
1 ก.พ.62 - ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ วิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ ได้จัดงานเสวนา “Wellness Community กินอยู่อย่างไรในสังคมมลภาวะ” ให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพจากมลภาวะฟุ่นพร้อมแนะประชาชนตรวจสุขภาพ ดูแลตนเองด้วยวิธีธรรมชาติ นำพืชผักผลไม้มาใช้ขับสารพิษ
นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล คณบดีวิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า PM 2.5 ทำให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกายทางเดินหายใจอักเสบ หอบหืด ถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจกำเริบ ไขมันหลอดเลือดสูงผิดปกติ เบาหวาน ดื้อต่ออินซูลินมากขึ้น ไขมันพอกตับ และก็ก่อมะเร็ง ไม่มีใครเคยสังเกตว่า เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมามีคนเป็นโรคหัวใจวายเฉียบพลันจนเสียชีวิตเกิดขึ้นหลายราย ทั้งๆที่ระดับไขมันปกติ ที่แท้แล้วแฝงเร้นด้วย PM 2.5 แต่แพทย์โรงพยาบาลไม่เคยรู้และไม่เคยตรวจ ถ้าตรวจก็จะเจอ ฉะนั้นการที่เราจะรอรัฐบาลเร่งแก้ไขเป็นไปไม่ได้ เราต้องกลับมาตรวจสอบพฤติกรรมตนเอง แล้วก็ดูแลตนเอง
นพ.บรรจบ กล่าวต่อว่า ร่างกายเราสามารถขับสารพิษออกได้ทั้งเยื่อบุหลอดลมและตับ ซึ่งบร็อกโคลีมีสารซอลโฟราเฟน ที่ออกฤทธิ์กลูต้าไทโอนให้ตับกับเซลล์เยื่อบุสลายสารพิษได้ ฉะนั้นแล้วถ้าให้เข้าใจง่ายๆคือ หากรู้สึกว่าร่างกายได้รับผลกระทบจากฝุ่น ก็ให้ปั่นน้ำบล็อกโคลี่สดกิน เคยมีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในจีนช่วง 5 ปีก่อน บอกว่า น้ำบร็อกโคลีทำให้ขับสารพิษออกทางปัสสาวะ แล้วก็ขับสารก่อมะเร็งเพิ่มขึ้น 61% และขับสารระคายเคือง 23% แต่ต้องกินแบบสดๆ เพราะสารที่อยู่ในบร็อกโคลีไม่ทนความร้อน แค่เอาไปล้างให้สะอาดเพื่อหลีกเลี่ยงยาฆ่าแมลง แล้วก็ยังมีวิตามินอื่นๆ ที่ช่วยขับสารพิษได้ อย่างพวกวิตามินบี พวกข้าวกล้อง วิตามินซีจากผักผลไม้สด วิตามินอี พวกจมูกข้าว ถั่ว พืชผักใบเขียวทั้งสดและสุก กลูต้าไทโอนจากกะหล่ำปลี นอกจากนี้ถ้าจะแก้อักเสบเรื้อรังกรดไขมันที่จำเป็นที่อยู่ในพวกน้ำมันมะกอก น้ำมันงา อะโวคาโด ก็ช่วยได้ และอยากให้ลดการกินปิ้งย่าง ของทอด ผงชูรสซึ่งเร่งปฏิกิริยาอักเสบในร่างกาย
"มีเรื่องใหม่ที่อยากแนะอีกคือ การอดอาหาร 1 วันด้วยผลไม้ชนิดเดียวทั้งวัน สัปดาห์ละครั้งน่าจะช่วยได้ เพราะในงานวิจัยเขาบอกว่าการอดอาหารช่วยให้ปอดทนพิษโอโซน ซึ่งโอโซนนี้ตัวดีเป็นสารพิษอันตราย อีกอย่างคืออย่าตื่นตกใจกับสถานการณ์มาก และควรมีการตรวจสุขภาพอย่างเร่งด่วนกับคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง หาสารที่เรียกว่า Homocysteine สารที่ทำให้เป็นโรคหัวใจ ซึ่งถ้าพบว่าสูงรักษาได้ด้วยวิตามินบี 6 บี 12 และกรดโฟลิกซึ่งมีราคาถูกมาก ใช้เวลา 1-2 เดือนก็ลดลงระดับสู่ปกติได้ แนะรัฐใช้วิธีแจกวิตามินในประชากรกลุ่มเสี่ยงในเชิงป้องกันด้านกว้าง สำหรับคนทั่วไปก็สามารถตรวจสารตัวนี้ได้ในโรงพยาบาล”
ด้านพญ.กอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โครงการ Jin Wellbeing ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวเสริมว่า สำหรับผู้เป็นภูมิแพ้ มีอีกวิธีที่ใช้ได้ผล คือ แพทย์แผนไทยสุมยา กำจัดเสมหะ โดยใช้หอมหัวใหญ่โขลกเล็กน้อยเติมน้ำร้อนให้เกิดไอเดือด หรือจะนำพืชสมุนไพร พวกข่า ตะไคร้ที่เป็นเครื่องเทศในต้มยำมาใส่ด้วยได้ หลังจากเติมน้ำร้อนแล้วเอาผ้าเช็ดตัวคลุมแล้วให้เราสูดดมกลิ่นไอของสมุนไพรในนั้นเข้าไปประมาณสองนาที แล้วก็ออกจากผ้าคลุม แล้วก็ทำใหม่ช่วยให้หายใจสะดวก ตนเคยสืบค้นงานวิจัยมา พบว่าหอมหัวใหญ่ที่เป็นตัวหลัก มีสรรพคุณช่วยต้านไวรัส และเรื่องของภูมิต้านทานได้ นอกจากสูดดมแล้ว อยากแนะให้ทุกคนทานอาหารที่มีหอมหัวใหญ่เป็นส่วนผสม ไม่ว่าจะเป็นเมี่ยง ยำ ฯลฯ แล้วอีกอย่างที่ช่วยได้คือน้ำสำรอง เพราะมีสาร พอลิแซ็กคาไรด์ที่เป็นตัวสำคัญในการไปเคลือบเยื่อเมือกต่างๆ ตั้งแต่คอ จมูก มาจนถึงลำไส้ ดังนั้นอาการระคายคอที่เกิดจากการอักเสบก็ช่วยได้ ซึ่งตนเคยใช้เป็นสูตรในการรักษาคนไข้เจ็บคอมานานแล้ว
“สิ่งสำคัญคือเราต้องช่วยกันเอง ควรตระหนัก และไม่ควรตระหนก เพราะต่อไปมันยังมีเรื่องให้เราต้องกังวลอีกคือ น้ำและอาหาร ที่สำคัญให้ระวังเรื่องซึมเศร้า เรื่องภาวะแอนไซตีหรือโรควิตกกังวลไปทั่ว คือหวั่นวิตกเกินไปจนนอนไม่หลับ แล้วก็โรคกลัว แพนิค อื่นๆ ต้องคอยสอดส่องกัน เพราะอย่างบางคนเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจอยู่แล้ว พอเจอปัญหาฝุ่นก็อาจจะเกิดความวิตกกังวลหนักขึ้น” พญ.อรพรรณ.

|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |