ทำไม 'อะไรๆ จึงมาลงที่ไทย'?


เพิ่มเพื่อน    

                 เว้นการเมือง คุยการบ้านว่าด้วยการต่างประเทศกันซักวัน

                เรื่อง "นายฮาคีม อัล อาไรบี" นักฟุตบอลชาวบาห์เรน

                ที่ทำให้ไทยต้องตกอยู่ในภาวะ "เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง" กลับต้อง "เอากระดูกมาแขวนคอ" อยู่ตอนนี้ นั่นแหละ

                "สังคมโซเชียล" สนุกกันใหญ่เลยนะ

                ติดแฮชแท็ก #SaveHakeem บ้าง #boycottthailand บ้าง

                กดดันไทย อย่าส่งนายฮาคีมให้บาห์เรนนะ ต้องส่งกลับไปออสเตรเลียนะ!

                พวกฝรั่ง-แขก "ต่างชาติ-ต่างภาษา" สันดานก็แบบนี้ มันได้ใจ นึกว่าไทยเป็น "เมืองขึ้น" พวกมันหรือยังไงก็ไม่ทราบ?

                อะไรๆ ที่ไม่เป็นดังใจ มันจะ "กดข่ม-คุกคาม" เอาซะทุกเรื่อง

                ต่างชาติ "ติดแฮชแท็ก" ก็พอเข้าใจได้.......

                แต่ที่ไม่เข้าใจและขัดใจมากๆ คือ พวกคนไทยบางคนนี่แหละ ผสมโรงติด ด่าประเทศตัวเองไปกับเขาด้วย!

                ด่าแล้วเท่ ก็เชิญ

                แต่ถามคำ......

                ศึกษาเรื่องราวนายฮาคีมจนเข้าใจถ่องแท้ ก่อนโพสต์-ก่อนทวีต อย่างนั้นหรือไม่?

                หรือไม่หรอก กระเดียดตามกระแสไปอย่างนั้นเอง ตื้น-ลึก-หนา-บาง หูไม่กระดิก

                ก่อนอื่น ต้องเข้าใจ ที่นายฮาคีมถูกควบคุมขึ้นศาลนั้น ไม่ใช่นายฮาคีมถูกจับ เพราะทำอะไรผิดกฎหมายไทย

                ที่ต้องควบคุมตัว เพราะตำรวจสากลออสเตรเลีย เป็นผู้ขอความร่วมมือ อีกทั้งบาห์เรนก็ขอให้จับ

                แต่พอไทยจับปุ๊บ อินเตอร์โพล รีบลบหมายแดงนั้นทิ้งปั๊บ!?

                ปัญหาที่ตามมา ก็อย่างที่ทราบ

                บาห์เรน ก็จะเอาตัว ออสเตรเลีย ก็ไม่ยอม นายฮาคีมก็บอก อย่าส่งผมกลับบาห์เรนนะ ชาวบอลก็เฮ..นี่พวกกู ยกฟีฟ่ง-ฟีฟ่ามาขู่กันใหญ่

                ไทย "คนกลาง" ซวย

                เหมือนกรณี "สาวซาอุฯ" ที่หนีผ่านไทย ไปลัลล้าอยู่แคนาดาตอนนี้      

                ที่เห็นไปขึ้นศาลนั้น.......

                เพื่อให้ทุกฝ่ายเอาหลักฐานมาแสดง ศาลพิจารณาแล้ว จะได้ชี้ขาดให้ว่า

                จะส่งนายฮาคีมกลับ หรือไม่ส่งกลับ?

                สาระหลักก็เท่านี้ ฉะนั้น อย่าบ้าจี้แฮชแท็กด่าประเทศตัวเองให้ทุเรศกันนักเลย

                เพื่อ "รู้ไว้ไม่เสียหลาย" ผมจะรวบรวมแถลงการณ์ "๒ ประเทศคู่กรณี" มาให้ศึกษาเป็น "สารตั้งต้น" ของเรื่อง

                ๔ กุมภา ๖๒ .......

                สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ ดังนี้

                ในนามของเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย รัฐบาลบาห์เรนทราบดีอยู่แล้วว่า คุณ  Hakeem al-Araibi อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๗

                ในช่วงเวลา ๔ ปีที่ผ่านมา รัฐบาลบาห์เรนไม่เคยแสดงความพยายาม หรือแจ้งรัฐบาลออสเตรเลียแม้แต่ครั้งเดียว

                ถึงกรณีคุณ Hakeem หรือต้องการตัวคุณ Hakeem กลับประเทศ          

                แต่ว่า ทันทีที่คุณ Hakeem และภรรยา เดินทางมาฮันนีมูนที่ประเทศไทย

                รัฐบาลบาห์เรนกลับประสานมาที่รัฐบาลไทยอย่างเร่งด่วน เพื่อขอให้ควบคุมตัวคุณ Hakeem

                และดำเนินการ ขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับประเทศบาห์เรนทันที

                การกระทำของรัฐบาลบาห์เรน ทำให้ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ลำบากมาก

                ซึ่งจริงๆ แล้ว ปีนี้ เป็นปีที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับประชาชนชาวไทยและประเทศไทย

                ผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า........

                รัฐบาลออสเตรเลีย ต้องการให้คุณ Hakeem กลับไปประเทศออสเตรเลียโดยเร็วที่สุด

                เพราะเขาเป็นผู้ลี้ภัย และเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรที่ประเทศออสเตรเลีย

                คุณ Hakeem เป็นนักฟุตบอลที่รักของ fan football ทีม Pascoe Vale FC และ fan football ทั่วประเทศ

                เราหวังว่าคุณ Hakeem จะได้กลับไปหาครอบครัวและภรรยาของเขาในเร็ววัน

                ครับ........

                แล้วเมื่อวาน (๕ ก.พ.) กระทรวงการต่างประเทศบาห์เรน ก็ออกแถลงการณ์ ว่า

                "การตัดสินใจของทางการบาห์เรน ให้สำนักงานตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ออกหมายจับ นายฮาคีม อัล อาไรบี นั้น

                มาจาก นายฮาคีม ได้หลบหนี ขณะรอการพิจารณาคดีในบาห์เรน

                โดยนายฮาคีม ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ในฐานะเป็นนักกีฬา เมื่อธันวาคม ๒๕๕๖ เพื่อเดินทางไปร่วมการแข่งขันฟุตบอลในกาตาร์

                แต่ระหว่างการเดินทางไปแข่งขันรายการฟุตบอลที่ประเทศกาตาร์

                นายฮาคีม กลับหลบหนีไปยังประเทศอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดเงื่อนไขการอนุญาตการประกันตัว

                การขอให้อินเตอร์โพลออกหมายจับนายฮาคีม นั้น เป็นระเบียบมาตรฐานชาติสมาชิกทั้งหมดของอินเตอร์โพล และเป็นกลไกสำคัญในการปราบปรามต่อสู้ด้านอาชญากรรม

                โดยนายฮาคีม เป็นจำเลยในคดีอาญาที่ประเทศบาห์เรน ซึ่งมีการรับรองสิทธิทางกฎหมายอย่างเต็มรูปแบบ และมีการคุ้มครองการเข้าถึงอย่างเต็มรูปแบบของการดำเนินการแทนอย่างเหมาะสม

                เมื่อ ๖ มกราคม ๒๕๕๗ นายฮาคีม ถูกตัดสินในหลายข้อหา ภายใต้กระบวนการของบาห์เรน

                แต่เขาไม่ได้มาขึ้นศาล เพื่อปกป้องตนเองหรือการปฏิเสธข้อกล่าวหา รวมทั้งข้อหาวางเพลิง และทำลายทรัพย์สินของทางการ ในขณะที่ นายฮาคีม ยังคงมีสิทธิ์จะยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินของศาล ถ้าเขามาขึ้นศาลบาห์เรน"

                ฟังความ ๒ ข้างแล้ว เห็นรำไรใช่ไหม....

                ว่าทั้งออสซี และบาห์เรน คล้ายใช้ไทยเป็น "สนามกลาง" ดวลแข้ง?

                ไม่ว่าฝ่ายไหน "แพ้-ชนะ" ไทยไม่ได้อะไรกะเขาเลย นอกจากเป็น "หญ้าแหลกลาญ" ใต้ตีนเขาทั้งสองสถานเดียว!

                แล้วทางออก ไทยเราทำยังไง?

                จะทำไงได้ล่ะ ดาวมฤตยูทับดวงเมือง ๗ ปี ก็จะมีเรื่อง สับสน-ซับซ้อน มหัศจรรย์พันลึก เหนือคาดหมายมาท้าทาย ทั้งจากภายในและจากภายนอกประเทศ เป็นแบบนี้ไม่หยุด

                เรามีกฎหมาย เรามีสถาบันศาล เมื่อเรื่องมาถึงตอนนี้ ก็ต้องยึดศาลเป็นหลัก

                "ดอน ปรมัตถ์วินัย" รมว.ต่างประเทศ บอกเมื่อวาน

                "เรายังไม่ได้ส่งตัวไป เพราะเรื่องอยู่ในกระบวนการศาล ต้องใช้เวลา ระหว่างนี้ ยังมีทางออกอีกทาง  หากออสเตรเลียกับบาห์เรนคุยกัน เรายินดีช่วยให้เกิดความสะดวก

                เพราะไทยเป็นฝ่ายรับรู้และควบคุมตัวอยู่ หากตกลงกันได้ เช่น ส่งไปประเทศที่ ๓ จะทำให้เรื่องง่ายขึ้น

                บอกเขาไปแล้ว เขาคงจะเริ่มคุยกัน ส่วนเราจะติดตามต่อไป"

                ในประเด็นว่า "จุดเริ่มต้น" ของการจับ เป็นมาไงกัน นายดอนบอกว่า

                ตำรวจสากลออสเตรเลีย แจ้งเตือนเรื่องนายฮาคีมมีหมายมายังไทย

                "มาก่อนด้วยซ้ำ อินเตอร์โพลเร็วมาก และเราก็จับตามคำร้องขอของบาห์เรนด้วย"    

                ผมอ่าน "คมชัดลึก" เขาแปลจากสกูปข่าวเว็บไซต์ "การ์เดียน" ของอังกฤษ ตีพิมพ์ไว้น่าสนใจ ตอนหนึ่ง ว่า

                "อินเตอร์โพลปฏิเสธตอบคำถาม ว่าเหตุใด จึงอนุมัติหมายแดงให้บาห์เรน ในวันเดียวกับที่ฮาคีมได้รับอนุมัติวีซ่ามาไทย

                ทั้งยังไม่ชัดเจนด้วยว่า บาห์เรนล่วงรู้แผนเดินทางของอดีตนักฟุตบอลทีมชาติคนนี้ได้อย่างไร

                และนายฮาคีม เคยบอกก่อนหน้านี้ ว่า ........

                "ก่อนมาไทยเขาได้ถามเจ้าหน้าที่รัฐบาลออสเตรเลียแล้ว ว่าถ้ามาไทย จะปลอดภัยหรือไม่ และได้รับแจ้งว่า น่าจะเป็นเช่นนั้น"

                "สกอตต์ มอร์ริสัน" นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวกับ "อลัน โจนส์" นักจัดรายการสถานี 2 GB  ในออสเตรเลีย ว่า

                "อัล อาไรบี มีส่วนผิด หากคุณได้วีซ่าคุ้มครองถาวร และพำนักในออสเตรเลีย กรุณาอย่าเดินทางไปประเทศที่อาจพาตัวเองไปเสี่ยงในสถานการณ์แบบนี้”

                ครับ....

                เหล่านี้ น่าจะเป็นข้อมูลศึกษาจนบอกตัวเองได้บ้างว่า ถ้าจะติดแฮชแท็กด่า ใครควรถูกด่ามากที่สุด ระหว่าง

                ออสเตรเลีย-บาห์เรน, UNHCR, NGO และพวก ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด?

                ไทยเราน่ะ "เก็บไว้ด่า" วันหลังมั่งก็ได้.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"