หนุ่มดวดเหล้าจนดึกดื่น ซิ่งเก๋งเสียหลักปีนฟุตปาธพุ่งเข้าไปในร้านเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังในเขตเทศบาลเมืองคอหงส์ รถเกิดไฟท่วม ทหารประจำด่านตรวจลากคนขับออกมาได้ทันก่อนถูกย่างสด แต่ทั้งร้าน ทั้งรถเหลือแต่ซาก สูญ 80 ล้าน ตัวการเจอข้อหาเมาขับ ทำให้เสียทรัพย์ และทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีประกัน
    เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ร.ต.อ.ชุติพนธ์ สุบรรณน้อย รองสารวัตรสอบสวน สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเกิดเหตุรถเก๋งพุ่งชนร้านเฟอร์นิเจอร์ เลขที่ 31/6 ตั้งอยู่ริมถนนกาญจนวนิช เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ และเกิดไฟลุกไหม้ จึงรีบประสานรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองคอหงส์และเทศบาลนครหาดใหญ่รวม 5 คัน ไปยังจุดเกิดเหตุ รวมทั้งหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ พบว่าร้านดังกล่าวชื่อ "บางกอกลิฟวิ่งมอลล์" เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ โดยไฟกำลังโหมลุกไหม้อย่างหนัก 
    จากการสอบสวนทราบว่า สาเหตุเกิดจากรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรลล่า สีเทา หมายเลขทะเบียน ขท 1452 สงขลา วิ่งมาด้วยความเร็วสูง แล้วเสียหลักปีนทางเท้าพุ่งเข้าไปภายในร้าน จากนั้นเกิดไฟลุกไหม้ตัวรถ แล้วลุกลามไปติดเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีอยู่จำนวนมาก จนไหม้ตัวอาคารทั้งหมด และโครงสร้างอาคารพังลงมา
    มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำดับไฟนานเกือบ 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่ก็ทำให้ร้านเฟอร์นิเจอร์ทั้งร้าน และสินค้าที่อยู่ภายในร้านเสียหายทั้งหมด ขณะที่รถเก๋งต้นเหตุก็ถูกไฟไหม้เหลือแต่โครง รถดับเพลิงยังต้องฉีดน้ำเลี้ยงตลอดเวลา นอกจากนี้ความร้อนของไฟลามไปยังบริษัทเหล็กที่อยู่ติดกันได้รับความเสียหายที่บริเวณกำแพงด้วย
    สำหรับคนขับรถเก๋ง ทราบชื่อนายพฤหัส แซ่จิว อายุ 26 ปี ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมามาก พูดจาไม่ได้ศัพท์ ได้รับบาดเจ็บ และโชคดีที่ทหารประจำด่านตรวจด้านความมั่นคงซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเข้ามาช่วยดึงร่างออกมาได้ทัน นำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่  
    หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.ชุติพล สุบรรณน้อย รองสารวัตรสอบสวน สภ.คอหงส์ ทราบว่าร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งนี้เป็นของนายอัชอารีย์ วันดับดุลเลาะฮ์ อายุ 50 ปี ซึ่งประมาณค่าเสียหายราวๆ 80 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทั้งร้านเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งรถเก๋งที่พุ่งชนก็ไม่มีประกันทั้งคู่ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีนายพฤหัส คนขับรถเก๋ง 2 ข้อหา คือ ขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย และขับรถขณะเมาสุรา ซึ่งต้องรอนายพฤหัสสร่างเมาได้สติก็จะสอบสวนในรายละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งพิจารณาว่ามีความผิดข้อหาอื่นอีกหรือไม่.