ปลื้มงานป.ป.ท. จับ‘ทุจริต’ฉมัง แนะสร้าง‘ภาคี’


เพิ่มเพื่อน    

 "วิษณุ" ชม ป.ป.ท.ผลงานเข้าตา จับทุจริตจำนำข้าว เงินทอนวัด โกงเงินคนจน นักเรียนผี  ชี้ไทยปราบโกงดีขึ้น ขยับเป็นอันดับ 4 ของอาเซียน แนะเร่งสร้างเครือข่าย-เข้มงวดบังคับใช้ กม.-สร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชน

    โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น พลัส แวนดา แกรนด์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บทบาทภารกิจ และการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนา 11 ปี พร้อมมอบนโยบายการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ประจำปี พ.ศ.2562
    นายวิษณุกล่าวว่า การทุจริตเป็นการบ่อนทำลายชาติที่สำคัญ ประชาชนจะขาดความเชื่อมั่นการบริหารงานของรัฐบาล เศรษฐกิจถดถอยเพราะถูกเรียกรับเงินใต้โต๊ะ ไม่มีนักลงทุนเข้ามาลงทุน และบั่นทอนกำลังใจคนที่ทำธุรกิจโดยสุจริต สำหรับประเทศไทยได้ตั้งหน่วยงานขึ้นเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้ที่ทุจริตมาโดยตลอด แม้ระยะแรกในการก่อตั้ง ป.ป.ท.จะไม่เป็นที่รู้จักและผลงานยังไม่ประทับใจ แต่เข้าสู่ปีที่ 5 ผลงานเริ่มเป็นที่ประจักษ์ กระทั่ง 2 ปีล่าสุด ป.ป.ท.มีบทบาทเต็มที่ 
    "อย่างกรณีทุจริตจำนำข้าว เงินทอนวัด โกงเงินคนจน และคดีนักเรียนผี ป.ป.ท.เป็นตัวช่วยตัดวงจรการทุจริตได้ผลจนเป็นที่น่าพอใจ ถือว่ามีผลงานโดดเด่นเพราะความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ โดยตัวเลขคดีสัมพันธ์กับจำนวนคดีหลายเรื่องที่ดำเนินการแล้วเสร็จ แต่การทุจริตก็ไม่ได้หมดไปจากสังคมไทย"
    นายวิษณุกล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์การทุจริตในปัจจุบันจะดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งเห็นได้จากค่าดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทย (Corruption Perception Index: CPI) ที่ประเมินโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International: TI) ครั้งล่าสุด ในปี 2560 ประเทศไทยได้ 37  คะแนน อยู่ในลำดับที่ 96 จากประเทศที่เข้าร่วมประเมินทั้งหมด 180 ประเทศ อยู่ในลำดับที่ 4 ของประเทศอาเซียน รองจากประเทศสิงคโปร์ บรูไน และมาเลเซีย ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของประเทศที่มีการทุจริตลดลง และสร้างความเชื่อมั่นดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น กระนั้นก็ดีตัวเลขดังกล่าวยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำต่อไปก็คือ การปลุกจิตสำนึกความซื่อสัตย์สุจริตในทุกภาคส่วน และเสริมสร้างภาคีเครือข่ายให้มีการเฝ้าระวังให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เสี่ยง ลดช่องทางหรือปิดโอกาสการทุจริตจากภาคส่วนต่างๆ ให้มากที่สุด อันจะเป็นพื้นฐานในการปฏิรูปสังคมและประเทศไทยสู่การต่อต้านทุจริตในทุกรูปแบบต่อไป
    "เรื่องที่ ป.ป.ท.ต้องทำต่อไปมีอีกหลายอย่าง แต่รัฐบาลอยากให้เน้นใน 3 เรื่อง คือ 1.สร้างเครือข่ายกับภาครัฐ ภาคเอกชน รวมไปถึงเครือข่ายกับต่างประเทศให้มากขึ้นและยั่งยืน เพื่อติดต่อประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูล 2.บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจังกว่าเดิม เพื่อให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้น และ 3.ทำงานในลักษณะให้ความรู้ เตือนประชาชนให้ตระหนักว่าอะไรผิด อะไรที่ทำได้หรือทำไม่ได้  แม้สิ่งเหล่านี้ ป.ป.ท.จะทำอยู่แล้ว ก็ขอให้เข้มงวดมากขึ้น เป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ของ ป.ป.ท." รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
    ด้าน พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ  ป.ป.ท.กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ท.ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นองค์กรหลักของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ โดยตั้งแต่ปีงบประมาณ 2551-2562 มีการรับเรื่องกล่าวหา/ร้องเรียนการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐจำนวน 35,580 คดี (เดือน ธ.ค.61 จำนวน 148 คดี) ส่วนผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง แยกเป็น รับไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง 4,584 คดี, ไม่รับไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง 7,451 คดี, ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม 1,248 คดี, ส่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 8,961 คดี, ส่งพนักงานสอบสวน 883 คดี อื่นๆ 49 คดี และคณะกรรมการ ป.ป.ท.พิจารณาแล้ว 23,176 คดี โดยพิจารณาความผิดแล้วรวมทั้งสิ้น 912 คดี ได้แก่ ผิดอาญาและวินัย 443 คดี, ไม่ผิดอาญาแต่ผิดวินัย 30 คดี, ยุติเรื่อง 271 คดี, ส่งสำนักงาน ป.ป.ช. 123 คดี และส่งพนักงานสอบสวน  45 คดี มีคดีที่อยู่ระหว่างส่งอัยการ 148 คดี และส่งอัยการเรียบร้อยแล้ว 294 คดี ซึ่งศาลมีคำพิพากษาแล้ว 94 คดี 
    พ.ต.ท.วันนพกล่าวว่า ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาทำให้ทราบว่าปัญหาการทุจริตไม่สามารถแก้ไขให้สำเร็จได้เพียงแค่การใช้กลไกภาครัฐเท่านั้น ต้องผสานพลังจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ตลอดจนต้องเสริมสร้างและยกระดับธรรมาภิบาล ส่งเสริมผลักดันให้หน่วยงานของรัฐยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารราชการโดยมุ่งมั่นขจัดการทุจริตในภาครัฐให้หมดสิ้น ในโอกาสครบรอบการสถาปนาสำนักงาน ป.ป.ท. ปีที่ 11 ป.ป.ท.ยังคงยืนหยัดในการเป็นหน่วยงานตรวจสอบและขับเคลื่อนให้เกิดธรรมาภิบาลในระบบราชการเพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตในหน่วยงานภาครัฐ สร้างความตระหนักให้แก่สังคมทุกภาคส่วนได้เล็งเห็นถึงภัยของการทุจริตคอร์รัปชัน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"