รีเวิร์สมอร์ทเกจ


เพิ่มเพื่อน    


    อย่างที่ทราบกันดี ประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว เนื่องจากในปัจจุบันคนไทยแต่งงานกันช้าลง และก็มีลูกกันน้อยลง รวมถึงครองตัวเป็นโสด จำนวนมาก
    ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศ เพราะโครงสร้างประชากรมีความบิดเบี้ยว ซึ่งในโครงสร้างที่มีประชากรสูงอายุมากกว่าคนทำงาน จะเกิดปัญหาหลายอย่าง คือ 1.ประสิทธิผลของการพัฒนาประเทศลดลง 2.รัฐต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ในการดูแลประชากรในเรื่องของสวัสดิการและค่ารักษาพยาบาลต่างๆ 
    ถ้าประเทศไหนที่เจอภาวะแบบนี้ย่อมทำให้เศรษฐกิจไม่เติบโต หรือโตช้า ซึ่งที่เห็นมาแล้วในประเทศญี่ปุ่น ที่เศรษฐกิจมีการขยายตัวที่น้อย และเจอภาวะเงินฝืดที่คนไม่ค่อยจับจ่าย จนสุดท้ายญี่ปุ่นต้องแก้ปัญหาด้วยการดึงเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศแทน
    แน่นอนว่า ไทยเองก็มีความเสี่ยงในกรณีนี้อย่างมาก แต่ที่น่าห่วงกว่าก็คือ การที่คนไทยไม่ได้มีการวางแผนการออมไว้ตั้งแต่ต้น ทำให้มีโอกาสสูงมากที่ชีวิตคนไทยหลังเกษียณอาจจะไม่ค่อยสบายมากนัก เพราะเงินเก็บมีไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ขณะที่ความสามารถในการดูแลของรัฐบาลคงช่วยได้แค่ระดับเล็กน้อยเท่านั้น
    ดังนั้นจึงเข้าข่ายการดูแลตัวเองเป็นหลัก แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะมาเก็บสะสมเงินแบบม้าตีนปลาย เพราะอันที่จริงแล้วการวางแผนเพื่อเกษียณจะต้องวางตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน เนื่องจากวงเงินที่เหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตหลังอายุ 60 ปี หากจะอยู่ได้สบายก็ต้องมีเงินอีกไม่ต่ำกว่า 4 ล้าน หรือถ้าจะให้ดี คือ 8 ล้านบาทเลยทีเดียว
    แน่นอนคงมีผู้สูงอายุในประเทศไม่กี่คนที่สามารถเก็บเงินในระดับนี้ได้ ดังนั้นภาครัฐจึงมีไอเดียที่จะมีการแปลงสินทรัพย์เป็นเงินให้กับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มคนโสด ไม่ได้แต่งงานหรือไม่มีบุตรหลาน นั่นก็คือ สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (รีเวิร์ส มอร์ทเกจ) คือการนำบ้านเข้าจำนอง เพื่อนำสินเชื่อเงินสดมาใช้เป็นรายเดือน ซึ่งหลักการก็คือ ช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพของผู้สูงอายุ และผู้สูงอายุยังสามารถอยู่อาศัยในบ้านหลังเดิมได้ต่อไป โดยไม่ต้องย้ายไปไหน 
    ล่าสุด ทาง ธอส.ยืนยันว่า อยู่ระหว่างการออกแบบสินเชื่อ ตามข้อเสนอของ สนช.ที่ให้ข้อสังเกตว่า จะสามารถให้สินเชื่อกับผู้สูงอายุไปจนเสียชีวิตได้หรือไม่ รวมทั้งการคำนวณอัตราดอกเบี้ย การตรวจสอบเครดิตบูโร รวมทั้งกรณีที่ผู้กู้ไม่มีทายาท จะมีหลักคำนวณสินเชื่อต่างกันอย่างไร ซึ่งปกติภายหลังจากผู้กู้เสียชีวิต ธนาคารจะต้องสอบถามไปยังทายาท ว่าจะไถ่ถอนคืนหรือไม่ หากไม่ไถ่ถอน ธนาคารจะไปขายทอดตลาดและนำส่วนต่างราคาสินทรัพย์มาคืนให้ทายาท หากไม่มีทายาทธนาคารจะยึดหลักทรัพย์นั้นไปทั้งหมด
    ทั้งนี้ คาดว่า ธอส.จะเปิดตัวสินเชื่อ รีเวิร์ส มอร์ทเกจ ได้ภายในปีนี้ เบื้องต้นกำหนดวงเงิน 1 พันล้านบาท เพื่อทดสอบตลาด ปล่อยกู้ให้ผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถนำที่อยู่อาศัย เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์มาใช้เป็นหลักประกันขอกู้กับธนาคาร จากนั้นธนาคารจะทยอยจ่ายเงินให้ใช้เป็นรายเดือนตามมูลค่าของหลักทรัพย์ไปจนเสียชีวิต ทำให้ผู้สูงอายุมีรายได้ใช้เลี้ยงดูตัวเองได้ตลอดชีพ เช่น บ้านราคา 2.4 ล้านบาท มาเข้าโครงการจะปล่อยกู้ในอัตรา 50% ของมูลค่าหลักทรัพย์ หรือ 1.2 ล้านบาท และจ่ายคืนให้ผู้กู้เดือนละ 4 พันบาท รวมดอกเบี้ย 20 บาท เป็นต้น
    แน่นอนว่า สินเชื่อตัวนี้เป็นแค่ทางเลือก และ ธอส.ก็ไม่มีความต้องการที่จะยึดที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุอยู่แล้ว ดังนั้นจึงนับว่าเป็นอีกทางออกสำหรับผู้สูงอายุที่มองเรื่องการหาเงิน ค่าใช้จ่ายมาดูแลชีวิต ซึ่งในปัจจุบันก็ทราบกันดีว่า ค่ารักษาพยาบาลนั้นแพงมาก เจ็บทีเดียวถึงกับล้มละลายได้เลย ดังนั้นผู้สูงอายุจำต้องมีเงินไว้มากพอ เพื่อที่จะดูแลชีวิตของตัวเอง.

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"