สิทธิสตรี...เพรียกหามานาน


เพิ่มเพื่อน    

    ต้องยกประโยชน์ให้กับเทศกาลอั่งเปาใบโตๆ กระมัง ทำให้มนุษย์ป้าเวลานี้มีโอกาสกลับไปดูหนังจีน ที่เคยดูเมื่อตอนเด็กๆ ทั้งเรื่องม่านประเพณี และขุนทัพฮัวมู่หลาน ที่มี "หลินปอ" รับบทเป็นพระเอกและนางเอก
    ถ้าคนที่เป็นลูกจีน น้อยคนนักจะไม่รู้จักชื่อของดาราฮ่องกง "หลินปอ" ฉะนั้นเมื่อระบุว่า เธอรับบทเป็นพระเอกและนางเอก จึงสามารถเข้าใจและนึกย้อนได้ว่า หลินปอมักรับบทเป็นผู้ชายในหนังส่วนใหญ่ จะมีก็แต่เรื่องมูหลานนี่แหละที่เธอมาเล่นเป็นผู้หญิง ซึ่งก็ไม่พ้นต้องปลอมเป็นผู้ชายอีกนั่นแหละ
    งงๆ ใช่ไหม ถ้าอยากหายงงก็ต้องไปหาหนังของเธอดูละกัน
    สิ่งที่มองเห็นเมื่อดูหนังเก่าแก่ตั้งแต่ปี 2506 ไม่ใช่เกี่ยวกับดาราชื่อหลินปอค่ะ แต่เป็นเนื้อหาสาระของหนังที่สะท้อนบอกว่า ไม่ว่าจะยุคอดีตอันไกลโพ้น จนถึงทุกวันนี้ ปัญหาสิทธิสตรียังคงเป็นประเด็นที่นำมาเรียกร้องถามหาความยุติธรรมได้ตลอด
    มันหมายความว่า ผู้หญิงยังไม่ได้รับความเท่าเทียมของผู้ชาย...แน่นอน
     ทั้งหนังม่านประเพณี และฮัวมู่หลาน ล้วนบ่งชี้ว่า เพศแม่ถูกเพศพ่อจับให้อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน มีหน้าที่ทำอาหาร ซักผ้า เลี้ยงลูก และต้องรับคำสั่งจากสามี รวมทั้งพ่อแม่
    ดูเหมือนสังคมในประเทศจีน ที่กำลังเป็นมหาอำนาจที่น่าหวาดกลัวมาแรงแซงฝั่งยุโรปและอเมริกานั้น ก็ยังคงยึดถือวัฒนธรรมประเพณีเยี่ยงนี้อยู่ ถึงแม้นี่เป็นยุคดิจิตอลก็ตาม 
    สำหรับประเทศไทย เราเคยมีหนังเรื่องของอำแดงเหมือน มีเรื่องของท้าวศรีสุริโยทัย และมีเรื่องบ้านบางระจัน อันเกี่ยวกับความกล้าหาญของผู้หญิงที่ไม่ยอมจับเจ่าเฝ้าครัว แต่คิดจะยืนอยู่ข้างหน้าคู่กับผู้ชาย 
    ด้านนิตินัยแล้ว สังคมไทยเคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้หญิงมากกว่าก็จริง แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ก็ยังมีอยู่ตามมุมต่างๆ ซอกหลืบที่ผู้หญิงยังต้องเป็นช้างเท้าหลัง และได้รับการปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน
    แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ต้องถือว่าผู้หญิงไทยลั้ลลา    แหกม่านประเพณีได้มากกว่าอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย ศรีลังกา เนปาล ปากีสถาน ซาอุดีอาระเบีย และอีกหลายประเทศในแอฟริกา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าบางประเทศผู้หญิงต้องถูกไล่ออกจากบ้านให้ไปอยู่ในป่า หรือที่ห่างไกลช่วงที่มีระดู เพราะเชื่อกันว่าสกปรก เป็นที่น่ารังเกียจ เป็นคนบาป 
    นอกจากนั้นยังมีอีกหลายประเทศที่ผู้หญิงไม่มีสิทธิ์เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง ซึ่งเราก็คงเคยจำข่าว "มาลาลา" เด็กหญิงชาวปากีสถานที่ถูกยิงบนรถโรงเรียน เพราะไม่ต้องการให้ผู้หญิงมีการศึกษา แต่เธอก็ต่อสู้จนคว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เป็นตัวอย่างของผู้หญิงนักสู้
    ชีวิตจริงอาจจะแตกต่างจากภาพยนตร์ แต่เค้าโครงเนื้อหาย่อมมาจากเรื่องเล่าสู่กันฟังจากเหตุการณ์จริง และเชื่อว่ายังมีอีกมากมายหลายมุมบนโลกใบนี้ ที่เอามาสร้างเล่ากันไม่รู้จบได้ว่า เวลาเปลี่ยน แต่ความคิดคนเปลี่ยนยากจริงๆ.
                                        "ป้าเอง"   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"