
ใต้ป่วนรายวัน! คนร้ายลอบวางระเบิดในท่อลอดถนนคืนเดียว 2 จุด พื้นที่ อ.เจาะไอร้อง-ตากใบ จ.นราธิวาส ขณะชุดทหารพรานเดินทางผ่านโชคดีไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เชื่อแค่หวังสร้างสถานการณ์ "ยะลา" ตั้งด่านตรวจค้นเส้นสายหลักเขตเมือง หน่วยข่าวเตือน "ปัตตานี" แจ้งระวังรถ 12 คันซุกคาร์บอมบ์
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. เวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ลุกมาน บาเกาะ ผกก.สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พร้อมร.ต.อ.พลวัฒน์ เทพษร รองหัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง เดินทางไปตรวจสอบบริเวณท่อลอดผิวถนนจารุเสถียร สายเจาะไอร้อง-เมืองนราธิวาส ช่วงบริเวณบ้านโคก ม.5 ต.จวบ หลังช่วงคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
จากการตรวจสอบพบท่อลอดผิวถนนมีหลุมลึก 1 เมตร กว้าง 1.5 เมตร และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังน้ำยาเคมีดับเพลิง หนัก 25 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง จึงเก็บรวบรวมหลักฐานพร้อมขอสนับสนุนรถแบ็กโฮของเอกชนมาฝังกลบผิวถนน เพื่อเปิดให้ประชาชนได้สัญจรไปมาตามปกติ
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อย ทพ.4808 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ นั่งโดยสารรถยนต์ออกจากฐาน ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 600 เมตร เพื่อเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน แฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางไว้ใต้ท่อลอดผิวถนน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่โชคดีระเบิดที่คนร้ายนำไปวางไว้อยู่ริมถนนคนละเลนกับเจ้าหน้าที่ขับรถยนต์ผ่าน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้เดินทางไปตรวจสอบเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ตากใบ ช่วงคืนที่ผ่านมาเช่นกัน ที่บริเวณมาตรวัดน้ำข้างบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งอยู่บ้านไร่ ม.2 ต.เจ๊ะเห ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายลอบวางระเบิด พบเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในขวดน้ำดื่มพลาสติกไม่ทราบยี่ห้อ หนักประมาณ 1 ถึง 2 กก. จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากวงจรอิเล็กทรอนิกส์ หรือไอซีไทเมอร์ ที่ตกกระจายเกลื่อนพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.15133 ฉก.นราธิวาส 30 จำนวน 4 นาย ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน กลับจากการปฏิบัติหน้าที่ในเขตเทศบาลเมืองตากใบ เมื่อเจ้าหน้าที่ขี่รถผ่านจุดเกิดเหตุไปประมาณ 10 เมตร ได้เกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เบื้องต้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน่วยงานความมั่นคง เชื่อเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อสร้างสถานการณ์ร้ายความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยที่ไม่ได้มุ่งหวังความสูญเสียแต่อย่างใด
ที่ จ.ยะลา ส.ต.อ.ธุวานนท์ วางกลอน นปพ.สภ.เมืองยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายทหาร ตำรวจ และอส.จ.ยะลา ตั้งจุดตรวจจุดสกัดในถนนสายหลักเขตเมืองยะลา เน้นตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่นบุคคลเป้าหมายต้องสงสัยมีพิรุธสิ่งของในกระเป๋าภายในรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ป้องกันกลุ่มคนร้ายฉวยโอกาสเข้ามาเคลื่อนไหวเพื่อก่อเหตุในพื้นที่เขตเมืองยะลา
จ.ปัตตานี หน่วยความมั่นคงจังหวัดปัตตานี แจ้งเตือนไปยังหน่วยใกล้เคียงให้เฝ้าระวังรถยนต์ 12 คันที่คนร้ายอาจนำไปประกอบเป็นคาร์บอมบ์แล้วนำกลับมาก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะรถยนต์มิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน ผข 93 สุราษฎร์ธานี เป็นกรณีพิเศษ นอกจากนี้ยังได้แจ้งเตือนทุกหน่วยให้เฝ้าระวังบุคคลตามหมายจับในคดีใช้อาวุธปืนยิงตำรวจที่ ที่ สภ.นาประดู่ เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2562 ประกอบด้วย นายมะยะโก๊ะ ลาเต๊ะ, นายซอบรี หลำโสะ, นายรอซาลี หลำโสะ, นายกอเซ็งลาเตะ ยามา และนายอับดุลรอ แมดอเลาะ
วันเดียวกัน เพจข่าวจริงประเทศไทย โพสต์เตือนเรื่อง "อย่าแชร์ กุข่าวรัฐอนุมัติงบช่วยอิสลามมากกว่าพุทธ หยุดบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างศาสนา ยืนยันไม่จริงและเป็นข่าวปลอม ตั้งแต่ปี 2560 แนะชาวบ้านอย่าหลงเชื่อ"
เนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า จากกรณีที่มีการแชร์ข้อความในสังคมออนไลน์ระบุรัฐบาลอนุมัติงบประมาณจำนวนมาก สร้างมัสยิดกลางประจำจังหวัดหลายจังหวัด เช่น จ.นนทบุรี และ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับให้เงินเดือนโต๊ะอิหม่ามเดือนละ 18,000 บาท และคณะกรรมการมัสยิดทุกคน แต่ไม่เคยสนับสนุนการสร้างวัด โดยพยายามเชื่อมโยงให้สังคมรู้สึกให้ความสำคัญกับศาสนาอิสลามมากกว่าศาสนาพุทธ ว่า รัฐบาลมีหน้าที่อุปถัมภ์ดูแลทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน และส่งเสริมให้ศาสนิกชนทุกคนมีความรักใคร่กลมเกลียว เอื้ออาทร และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
"ข้อความที่มีการแชร์ต่อกันจึงเป็นเรื่องที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ จึงขอเตือนผู้ไม่หวังดีหยุดสร้างกระแสบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างศาสนา ส่วนพี่น้องประชาชนก็จะต้องใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร อย่าหลงเชื่อ และไม่ส่งต่อหรือวิพากษ์วิจารณ์ เพราะจะตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีโดยไม่รู้ตัว"
นอกจากนี้ ระบุว่าอัตราค่าตอบแทนของโต๊ะอิหม่ามที่มีการเผยแพร่ก็ไม่ถูกต้องเช่นเดียวกัน โดยระเบียบ มท.ว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัด อิหม่าม คอเต็บ และบิหลั่น (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2552 กำหนดให้บุคคลดังกล่าวมีค่าตอบแทนระหว่าง 1,000-3,500 บาทต่อเดือน ไม่ใช่ 18,000 บาท ตามที่มีการกล่าวอ้าง
"งบประมาณการก่อสร้างมัสยิดโดยส่วนใหญ่มาจากเงินบริจาค ส่วนการสร้างวัดนั้น ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้การสนับสนุนบางส่วนร่วมกับผู้มีจิตศรัทธา ขณะที่กรมการศาสนาก็มีบทบาทสนับสนุนศาสนาอื่นๆ ด้วย เช่น คริสต์ ซิกข์ ฯลฯ ที่ส่วนใหญ่ขอรับความอนุเคราะห์ด้านการจัดกิจกรรมมากกว่าการก่อสร้างศาสนสถาน".
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |