ไม่ทันจะเลือกตั้ง'ภราดรภาพ'ยุ่ง!เลขาฯพรรคฟ้องหมิ่นนายทะเบียนพรรค


เพิ่มเพื่อน    

30 ม.ค.62 -  ที่ศาลอาญา(วานนี้) ถ.รัชดาภิเษก นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ อายุ 40 ปี เลขาธิการพรรคภราดรภาพ และทีมกฎหมาย ได้นำพยานหลักฐานมายื่นฟ้องนายวีระพัฒน์ พร้อมพลากร อายุ 36 ปี นายทะเบียนพรรคภราดรภาพ เป็นจำเลย ในความฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332 พร้อมเรียกค่าเสียหายทางแพ่งเป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่ 6 ม.ค.2562 ซึ่งเป็นวันที่เริ่มกระทำความผิดจนกว่าจะชำระเสร็จด้วย 

โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 6-16 ม.ค.2562 นายวีระพัฒน์ จำเลยใส่ความนายพันธ์ยศ โจทก์ ด้วยเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยจำเลยได้แถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนว่าโจทก์ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคภราดรภาพกับพวก ข่มขู่และบังคับให้จำเลยลาออกจากนายทะเบียนพรรค เพราะเข้าใจผิดว่าจำเลยในฐานะนายทะเบียนพรรค มีรหัสคีย์ข้อมูลสมาชิกพรรคเพื่อให้สมาชิกจำนวน 20 คน ลาออกจากพรรคไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น และไม่นำสมาชิกพรรคบางคนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคตามที่โจทก์ต้องการ และยังระบุอีกว่าโจทก์ได้นัดจำเลยไปที่บ่อกุ้งแห่งหนึ่ง ข่มขู่บังคับให้เขียนหนังสือลาออก จากการเป็นนายทะเบียนพรรค แต่จำเลยไม่ยอม โจทก์จึงสั่งให้ลูกน้องซึ่งมีมือปืนและตำรวจนอกเครื่องแบบ 3-4 นาย ทำร้ายร่างกายและบังคับให้เขียนหนังสือโดยอัดคลิปวีดีโอ ขั้นตอนการคีย์ข้อมูลการนำสมาชิกพรรคออกจากพรรค 

นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 15-22 ม.ค. 2562 จำเลยยังใส่ความโจทก์ต่อหน้าพนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สำนักงานยุติธรรม จ.สมุทรสาคร ว่าจำเลยถูกโจทก์ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคภราดรภาพ และคณะ กต.ตร.สน.หนองแขม กับพวกทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยจำเลยได้แจ้งความไว้ที่กองปราบปรามแล้วและจำเลยยังอ้างว่า กลัวบุคคลในครอบครัวจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะโจทก์เป็นผู้มีอิทธิพล ทั้งที่ความจริงแล้วโจทก์ไม่มีพฤติกรรมตามที่จำเลยใส่ความ โดยผู้ที่รับฟังและอ่านข้อความของจำเลย จะเข้าใจผิดว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี เป็นผู้มีอิทธิพล ชอบกระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยขณะนี้โจทก์ก็เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคภราดรภาพ 

ดังนั้นการกระทำของจำเลยดังกล่าว ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกเกลียดชังและทำให้ความนิยมในตัวโจทก์กับพรรคภราดรภาพในการรับเลือกตั้งน้อยลง จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332 พร้อมให้จำเลยชำระชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เป็นเงิน 50 ล้านบาท และให้โฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดหรือบางส่วน ในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ จำนวน 7 ครั้งติดต่อกัน โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมด 

โดยต่อมาศาลรับคำฟ้องไว้ในสารบบคดีดำ อ.283/2562 เพื่อไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ต่อไป โดยกำหนดนัดวันที่ 11 มี.ค.นี้ 

นายพันธ์ยศ กล่าวว่า ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทนายวีระพัฒน์ นายทะเบียนพรรค เนื่องจากเคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน กรณีที่ไปยื่นคำร้องต่อ กกต.กล่าวหาว่าทางตนทำร้ายร่ายกายและข่มขู่ ซึ่งภายหลังคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติให้ถอดถอนออกจากนายทะเบียนพรรค จากนั้นตนก็เจรจากัน โดยเรียกมาคุยให้ลาออกด้วยความสมัครใจ มากกว่าที่จะถูกมติคณะกรรมการบริหารพรรคถอดถอน และให้เขาเขียนหนังสือลาออกด้วยความสมัครใจ แต่ไม่มีการใช้กำลังประทุษร้ายข่มขู่แต่อย่างใด ทั้งนี้สาเหตุเพราะเขามีอาการป่วย ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ เกรงว่าจะทำให้การทำงานด้านการเมืองของพรรคเกิดความเสียหาย ทางพรรคจึงมีมติให้ถอดถอนนายทะเบียนพรรค และให้ผู้ช่วยนายทะเบียนดำเนินการทำงานแทนมาสักระยะหนึ่งแล้ว 

เลขาธิการพรรคภราดรภาพ กล่าวต่อว่า จากคลิปวีดีโอต่างๆ จะรู้เลยว่าการพูดคุยไม่ได้มีประสงค์ร้าย เหมือนสอนคนที่เป็นน้องว่าควรขอโทษ ไม่ใช่หายหน้าไป ผู้ใหญ่ภายในพรรคจะคิดอย่างไร แล้วตนก็เป็นคนแนะนำเขามาด้วย เลยคิดว่าเป็นเรื่องที่ตนเองต้องรับผิดชอบ แต่นายวีระพัฒน์ ยังไปร้องเรียนที่กองปราบปราม ว่าถูกทำร้ายร่างกาย ถูกข่มขู่ ถูกบังคับให้เขียนหนังสือลาออก ซึ่งไม่เป็นความจริง หากดูหนังสือลาออกก็เป็นเนื้อหาที่สุภาพ และขออภัยกรรมการท่านอื่นมากกว่า ซึ่งกรรมการทุกท่านมีมติถอดถอนเขาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่อยากให้เขาทำ ก็เพื่อให้เขายอมรับว่าไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายได้ โดยก่อนฟ้องตนได้ส่งคนไปเจรจา ให้ออกมาขอโทษ แต่เขาอาจจะเกิดความกังวล ทั้งนี้ตนเชื่อว่าเขามีอาการป่วย ทำให้วิตกกังวลว่าจะมีคนมาทำร้าย 

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบต่อการภาพลักษณ์และการบริหารพรรคภราดรภาพหรือไม่ นายพันธ์ยศ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะที่ผ่านมานายทะเบียนไม่มีศักยภาพในการทำงานมาตั้งแต่ต้น พอเริ่มทำงานก็ให้ผู้ช่วยนายทะเบียนปฏิบัติหน้าที่แทนมาโดยตลอด สำหรับเหตุผลที่ออกมาฟ้องร้อง เพราะเห็นแก่ศักดิ์ศรีพรรคและตนเอง หากไม่ทำจะเกิดภาพลักษณ์ไม่ดีติดตัวไปด้วย เพราะสิ่งที่เขาพูดไปออกสู่สาธารณชน ทำให้เสียชื่อเสียง ซึ่งตอนนี้พรรคภารดรภาพกำลังจะเข้าสู่เวทีการเลือกตั้งแล้ว และตนเองก็เป็นคนมีชื่อเสียงในสังคม ส่วนการเลือกตั้งของพรรคภราดรภาพที่มี ม.ร.ว.ดำรงดิศ ดิศกุล อดีต ส.ส.ไทยรักไทย เป็นหัวหน้าพรรคได้ตั้งเป้าหมายไปที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชี หรือ ปาร์ตี้ลิสต์มากกว่า คาดหวังไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะได้รับเลือกตั้ง ส.ส.ประมาณ 10 คน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"