บุกฆ่าโหดทหารพรานคาบ้าน คนร้ายสอดปืนลอดรูประตูหน้าบ้าน ขณะเหยื่อนั่งดูทีวี รัวยิงกระสุนตัดขั้วหัวใจ พบปมปล่อยเงินกู้หลักแสน และประเด็นชู้สาว อีกราย คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มบ้านเจ้าของสวนยางพารา สับปะรดรายใหญ่ในอำเภอตะโหมด ทรัพย์สินเสียหายยับ
    เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ร.ต.อ.อดิเรก บุรินทราภิบาล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 80/2 หมู่ 10 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผกก.และหน่วยกู้ภัยพะวง พบมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน คือนายเจริญ โมราพันธ์ อายุ 43 ปี หรือเอก เป็นทหารพรานอยู่หน่วยทหารพราน 47 จ.ยะลา เจ้าของบ้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนยังไม่ทราบชนิดเข้าที่หน้าอกซ้าย 1 นัด กระสุนตัดขั้วหัวใจ 
    จากการสอบสวน น.ส.กรรณิกา บัวศรี อายุ 43 ปี ภรรยาของผู้ตาย บอกว่า สามีลาพักกลับมาอยู่ที่บ้านได้สองอาทิตย์แล้ว ขณะเกิดเหตุกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่หน้าบ้าน ส่วนตนเองอยู่หลังบ้าน และได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากหน้าบ้าน เมื่อออกมาดูก็เห็นสามีถูกยิงนอนหายใจรวยรินจมกองเลือดอยู่แล้ว แต่ไม่เห็นตัวคนร้าย
    ด้าน พ.ต.อ.เอกณรงค์ พร้อมพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาหลักฐาน และสอบสวนพยานแวดล้อมเพื่อหาเบาะแสของคนร้าย พบว่าคนร้ายได้ใช้วิธีสอดปืนเข้ามาทางประตูหน้าบ้านซึ่งมีรูอยู่พอดีกับกระบอกปืน ก่อนจะลั่นไกยิงนายเจริญที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์โดยหันหน้าออกไปทางหน้าบ้าน กระสุนปืนจึงเข้าอกซ้ายพอดี ในขณะที่ชาวบ้านละแวกเกิดเหตุบอกว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด แต่ไม่มีใครเอะใจ เพราะคิดว่าเป็นการจุดประทัดเท่านั้น ทั้งนี้ ตำรวจได้ตรวจสอบบริเวณหน้าบ้าน ก็ไม่พบปลอกกระสุนปืนแต่อย่างใด และยังไม่ทราบว่าคนร้ายใช้รถอะไรในการหลบหนี
    ต่อมา พล.ต.ต.สมชาย รักษ์เสนาะ ผบก.สส.ภาค 9 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และสั่งการให้ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา จัดชุดสืบสวน 4 ทีมเร่งคลี่คลายคดีนี้ ขณะที่ พล.ต.ต.สมชายได้สอบปากคำ น.ส.กรรณิกา ที่ให้การว่าผู้ตายไม่มีปัญหากับใคร ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว แต่มีการปล่อยเงินกู้วงเงินหลักแสนบาทให้กับผู้กู้คนหนึ่ง รวมทั้งเมื่อหลายปีก่อนเคยมีปัญหากับเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเครือญาติกัน เกี่ยวกับเรื่องการสร้างกำแพง แต่ไม่ได้รุนแรงอะไร แค่ไม่พูดกัน ต่างคนต่างอยู่ 
    ตำรวจยังได้เชิญตัวมารดาและน้องชายนายเจริญที่เป็นตำรวจชุดสืบสวนอยู่ที่นครบาลมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งคำให้การค่อนข้างมีประโยชน์พอสมควร ขณะนี้เจ้าหน้าที่มุ่งไปที่ประเด็นเรื่องการปล่อยเงินกู้ และเรื่องชู้สาว รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ก็ไม่ตัดทิ้ง แต่มีข้อมูลจากต้นสังกัดแจ้งว่า ในระยะหลัง ผู้ตายมักขอลางานกลับบ้านบ่อยครั้ง ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร
    อีกราย ร.ต.อ.วิฑูรย์ แปวประเสริฐ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ตะโหมด, พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประปา รอง ผบก.ภ.จ.พัทลุง รักษาราชการ ผกก.สภ.ตะโหมด, พ.ต.อ.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง, พ.ต.ท.เกียรติคุณ วังเพ็ชร สวป.สภ.ตะโหมด และชุดพิสูจน์หลักฐานพัทลุง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามและลูกซองสั้นยิงใส่บ้านพักและรถกระบะ 4 ประตู จนได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 135 หมู่ที่ 10 ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ริมถนนสายแม่ขรี-ตะโหมด เมื่อเวลา 03.00 น. วันเดียวกัน จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ จำนวน 31 นัด  พร้อมทั้งเศษกระสุนปืนลูกซองสั้นจำนวนหนึ่ง
    จากการตรวจสอบพบว่าบ้านเกิดเหตุเป็นของ น.ส.นุชนารถ สวนแก้ว อายุ 53 ปี อาชีพทำสวนยางพารา และเป็นเจ้าของสวนสับปะรดรายใหญ่ใน อ.ตะโหมด โดยสภาพบ้านถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 เข้าที่ประตูเหล็กจนกระจกบานเกล็ดแตกละเอียด 5 บาน กระสุนยังทะลุเข้าไปโดนภาพถ่ายติดฝาผนังภายในบ้าน บางส่วนไปถูกรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีขาว-ดำ ทะเบียน กษร 300 พัทลุง เสียหาย ส่วนที่โรงจอดรถห่างจากบ้านพักประมาณ 10 เมตร จอดรถกระบะฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขม 8764 สงขลา ถูกกระสุนที่บริเวณฝาท้าย กระจกด้านหลัง ฝากระบะด้านขวา จนเป็นรูพรุน กระจกมองข้างด้านขวาแตกละเอียด นอกจากนั้นกระสุนของคนร้ายยังไปโดนสุนัขเพศผู้ ที่เห่าคนร้าย บาดเจ็บสาหัส   
    น.ส.นุชนารถเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนและลูกชายคือ ส.อ.นราชัย บัวชุม อายุ 29 ปี หน.ชุดช่างโจมตี กองร้อยสนับสนุนการรบ ร.1 พัน ค่ายคอหงส์ จ.สงขลา ช่วยปฏิบัติราชการพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเจ้าของรถกระบะ 4 ประตู กำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้าน ได้มีกลุ่มคนร้าย 2-3 คน ใช้จักรยานยนต์ 2 คัน เป็นพาหนะ มาจอดบริเวณหน้าบ้าน จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนพกสั้น ยิงใส่บ้านพักและโรงจอดรถจนได้รับความเสียหายดังกล่าว
    ด้าน ส.อ.นราชัยเปิดเผยว่า ตนสงสัย 2 ประเด็น คือการที่มารดาของตนไปเป็นคนกลางในการคลี่คลายความขัดแย้งเรื่องที่ดินจนอาจจะทำให้บางฝ่ายไม่พอใจ นอกจากนี้ตนเคยตักเตือนกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านมิให้ยุ่งเกี่ยวกับขบวนการซื้อขายยาเสพติดในพื้นที่ จนสร้างความไม่พอใจให้กับขบวนการค้ายาเสพติด โดยก่อนหน้านี้ได้มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดกับตนว่า รถกระบะของตนสวยดี น่าจะฝากกระสุนปืนไว้สัก 2-3 นัด.