“สรรพสามิต” จ่อขยับภาษีน้ำหวานเป็น 3 บาทต่อลิตร ดีเดย์ 1 ต.ค.นี้


เพิ่มเพื่อน    

 

18 ก.พ. 2562 นายพชร  อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต  เปิดเผยว่า วันที่ 1 ต.ค. 2562 อัตราภาษีความหวานจะเก็บเพิ่มมากขึ้น ตามกฎหายใหม่ของกรมฯ ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2560 ที่ให้มีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นตามขั้นบันได ทำให้เครื่องดื่มที่มีความหวานเกินกำหนดจะต้องเสียภาษีมากขึ้น เช่น น้ำอัดลมกระป๋องขนาด 250 ซีซี จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นประมาณ 10 สตางค์ ส่วนผู้ประกอบการจะเพิ่มราคากับผู้บริโภคขึ้นอยู่กลยุทธ์ทางการตลาดของผู้ผลิต

ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมสรรพสามิตเก็บภาษีความหวานเฉลี่ยยอยู่ที่ 1 บาทต่อลิตร  แต่หลังที่วันที่ 1 ต.ค. 2562 ถึง 30 ก.ย. 2564 จะเก็บ 3 บาทต่อลิตร และหลังจากนั้นจะปรับเพิ่มสูงสุดที่ 5 บาทต่อลิตร

"ตอนนี้เครื่องดื่มน้ำอัดลมบางส่วนก็มีการปรับลดน้ำตามจาก 14 กรัมต่อลิตร เหลือ 12 กรัมต่อลิตร เพื่อเสียภาษีให้ต่ำลง ส่วนน้ำอัดลมสีดำยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงสูตร เพราะเป็นตลาดใหญ่ของผู้บริโภค ต่างจากน้ำอัดลมสีที่สัดส่วนตลาดมีน้อยก็มีการเปลี่ยนสูตรลดน้ำตาล ไม่กระทบกับยอดขาย" นายพชร  กล่าว

นายพชร กล่าวอีกว่า กฎหมายสรรพสามิตที่ประกาศใช้เมื่อปี 2560 ได้มีการแก้ไขให้เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของพืชทางการเกษตรไม่ต่ำกว่า 10% ได้ยกเว้นภาษีสรรพสามิต เป็น 20% ถึงจะได้ลดภาษีเพื่อให้มีการช่วยเหลือเกษตรการอย่างแท้จริงมากขึ้น

ทั้งนี้ กฎกระทรวงกําหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตความหวาน กำหนดว่า ตั้งแต่กฎหมายสรรพสามิตมีผลบังคับใช้วันทที่ 16 ก.ย. 2560 ถึง 30 ก.ย. 2562 1. เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลไม่เกิน 6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เว้นการเก็บภาษี 2. ที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 6 กรัม แต่ไม่เกิน 8 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 0.10 บาทต่อลิตร 3. ที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 8 กรัมแต่ไม่เกิน 10 กรัม ต่อ 100  มิลลิลิตร เสียภาษี 0.30 บาทต่อลิตร  4. ที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 10 กรัม แต่ไม่เกิน 14 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 0.50 บาทต่อลิตร และ 5. ที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 14 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร

หลังจากนั้นตั้งแต่ 1 ต.ค. 2562 ถึง 30 ก.ย. 2564 เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 14 กรัม แต่ไม่เกิน 18 กรัม ต่อ 100  มิลลิลิตร เสียภาษี 3 บาทต่อลิตร และ ที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 5 บาทต่อลิตร และ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 จนถึงวันที่ 30 ก.ย 2566  เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลไม่เกิน 8 กรัม แต่ไม่เกิน 10 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร  เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 10 กรัมแต่ไม่เกิน 14 กรัม ต่อ 100  มิลลิลิตร เสียภาษี  3 บาทต่อลิตร  และ ที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 14 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี  5 บาทต่อลิตร

ขณะที่ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2566 เป็นต้นไป ครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 6 กรัม แต่ไม่เกิน 8 กรัม ต่อ 100  มิลลิลิตร เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 8 กรัม แต่ไม่เกิน 10 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 3 บาทต่อลิตร  และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 10 กรัมต่อลิตร  เสียภาษี  5 บาทต่อลิตร


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"