ตื้นตันใจแทน หัวหน้าเชียร-วิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ที่สังคมทุกภาคส่วนต่าง ชื่นชม และช่วยกัน ปกป้อง ด้วยเกรงจะถูกอิทธิพลจากพวกมีเงิน พวกมีอำนาจ

      เล่นงาน!!!!

      หลังแสดงความกล้าหาญชาญชัย แสดงอุดมการณ์ของผู้พิทักษ์ป่าจับ "เจ้าสัวเปรมชัย กรรณสูต"  บิ๊กบอสบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวก ที่ลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก

      ขนาดมีข่าวในทำนอง บิ๊กปู-พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.บอกหัวหน้าเชียรสารภาพ ไม่ได้เก็บค่าธรรมเนียมเข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 110 บาท ซึ่งเป็นค่าเข้าคนละ 20 บาทและค่านำรถเข้าพื้นที่ 30 บาทกลุ่มเจ้าสัวเปรมชัย และจะต้องรายงานให้กรมอุทยานฯ พิจารณาดำเนินการ

        "สามารถดำเนินการเอาผิดได้ทั้งทางวินัยและอาญา หากมีการร้องทุกข์ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่หากกรมอุทยานฯ พิจารณาว่าอยู่ในอำนาจก็อาจมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนได้"

      แค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ปรากฏว่าคอมเมนต์ในโซเชียลรุมถล่ม บิ๊กปู ชนิดพูดกันแบบภาษานักเลงๆ ต้องบอกถึงขนาด

        "กลับบ้านไม่ถูก"!!!

      จนต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ ต้องรีบออกมาบอกเป็นเรื่องที่สื่อตีความคำสัมภาษณ์ผิด

        "ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีนายวิเชียรตามที่เป็นกระแสข่าวแต่อย่างใด ข่าวสารที่เสนอไปอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน"

      การตื่นตัวของทุกหน่วย ทุกภาคส่วน และลุกขึ้นมาปกป้องคนดี ปกป้องคนทำงาน ปกป้องป่าไม้  ปกป้องสัตว์ป่า ถือเป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่ควรส่งเสริม และต่อยอดให้เกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ อย่างจริงจัง

      ไม่ใช่เป็นแค่ กระแส แล้วจางหายไปเหมือนไฟไหม้ฟาง

      แต่เราต้องหันมาดูแล หันมาให้ความสำคัญกับ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องผืนป่า ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งกำลังคน อุปกรณ์ และความเป็นอยู่ให้พร้อมและเพียงพอต่อการดูแลป่าที่มีเนื้อที่กว้างขวางทั่วประเทศ

      เหมือนอย่างที่ หัวหน้าเชียร สะท้อนถึงปัญหาการทำงานในเวทีเสวนาวิชาการ Forestry  HARDTalk เรื่อง "การจัดการสัตว์ป่าเมืองไทย กรณีทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก" ซึ่งคณะวนศาสตร์  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดขึ้นเมื่อวันก่อน

        หัวหน้าเชียร บอกว่าทุ่งใหญ่มี 25 หน่วย มีปืนหน่วยละ 2-3 กระบอก ไว้เฝ้าหน่วย 1 กระบอก ที่เหลือลาดตระเวน บางทีก็ยิงไม่ออก เจ้าหน้าที่เกิดความไม่มั่นใจในการทำงาน ลูกน้องเคยมาถามมีเงินกู้ให้ไปซื้อปืนมั้ย ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุปกรณ์และเครื่องมือหลายพื้นที่ขาดแคลน ซึ่งอุทยานฯ แก้ปัญหามาตลอด ส่วนกฎหมายทั้งโทษและฐานความผิดนั้นยังน้อย แม้แต่ในเขตรักษาพันธุ์ฯ ห้ามเข้า แต่ยังไม่มีบทกำหนดโทษจึงต้องปรับปรุงเรื่องกฎหมาย

      ชัดเจนทุกถ้อยคำแบบไม่ต้องตีความ ไม่ต้องอธิบาย จากปาก ฮีโร่ป่า ที่ทุกคนกำลังชื่นชม

      แต่จะชัดเจนและเข้าหู ผู้ใหญ่ ของบ้านเมือง เพื่อรับไปแก้ไขหรือเปล่า รอดูกัน.