
“กกต.” ปล่อยผีผู้สมัคร รับรองผู้สมัคร 2,810 คน ตัดสิทธิ์แค่ 107 คน อ้างผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตยังไม่รายงานผลเข้ามา ส่วนรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ตัดสิทธิ์ได้เฉพาะลักษณะต้องห้ามหรือตายเท่านั้น บัญชีนายกฯ หั่นออกอีก 2 คน พรรคการเมืองพร้อมฟ้องศาลฎีกาหากไร้ชื่อ
เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)? ได้เผยแพร่เอกสารข่าวเรื่องการประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ รวมทั้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีภายหลังจากการปิดรับสมัครรับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 4-8 ก.พ. โดยหลังจาก กกต.ได้พิจารณาแล้ว ได้ประกาศรับรองรายชื่อพรรคการเมืองที่ส่งสมัครแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 77 พรรค และประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัคร 2,810 คน จากที่ยื่นสมัคร 2,917 คน โดยไม่รับรอง 107 คน รวมทั้งให้ยกเลิกประกาศ กกต.ที่รับรองรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ไปเมื่อวันที่ 11 ก.พ. จาก 46 พรรค 71 รายชื่อ ให้เหลือ 44 พรรค 68 รายชื่อ โดยไม่ประกาศรับรอง 2 คน โดยหนึ่งคนเป็นผู้ที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขัง คือ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย และอดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 8 เดือน และอีก 1 คนมีวุฒิการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ส่วนอีก 1 รายคือแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)? ที่ กกต.ไม่ประกาศรายชื่อไปก่อนหน้านี้
สำหรับการรับรองผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตที่ส่งสมัครรับเลือกตั้งทั้งสิ้น 81 พรรค 11,181 คน เป็นอำนาจพิจารณาของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่จะตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งต้องดำเนินการประกาศภายในวันที่ 15 ก.พ. และเมื่อได้ประกาศรายชื่อแล้วจะนำไปปิดประกาศไว้ ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตรวจสอบได้จากแอปพลิเคชัน SMART VOTE ด้วย ซึ่งสำนักงานจะเร่งปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันโดยเร็ว
ทั้งนี้ ผู้สมัครคนที่ กกต.หรือผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งไม่ได้ประกาศรายชื่อให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ไม่รับสมัคร และหากผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือผู้สมัครผู้ใดเห็นว่าผู้สมัครที่มีชื่อในประกาศรายชื่อที่ กกต. และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ก็สามารถยื่นคำร้องต่อ กกต.ได้ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ประกาศรายชื่อผู้สมัครด้วย
สำหรับการประกาศรับรองผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อครั้งนี้ เป็นการประกาศรวมพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ที่ กกต.เสนอยุบพรรค เนื่องจากเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัย และตามกฎหมายก็ไม่ได้กำหนดว่าเมื่อถูกร้องต่อศาลจะถูกตัดสิทธิ์ไปเลยทันที ขณะที่พรรคเพื่อนไทยที่ กกต.แจ้งไปยังผู้อำนวยการ กกต.จังหวัด ว่าไม่มีคุณสมบัติในการส่งสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต เนื่องจากไม่มีการตั้งสาขา หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ที่ประชุม กกต.ได้พิจารณาข้อกฎหมายแล้วเห็นว่า กฎหมายกำหนดว่าพรรคการเมืองจะส่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อได้ ต้องส่งในระบบแบ่งเขต ซึ่งขณะนี้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตยังไม่มีการรายงานผลการรับรองเข้ามา รวมทั้งการไม่ประกาศรายชื่อผู้สมัครในแบบบัญชีรายชื่อต้องเป็นที่ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม หรือตายเท่านั้น ไม่มีจากเหตุอื่น กกต.จึงได้ประกาศไปก่อน
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าและเที่ยง ก็มีบรรดาพรรคต่างๆ ได้เดินทางมายัง กกต. โดยเฉพาะนายอนุวัฒน์ วิกัยพัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อนไทย ที่มีกระแสข่าวว่าอาจถูกตัดสิทธิ์ยกพรรค โดยนายอนุวัฒน์ยืนยันว่า ตนเองและกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันได้รับเลือกอย่างถูกต้องตามข้อบังคับพรรค หลังจากที่ได้รับหนังสือมอบอำนาจจากนายสิริ พิมพ์กลาง อดีตหัวหน้าพรรคคนเดิมแจ้งมอบอำนาจให้ การส่งผู้สมัคร ส.ส. 240 คนใน 39 จังหวัด และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 52 คน แคนดิเนตนายกฯ 3 คน จึงเป็นไปอย่างถูกต้อง ดังนั้นถ้าหากผู้สมัครของพรรคไม่ได้รับการประกาศชื่อ ก็จะฟ้องร้องต่อศาลฎีกาเพื่อให้คืนสิทธิดังกล่าว รวมทั้งหากท้ายที่สุดแล้วไม่สามารถกลับมาเป็นผู้สมัครได้ ก็จะฟ้องเรียกค่าเสียหายกับ กกต.
นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลเมืองไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงประธาน กกต.เช่นกัน เพื่อชี้แจงคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.เขตของพรรค 6 คนที่อาจไม่ประกาศรายชื่อให้เป็นสมัคร เนื่องจากขาดคุณสมบัติ เพราะมีรายชื่อสมาชิกซ้ำซ้อนกับพรรคการเมืองอื่น จึงได้นำเอกสารมาชี้แจงเพื่อประกอบการพิจารณา แต่หากถูกตัดสิทธิ์จริงก็จะไปร้องต่อศาลฎีกาตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กระแสมีผู้สมัคร ส.ส.เขตของพรรคมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ 1 เขต ว่าได้ให้เจ้าตัวทำหนังสือชี้แจง กกต.ภายในวันที่ 15 ก.พ.แล้ว เพราะหากชี้แจงไม่ได้จะกระทบกับจำนวน ส.ส.ที่จะไม่มีคะแนนในเขตนั้น
นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงข่าวผู้สมัครของพรรค 2 รายอาจขาดคุณสมบัติว่า ทั้ง 2 รายยืนยันเรื่องความสุจริต และเป็นความซ้ำซ้อนผิดพลาดของระบบข้อมูลระหว่างพรรคการเมืองกับ กกต. รวมถึงอาจเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกซ้ำซ้อนกับพรรคการเมืองอื่น ทั้งที่เป็นสมาชิก ภท. โดยหาก กกต.ไม่ประกาศว่าทั้ง 2 คนเป็นผู้สมัคร ส.ส.ก็จะไปยื่นร้องต่อศาลฎีกา
ส่วนนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) กล่าวกรณีข่าว กกต.อาจไม่ประกาศรับรองว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 3 คนของพรรคว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่พรรคส่งผู้สมัครเกือบ 270 เขต สมมุติว่าถ้ามีผู้สมัครขาดคุณสมบัติ 3 คน ก็เพียง 1% ก็ไม่เป็นอะไร โดย พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก รองหัวหน้าพรรค ก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่ง 2 ใน 3 คนคือนายชัยชนะ รัตนชัยฤทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 4 และนายวรเดช เศรษฐภักดี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 9 มีเหตุผลส่วนตัว โดยได้ไปยื่นถอนใบสมัครจาก กกต. ซึ่งก็ได้ชี้แจงมาที่พรรคก่อนหน้านี้แล้วว่ายังไม่พร้อมที่จะลงสมัคร แต่ยังคงเป็นสมาชิกพรรคอยู่ และสามารถช่วยหาเสียงได้ ทั้งนี้ก็ยอมรับว่า ต้องปล่อย 2 พื้นที่ว่างไป เชื่อมั่นไม่เกิดผลกระทบต่อพรรค และคะแนนในภาพรวม ขณะที่นายปรัชญา วิเชียรเครือ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี เขต 3 ที่มีกระแสข่าวถึงการขาดคุณสมบัติ เพราะสมัครเป็นสมาชิกพรรคไม่ถึง 90 วันนั้น อยู่ระหว่างประสานงานกับ กกต.เกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรค ซึ่งคาดว่าไม่น่ามีปัญหาแต่อย่างใด
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่า การประกาศชื่อผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ เป็นอำนาจของ กกต. ใครที่ถูกประกาศว่าไม่มีคุณสมบัติแล้วไม่พอใจ สามารถไปร้องต่อศาลฎีกา และเรื่องนี้จะพิจารณากันเร็วกว่าเรื่องอื่น เพราะตอนที่สมัครเขาตรวจกันไม่ทัน ต้องได้ชื่อมาก่อน แล้วมาไล่ตรวจคุณสมบัติ ซึ่งบางคนเขามีคุณสมบัติครบ แต่ยื่นหลักฐานไม่ครบ.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |