร กล่าว
    นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นายสุนทร บุญยอด กรรมการสัดส่วนปีกแรงงาน พร้อมทีมงานพรรคอนาคตใหม่ จัดกิจกรรม 'ได้เวลาอนาคตใหม่ กรุงเทพตะวันออก' โดยตั้งแต่เช้าได้เดินประชาสัมพันธ์แนะนำพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จุดแรกพบปะผู้นำชุมชนและชาวบ้านในซอยเคหะร่มเกล้า 24 จากนั้นขึ้นรถแห่ เดินทางต่อไปที่ตลาดหัวตะเข้ และในช่วงกลางวันจะมีเวทีปราศรัยที่ซอยคุ้มเกล้า 38
        นายธนาธรกล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าวันที่ 24 มีนาคม เหมาะสมจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งตรงนี้นายวิษณุใช้คำว่าเหมาะสม แต่ไม่ใช้คำว่า จะมีการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม และจนถึงวันนี้ เราผ่านปีใหม่มาประมาณ 2 สัปดาห์กว่าแล้ว ความชัดเจนในการเลือกตั้งยังไม่ชัดเจนเลย
          "ต้องบอกว่า ประชาชนตั้งความหวังกับการเลือกตั้งครั้งนี้มาก เพราะขณะนี้คนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้ากับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ชาวบ้านพ่อค้าแม่ขายตั้งแต่เหนือจรดใต้บ่นเป็นเสียงเดียวกัน พรรคอนาคตใหม่ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจนเร็วที่สุด เพราะยิ่งช้า ยิ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศ"
          นายธนาธรกล่าวอีกว่า กรณีกลุ่มสามัคคีก่อนเลือกตั้ง เตรียมออกมาชุมนุมค้านกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง และเรียกร้องผ่านเพจให้คนไปชุมนุมที่เดียวกัน  วันและเวลาเดียวกันนั้น เป็นสิ่งที่อันตรายมาก ซึ่งในเพจของกลุ่มสามัคคีอยากเลือกตั้ง ไม่มีการแสดงตัวตน ไม่มีหน้าคน และเป็นความจงใจอย่างยิ่งที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวาย
          ทั้งนี้ กรุงเทพฯ มีพื้นที่เยอะแยะมากมาย แต่ตั้งใจไปชุมนุมสถานที่เดียวกัน วันเวลาเดียวกัน มีเหตุผลเดียวต่อการกระทำอย่างนี้ นั่นคือต้องการสร้างสถานการณ์ และประโยชน์จากเรื่องนี้ก็จะตกอยู่กับ คสช. ได้มีข้ออ้างอยู่นาน ได้มีข้ออ้างในการสืบทอดอำนาจ
         "ผมต้องขอชื่นชมคนอยากเลือกตั้ง เมื่อรู้ว่ามีการจัดชุมนุมซ้อน ที่เดียวกัน วันเวลาเดียวกัน กลุ่มคนอยากเลือกตั้งก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนสถานที่เป็น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เป็นการหลีกเลี่ยงการปะทะ  ป้องกันการสร้างสถานการณ์ที่นำไปสู่การอยู่ยาวของ คสช.ได้" นายธนาธรกล่าว
"เสรีพิศุทธ์"เดินสายซัดทหาร
    ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เดินทางเยือนเมืองหมูย่าง ถิ่นฐานเสียงเมืองหลวงพรรคประชาธิปัตย์ เมืองอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ลูกแม่ถ้วน ชวน หลีกภัย เริ่มตั้งแต่ เข้าสักการะอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองตรัง เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและพรรคเสรีรวมไทย
    ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ปราศรัยว่า ตนเองเป็นคนที่คิด พูด ทำ เหมือนกัน ไม่พูดจาให้ความหวัง แต่ทำไม่ได้ ตนเป็นเพียงข้าราชการเกษียณ ที่ผ่านมาปฏิบัติหน้าที่จับนักการเมือง รัฐมนตรีทำผิดมาก็มาก ไม่สนใจหรอกว่าจะเป็นใครหน้าไหน หากทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด 
    "ทุกวันนี้ทุกคนมีความอยาก เมื่อมีความอยากการปฏิวัติรัฐประหารเมืองไทยก็ไม่จบสิ้น มีเสียงสะท้อนมายังตนให้ลดบทบาทของทหารลง ความวุ่นวายของบ้านเมืองก็จะลดลง ผมยังไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนที่คอร์รัปชันมากที่สุดเหมือนรัฐบาลนี้ ซึ่งนำโดยพลเอกประยุทธ์ ที่ปราบคนอื่นโกง แต่กลับมาโกงเสียเอง"
    ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้ชูนโยบาย 6 หยุด 1.หยุดความยากจน แก้ปัญหาปากท้อง สร้างความกินดีอยู่ดี 2.หยุดคอร์รัปชัน ฉ้อราษฎร์บังหลวง 3.หยุดยาเสพติด ขจัดผู้มีอิทธิพล 4.หยุดเผด็จการและปฏิรูปทหาร 5.หยุดไฟใต้สร้างสังคมสันติสุข 6.หยุดสงครามสีเสื้อ สร้างความปรองดองก้าวสู่อนาคต
    พร้อมกับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรังทั้ง 3 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นายเรวัต ชูวงศ์ทวีพงศ์, เขต 2 นายสง จันทร์สุขศรี, เขต 3 นายมงคลสิษฐ์ มีสุข และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายกมลภู สวัสดิสาร
    อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางมาเปิดสาขาพรรคเสรีรวมไทยของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ในครั้งนี้ ได้มีหน่วยงานความมั่นคง เช่น เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ตำรวจสันติบาล ตำรวจชุดสืบสวน เข้ามาสังเกตการณ์ ทั้งมาในเครื่องแบบ นอกเครื่องแบบ และแฝงเป็นสมาชิกพรรคเสรีรวมไทย เข้ามาถ่ายภาพ เก็บข้อมูลของการเปิดตัวพรรคเสรีรวมไทย รวมทั้งการปราศรัยพบปะประชาชนในครั้งนี้ด้วย
    ที่นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) พร้อมนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค ชพน. เป็นประธานเปิดศูนย์ประสาน ชพน. เขตเลือกตั้งที่ 9 อำเภอโชคชัย นครราชสีมา ที่อาคารพาณิชย์เลขที่ 254/3 ทางแยกโชคชัย ริมทางหลวง 24 ถนนเลี่ยงเมือง โชคชัย-สีคิ้ว เขตเทศบาลตำบล (ทต.) โชคชัย อ.โชคชัย
         นายสุวัจน์ปราศรัยว่า ชพน.ยึดถือแบบอย่างการทำงานของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นต้นแบบการพัฒนาเศรษฐกิจ ถือเป็นนักการเมืองผู้ที่ยิ่งใหญ่ มีความเป็นประชาธิปไตย ทำงานการเมืองไม่มีความขัดแย้ง โดยชูนโยบาย “No problem” เป็นพรรคการเมืองไม่สร้างปัญหา พร้อมเดินสายกลาง ย้อนหลังกว่า 10 ปี หลัง พล.อ.ชาติชาย ฯ ถึงแก่อสัญกรรม การเมืองเปลี่ยนไป เอาชนะกันทุกๆ เรื่อง ไม่มีมิตรไมตรี ไม่มีความเป็นเพื่อน ขาดมิตรภาพ พล.อ.ชาติชายเห็นทุกคนเป็นมิตร จึงเดินสายกลาง ไม่เผชิญหน้า ปรองดองกับทุกฝ่าย เศรษฐกิจก็เจริญ บ้านเมืองไม่มีความขัดแย้ง ชพน.จึงเล่นการเมืองตามแนวทางที่ พล.อ.ชาติชายได้สร้างไว้
          เขากล่าวว่า จากการเดินสายหาเสียงขึ้นเหนือลงใต้ พี่น้องประชาชนฝากให้ ชพน.ดำเนินการหลังเลือกตั้ง 2 ข้อ คือ 1.อยากเห็นเศรษฐกิจดี ราคาพืชผลเกษตรกรรมดีขึ้น และ 2.ไม่มีความขัดแย้ง อยากเห็นคนไทยกลับมารักกันเหมือนเดิม.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"