ทุ่มเวลาสู้ยุบทษช.! กก.บห.ย้ำงดภารกิจหาเสียง/พท.ยกเหตุปฏิปักษ์ล้มพปชร.


เพิ่มเพื่อน    

 กก.บห.พรรคไทยรักษาชาติแถลงงดภารกิจหาเสียง ขอทุ่มเวลาต่อสู้คดียุบพรรค ฝ่ายกฎหมายเร่งแก้ข้อกล่าวหา 18 ก.พ. ทราบแนวทางชัด  "จรัล ดิษฐาอภิชัย" ตอกลิ่มจี้ศาล รธน.เชิญทูลกระหม่อมฯ เป็นพยาน ทษช. ทีมกฎหมาย พท.แว้งกัดพปชร.ร้อง กกต.ยุบพรรค-ค้านประกาศชื่อ "ประยุทธ์" เป็นแคนดิเดตนายกฯ อ้างเหตุมาจากปฏิวัติเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง "เสรีพิศุทธ์" ขย่มซ้ำร้องยุบพปชร.อีก 1 ข้อหา ทางด้าน พปชร.หวั่นพลาดพลั้งแจ้งเตือนสมาชิกปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

    เมื่อวันศุกร์ ที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) แกนนำและกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรค, นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค, นายวิม รุ่งวัฒนจินดา นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรค, น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค, นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค และ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองโฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวงดภารกิจทางการเมืองชั่วคราว เพื่อต่อสู้คดี หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ 
         โดยนายมิตติอ่านแถลงการณ์ว่า เนื่องด้วยศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องให้พิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ยื่นคำร้องแล้วนั้น และทางพรรคก็ได้รับสำเนาคำร้องดังกล่าว เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 16.00 น. ซึ่งกำหนดให้พรรคยื่นชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
         "เนื่องจากคณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องพิจารณารายละเอียดของคดีในเวลาที่เหลือ 7 วัน ในส่วนของคณะกรรมการบริหารพรรค จึงของดภารกิจในการหาเสียงและกิจกรรมทางการเมือง และขอสื่อสารไปยังสมาชิกพรรคทุกท่านทราบว่า คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ จะขอใช้เวลาในช่วงนี้เพื่อปรึกษาหารือในการทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลในทางกฎหมาย ตามกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต และเป็นการยืนยันเจตนาอันบริสุทธิ์และความปรารถนาดีของคณะกรรมการบริหารพรรค ที่มีต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชนชาวไทยมา ณ ที่นี้ด้วย" 
          นายมิตติกล่าวว่า ในส่วนของแนวทางการต่อสู้คดี ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังทำงานกันอยู่ จึงยังไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะไม่เป็นผลดีกับใคร 
     ด้าน น.ส.ชยิกากล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายพรรคขอเวลา 3 วันในการพิจารณาสำนวนคำร้อง จากนั้นจะได้มาหารือกับกรรมการบริหารพรรคอีกครั้งในวันที่ 18 ก.พ.นี้ 
          ส่วนนายพงศ์เกษมกล่าวว่า ในส่วนของกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดของดภารกิจทางการเมืองชั่วคราว เพื่อใช้เวลาในการต่อสู้คดี ในส่วนของผู้สมัครของพรรคทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อที่ กกต. จะประกาศรับรองคุณสมบัติประมาณ 300 คน หากผู้สมัครมีคุณสมบัติ ก็สามารถหาเสียงได้ตามปกติ เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีคำสั่งระงับในส่วนนี้ 
    ขณะที่ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษชนแห่งชาติ ผู้ต้องหาหลบหนีคดี ม.112 มีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยที่ฝรั่งเศส เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงศาลรัฐธรรมนูญ ในนามสมาคมคนไทยเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่า ก่อนอื่นขอวิจารณ์ กกต.ที่รีบมีมติชี้ความผิดของพรรคไทยรักษาชาติ มิได้สอบสวนจากคณะกรรมการบริหารพรรค และคุณอุบลรัตน์ มหิดล ไปให้ปากคำ แสดงให้เห็นว่า กกต.ทำตัวเป็นเครื่องมือของระบอบเผด็จการที่ต้องการยุบนี้ก่อนการเลือกตั้ง พรรคการเมืองเป็นองค์การทางการเมืองของประชาชน โดยหลักการ ไม่ว่าศาลใดๆ หรือรัฐบาลจะยุบพรรคการเมืองอย่างง่ายๆ มิได้ ยิ่งช่วงมีการเลือกตั้ง จะกระทำมิได้ ขัดกับหลักการเลือกตั้ง เสรี และยุติธรรม
ผู้ต้องหาคดี ม.112 ตอกลิ่ม!
          "ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องไม่รับพิจารณาคดียุบพรรคนี้ เพราะการเสนอชื่อนายกฯ เป็นสิทธิตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งและพรรคการเมืองมิได้เป็นการกระทำปฏิปักษ์กับระบอบการปกครองประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข คุณอุบลรัตน์ มหิดล มิได้มีฐานันดรศักดิ์เป็นเจ้าหญิง มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 ถ้าศาลรัฐธรรมนูญยังรับคดีนี้ จะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกฟ้องร้อง คณะกรรมการพรรคไทยรักษาชาติ และคุณอุบลรัตน์ มหิดล แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงแสดงหลักฐานพยานอย่างครบถ้วน ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องยึดหลักการความเป็นอิสระ เป็นกลาง และประชาธิปไตย ในการพิจารณาคดี ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนรับฟังและแสดงความคิดเห็นได้" นายจรัลระบุ
    ที่สำนักงาน กกต. นายวิญญัติ ชาติมนตรี  เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือถึงประธานกกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง ให้พิจารณาและวินิจฉัยส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งเข้าข่ายการกระทำความผิดต่อกฎหมายและขัดรัฐธรรมนูญ โดยยืนยันว่า การกระทำของพรรค พปชร. มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่มีวัตถุประสงค์จัดตั้งพรรคการเมืองโดยผิดกฎหมาย มีกลุ่มบุคคลครอบงำการจัดตั้งพรรคโดยเรียกรับผลประโยชน์เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง และใช้ตำแหน่งเจ้าพนักงานของรัฐโดยมิชอบเพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษต่อผู้สมัครหรือพรรคการเมือง โดยอดีตรัฐมนตรีของพรรคดังกล่าว อีกทั้ง พปชร.กระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้อำนาจการปกครองมาจากการปฏิวัติ เป็นบุคคลที่มีที่มาโดยมิชอบ ยึดอำนาจมาบริหารประเทศต่อ ซึ่งไม่เป็นไปตามครรลองระบอบประชาธิปไตย และขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ หาก กกต.เห็นสอดคล้องกับคำร้อง ขอให้ดำเนินการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
    นายวิญญัติกล่าวว่า นอกจากนี้ตนยังขอยื่นคำร้องคัดค้านการประกาศชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของ พปชร. เนื่องจากก่อนและหลังการประกาศ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ รับเงินเดือนและยังมีตำแหน่งกรรมบริหารในหลายองค์กร ซึ่งมีค่าตอบแทนจากงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 14 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. การประกาศรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ในบัญชีรายชื่อจึงมิชอบ โดยได้รวบรวมพยานเอกสารกว่า 100 แผ่น ส่งให้ กกต.เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาความผิดตามมาตรา 92 (2) ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ขอให้ กกต.ใช้มาตรฐานเดียวกันกับที่ดำเนินการกับพรรคการเมืองอื่นก่อนหน้านี้ หากรับคำร้องแล้วประวิงเวลา หรือพยายามหาทางออกที่ไม่เป็นไปตามครรลองให้กับ พปชร. ถือเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 157 และสามารถล่ารายชื่อประชาชน 20,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอน กกต.ได้ 
    "จะกล่าวหาสวนกลับก็ได้ ผมยินดีรับฟัง แต่ได้ติดตามพฤติการณ์ของ พปชร.มาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ก่อนจัดตั้งพรรค ก่อนและหลังมี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง แต่ผมยังไม่เข้ายื่นคำร้องให้ยุบพรรคก่อนหน้านี้ เพราะต้องการรอให้เห็นพฤติการณ์เอารัดเอาเปรียบ อะไรที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบทางการเมืองซึ่งเรายอมไม่ได้" นายวิญญัติกล่าวเมื่อถามว่าการยื่นคำร้องยุบ พปชร.เป็นการสวนกลับเพื่อช่วยพรรค ทษช.     
"เสรีพิศุทธ์"ขย่มซ้ำ
    ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวระหว่างเปิดศูนย์ประสานงานพรรค ที่ จ.สมุทรปราการ ว่า "กกต.แจ้งข้อหาพรรคไทยรักษาชาติว่าการที่เสนอรายชื่อทูลกระหม่อมหญิงฯ เป็นนายกรัฐมนตรีพรรคไทยรักษาชาติ เป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย แล้วการที่พรรคพลังประชารัฐเสนอคุณประยุทธ์เป็นนายกฯ นี่ยังไม่รวมคุณประยุทธ์เป็นหัวหน้า คสช. เป็นนายกฯ เป็นนู่นเป็นนี่ เป็นอะไรต่างๆ ผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่เอาประเด็นที่เทียบเคียงกับพรรคไทยรักษาชาติ     
    "อยากถามว่า คุณประยุทธ์ คุณยึดอำนาจเขามา ถึงแม้ว่าคุณจะได้รับพระราชทานอภัยโทษเรื่องกบฏก็ว่าไป แต่พฤติกรรมที่คุณยึดอำนาจเข้ามา เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ พรรคพลังประชารัฐไปเสนอให้คนยึดอำนาจมาเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค ก็น่าจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยด้วย ชัดยิ่งกว่ากรณีพรรคไทยรักษาชาติ ผมจะไปยื่น กกต.ให้ยุบพรรคพลังประชารัฐอีก 1 ข้อหา กรณีพรรคไทยรักษาชาติ 3 วันทำเสร็จ ถ้าผมยื่นจะทำหรือไม่ ข้อหาเดียวกันด้วย ถ้าไม่ทำ ก็จะดำเนินคดี กกต.ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”พล.ต.อ.เสีรีพิศุทธ์กล่าว 
    ที่พรรคพลังประชารัฐ นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนสมาชิกพรรค เปิดเผยว่า เนื่องด้วยในวันที่ 15 ก.พ. กกต.จะประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่ออย่างเป็นทางการ    ตนจึงได้เสนอต่อที่ประชุมพรรคเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ว่าคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้สมัคร ส.ส. ผู้ช่วยผู้สมัครหาเสียง ตลอดจนสมาชิกพรรคและผู้เกี่ยวข้องทุกคนจะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ร.ป.เลือกตั้งฯ และระเบียบ ประกาศของ กกต.อย่างเคร่งครัด รัดกุม เพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำความผิดต่อการเลือกตั้งในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งกฎหมายมีบทลงโทษทั้งเบาหนัก ตามเหตุจนมีโทษหนักบางกรณีถึงขั้นยุบพรรคการเมือง และตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต หรือการประหารชีวิตทางการเมือง
    "ที่ประชุมพรรคได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการบริหารพรรค ผู้สมัคร ส.ส. ผู้ช่วยหาเสียง และสมาชิกทุกคน ให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยพรรคจะจัดทำเป็นประกาศเพื่อแจ้งเตือนผู้เกี่ยวข้อง และจะติดประกาศไว้ที่พรรคเพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบทั่วกันด้วย"
    นายวิเชียรกล่าวว่า พรรค พปชร.ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยและครรลองของกฎหมาย โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน และพรรคเน้นย้ำให้ทุกพรรคการเมืองช่วยกันทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม ปฏิบัติตามกฎหมาย และเคารพกติกาทางการเมือง
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องยื่นยุบพรรค ทษช. แกนนำพรรคต้องยุติการทำกิจกรรมหรือไม่ ว่าเขายังทำกิจกรรมได้ แต่เขาก็เบรกกันเองแล้ว ซึ่งไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่ฝ่ายกฎหมายเขาอาจมองเห็นจุดเสี่ยง เช่น การขึ้นเวทีพูดปราศรัยแล้วเบรกไม่อยู่ จนมีปัญหา เพราะเผลอพูดพลั้งพลาดอะไรไป จะเป็นคำพูดที่นำไปขยายต่อได้ เขาอาจกลัวว่าเวลาต่างคนต่างพูดแล้วไม่เหมือนกัน คดีก็อยู่ในศาล อาจจะกระทบได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"