ธนาธรโวยเร่งปิดคดีสกัด'อนค.'


เพิ่มเพื่อน    


    กกต.สรุปยอดลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 2.6 ล้านคน ผงะ! พบ 40 ผู้สมัคร ส.ส.จาก 12 พรรคที่ไม่ได้ประกาศชื่อแก้ไขข้อมูลหลอกเจ้าหน้าที่ เตรียมยื่นฟันคดีอาญา "อนาคตใหม่" โวยโดนเตะสกัดขาก่อนเลือกตั้ง หลังเร่งฟ้องคดี พ.ร.บ.คอมพ์ หวังเชือด กก.บริหารพรรคเข้าซังเต "ธนาธร" เชื่อจ้องทำลายพรรค ปัดสร้างประวัติข้อมูลเท็จนั่ง ปธ.สภาอุตฯ โบ้ย จนท.พรรคใส่ข้อมูลผิดพลาด กองเชียร์แห่ติด #savethanathorn "จตุพร" ท้า "บิ๊กตู่" พปชร.ได้ไม่ถึง 126 เสียงให้ยุติทุกบทบาท ตำรวจมั่นใจดูแลการเลือกตั้งเรียบร้อย
    เมื่อวันที่ 20 ก.พ. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้สรุปจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ข้อมูลสะสมตั้งแต่วันที่ 28  ม.ค.-9 ก.พ.2562 มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งทั้งประเทศ มีจำนวน 2,632,935 คน โดยเป็นการลงทะเบียนทางอินเทอร์เน็ตจำนวน 2,318,548 คน และสำนักทะเบียนท้องถิ่นจำนวน 314,387 คน
    ส่วนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 928,789 คน เป็นการลงทะเบียนทางอินเทอร์เน็ตจำนวน 797,196 คน และสำนักทะเบียนท้องถิ่นจำนวน 131,593 คน ใน 76 จังหวัดรวมจำนวนทั้งสิ้น 1,704,146 คน เป็นการลงทะเบียนทางอินเทอร์เน็ตจำนวน 1,521,352 คน และสำนักทะเบียนท้องถิ่นจำนวน 182,794 คน โดยจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร  928,789 คน, ชลบุรี 221,541 คน, สมุทรปราการ 164,575 คน, ปทุมธานี 134,783 คน และนนทบุรี 97,321 คน และผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกราชอาณาจักร จำนวน  119,184 คน ใน 67 ประเทศ
    มีรายงานด้วยว่า สำนักงาน กกต.ได้ตรวจสอบพบในจำนวนผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต 389 ราย ที่ กกต.ไม่ประกาศรายชื่อนั้น มี 38 ราย ที่พรรคการเมืองต้นสังกัดของผู้สมัครได้มีการเข้าไปแก้ไขระยะเวลาการเข้าเป็นสมาชิกพรรคของผู้สมัครตนในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรค หลังการปิดรับสมัครเพื่อให้ผู้สมัครตนเป็นผู้มีคุณสมบัติและได้รับการประกาศชื่อ โดยแยกเป็นของพรรคเพื่อแผ่นดิน 8 คน, พรรคเศรษฐกิจใหม่ 2 คน, พรรคไทยศรีวิไลย์ 1 คน, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 4 คน, พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล 1 คน, พรรคประชาชนปฏิรูป 1 คน, พรรคประชาธรรมไทย 1 คน, พรรคพลังท้องถิ่นไท 11 คน, พรรคพลังปวงชนไทย 3 คน, พรรคภารดรภาพ 1 คน, พรรครวมพลังประชาชาติไทย 4 คน และพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 1 คน
    ส่วนผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่ กกต.ไม่ประกาศรายชื่อ 107 คนนั้น พบว่า มี 2 คนจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยและพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่มีการเข้าไปแก้ไขข้อมูลย้อนหลังในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง นอกจากนี้ยังพบว่าอาจมีการฮั้วกันของพรรคการเมืองเข้าไปแก้ไขการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเดิม และไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ เพื่อให้ไม่เป็นสมาชิกซ้ำซ้อน และมีระยะเวลาการสังกัดพรรคใหม่ครบตามที่กฎหมายกำหนด 
    "ทางสำนักงานได้มีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งให้กับผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตใช้ในการชี้แจงสู้คดีต่อศาลฎีกา รวมทั้งกำลังพิจารณาจะดำเนินการคดีกับผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองในความผิด ตามกฎหมายอาญาฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม และนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ซึ่งมีโทษจำคุกด้วย" แหล่งข่าวจาก กกต.ระบุ
    ด้านนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ กกต.ขยายเวลาให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขต ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งในเขตและนอกเขต ตลอดจนการใช้สิทธินอกราชอาณาจักรทางอินเทอร์เน็ตออกไปอีก เนื่องจากในวันที่ 19 ก.พ. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการลงทะเบียน พบเว็บไซต์ของ กกต.ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถเข้าไปใช้ได้ ซึ่งกรณีที่เกิดไม่ใช่ความผิดของประชาชน และเป็นเหตุสุดวิสัย ดังนั้น กกต.จึงควรขยายเวลาเพื่อให้ประชาชนได้ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิ์ดังกล่าว
    ที่พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวกรณีคดีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ และนายไกลก้อง ไวทยการ  กรรมการบริหารพรรค ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แจ้งความดำเนินคดีต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ว่ากระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2) จากการวิพากษ์วิจารณ์ พลังดูดในเฟซบุ๊กไลฟ์รายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” ผ่านแฟนเพจ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2561
'ธนาธร'โวยโดนแกล้ง
    น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า เราได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนว่ามีความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสรุปสำนวนคดีก่อนวันที่ 22 ก.พ.2562 โดยในวันที่ 27 ก.พ. กรรมการบริหารพรรคทั้ง 3 คน จะเดินทางไปสำนักงานอัยการสูงสุด และขอให้สื่อมวลชนร่วมกันจับตาว่ากรรมการทั้ง 3 คนจะโดนฝากขังหรือไม่
    “กรณีดังกล่าวไม่ใช่แค่พรรคอนาคตใหม่ที่เป็นเหยื่อของ พ.ร.บ.คอมพ์ แต่เป็นที่ชัดเจนว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นเครื่องมือปิดปากประชาชนไม่ให้วิจารณ์รัฐบาล อย่างไรก็ตาม เรายืนยันเรื่องนี้จะไม่ทำให้การดำเนินการทางการเมืองของพรรคยุติลง ทั้งการหาเสียงและเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง นี่เป็นการแสดงเห็นว่า ทำไมเราต้องเข้าไปแก้ พ.ร.บ.คอมพ์ และตอกย้ำว่าภายใต้รัฐบาลทหาร ประชาชน และพรรคการเมืองทั้งหลาย จะต้องอยู่กับการใช้อำนาจแบบไหน” น.ส.พรรณิการ์กล่าว
    โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าวว่า ทั้ง 3 คนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่พอเกิดการเร่งรัดคดีทำให้พนักงานสอบสวนต้องตัดพยานไป 1 ราย คือ นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ซึ่งมีความสำคัญในคดี เนื่องจากเป็นนักวิชาการที่กว้างขวางและได้รับการยอมรับในสังคมอีกด้วย
    "ถ้ามีการฝากขังจริง เป็นการแสดงให้เห็นว่า คสช.ต้องการมีอำนาจสูงสุด สถานการณ์แบบนี้คล้ายกับการเลือกตั้งในประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่ได้นำไปสู่การยอมรับในสากลโลก การเลือกตั้งที่จะถึงนี้เป็นความหวังของทุกคน หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น บอกได้เลยว่านี่เป็นการทำลายความหวังของประชาชน" โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าว
    ต่อมานายธนาธรกล่าวถึงคดี พ.ร.บ.คอมพ์ว่า ไม่มีความกังวลใจ แต่การเลือกตั้งใกล้มาถึงแล้ว นี่เป็นการพยายามทำลายพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ เราต้องตั้งถามไว้ ยืนยันทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง พรรคอนาคตเป็นสถาบันทางการเมือง เราออกแบบพรรคมาให้เป็นแบบนั้นไม่มีธนาธรก็ยังมีปิยบุตร ไม่มีปิยบุตรก็ยังมีกุลธิดา เรามีรองหัวหน้าพรรคอีกหลายคนที่พร้อมมายืนตรงนี้แทนตน
    “นี่คือความฝัน นี่คือพรรค นี่ไม่ใช่ธนาธร นี่คือความฝันของคนเป็นล้านในสังคมไทย ที่อยากเห็นประเทศไทยกลับไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้นไม่ต้องห่วงพรรคอนาคตใหม่ ไม่สั่นคลอน หากเกิดอะไรขึ้นกับตนก็พร้อมที่จะมีคนขึ้นมาแทน” นายธนาธรกล่าว
    ถามว่า ส่วนตัวมองเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า อันนี้เราไม่รู้ว่ากระบวนการยุติธรรมดำเนินอย่างไร แต่ต้องเข้าใจไว้ว่านี่จะถึงการเลือกตั้งอยู่แล้ว การที่เร่งทำคดีเร็วแบบนี้มีเป้าหมายทางการเมืองหรือไม่
    หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ระบุประวัติการทำงานเคยเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 2 สมัยว่า คงต้องขอโทษ เพราะทางเจ้าหน้าที่ของเราที่อัพเดตข้อมูลก็มีความผิดพลาด เป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่พรรคจริงๆ ไม่มีเจตนาที่จะหลอกลวงประชาชน เรื่องใหญ่อย่างนี้เช็กในอินเทอร์เน็ตที่เดียวก็รู้กันแล้ว หากต้องการหลอกลวงประชาชนใช้เรื่องนี้มาหลอกลวงไม่ได้
    ถามถึงเหตุที่วิพากษ์ว่ารอยยิ้มของคนไทยเป็น เพราะไม่มีจุดยืนมาจากอะไร หัวหน้าพรรคความหวังใหม่กล่าวว่า สิ่งที่เราวิพากษ์วิจารณ์สังคม เราไม่ได้วิจารณ์ด้วยความเกลียดสังคมไทย แต่เราเชื่อว่าสังคมที่ดีกว่านี้เป็นไปได้ ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะไปไกลกว่านี้ ซึ่งเราไม่พอใจว่าทำไมประเทศเราถึงไปได้แค่นี้ ดังนั้นเราจึงวิพากษ์วิจารณ์เพื่อผลักดันสังคมไทยไปข้างหน้า ไม่ใช่ทำไปเพื่อความเกลียดชังอย่างที่พวกเขาพยายามจะป้ายสีให้เราเป็น เช่นเดียวกับกรณีที่ตนพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ที่มีการตัดต่อข้อความบางส่วนไปเผยแพร่นั้น ถือเป็นการเมืองแบบเก่า ที่มุ่งแต่จะทำลายกันด้วยคำลวง คำที่ทำให้ประชาชนเกลียดชังกัน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสโซเชียลฯ ตื่นตัวต่อกรณีของนายธนาธร โดยในสื่อสังคมออนไลน์อย่างทวิตเตอร์ มีแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องติดเทรนด์สูงสุดหลายอัน คือ #เลือกตั้ง 62 จำนวน 1 แสนครั้ง, #พรรคอนาคตใหม่ 3.8 หมื่นครั้ง, #ฟ้ารักพ่อเพราะนโยบายของพ่อ 1.2 หมื่นครั้ง, #ธนาธร 1.4 หมื่นครั้ง และ #savethanathorn 1.3 พันครั้ง รวมกว่า 1.7 แสนครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ชั่วโมงที่โฆษกพรรคอนาคตใหม่แถลงข่าว 
'จตุพร'ท้า'บิ๊กตู่'เดิมพัน
    ส่วนที่ จ.ขอนแก่น นายฐิตินันท์ แสงนาค ผู้สมัครส.ส.เขต 1 ขอนแก่น พรรคอนาคตใหม่ เข้าแจ้งความที่สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีผู้ที่ไม่หวังดีทำลายป้ายหาเสียงของตนเองและของพรรคที่ติดตั้งไว้ริมถนนประชาสโมสร เขตเทศบาลนครขอนแก่น รวมกว่า 10 ป้าย
     "สาเหตุที่ป้ายหาเสียงถูกทำลาย โดยส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมาจากการที่พรรคอนาคตใหม่ที่กำลังมาแรงอย่างมากในขณะนี้" ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ขอนแก่น พรรคอนาคตใหม่ระบุ
    ที่ จ.นนทบุรี พรรคเพื่อชาติ (พช.) ดร.วิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อขอคะแนนเสียงช่วยผู้สมัครพรรคเพื่อชาติ จ.นนทบุรี ทั้ง 6 เขต ทั้งบริเวณลานท่าน้ำปากเกร็ด ตลาดท่าน้ำปากเกร็ด และขึ้นรถแห่หาเสียงไปตลาดดวงแก้ว ตลาดประชานิเวศน์ ตลาดท่าน้ำนนท์   
    นายจตุพรกล่าวว่า ขอท้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ แม้ได้เปรียบทุกทาง ถ้า พปชร.ได้ไม่ถึง 126 ที่นั่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องประกาศอย่างลูกผู้ชายขอถอนตัวออกจากแคนดิเดตนายกฯ และจบบทบาททุกอย่าง และสื่อสารไปยัง ส.ว. 250 คนให้ทำตามเจตนารมณ์ ส.ส.ด้วย 
    "หาก พล.อ.ประยุทธ์รับคำท้าประชาชน จะตอบโจทย์ได้ถูก ถ้าประชาชนต้องการ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ไม่ต้องได้ 250 จาก ส.ส. แต่แค่การันตีว่า พปชร.ได้ ส.ส. 126 ที่นั่งตามเป้านั้น ผมเชื่อว่าไม่ถึงแน่ ถ้าไม่ได้ตัวเลขนี้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องพอได้แล้วที่ผ่านมามากแล้ว" นายจตุพรกล่าว 
    ด้านพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค แถลงเปิด 5 นโยบายเศรษฐกิจ กรุงเทพมหานคร ภายใต้แคมเปญ ‘Bangkok OK’
    นายสนธิรัตน์กล่าวว่า นโยบายกรุงเทพมหานครจะเชื่อมโยงกับนโยบายภาพรวมประเทศของพรรค โดยมีผู้สมัคร ส.ส.ร่วมพิจารณาช่วยกันทำให้ตอบสนองกับความต้องการของประชาชน จึงขอให้มั่นใจว่าพรรคไม่ได้พูดนโยบายไปเรื่อยๆ แต่ต้องตอบโจทย์และขับเคลื่อนได้ในทางปฏิบัติ และในทุกวันอังคารหลังจากนี้อีก 3 สัปดาห์ ขอให้ติดตามนโยบายใหม่ๆ ของพรรคได้ เรียกได้ว่าเร้าใจอย่างแน่นอน
    ถามถึงกรณีหลายพรรคการเมืองเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์เข้าร่วมเวทีดีเบต เลขาฯ พรรค พปชร.กล่าวว่า ต้องไปดูข้อกฎหมาย แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในนามของพรรค แต่สถานะยังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงไม่เหมาะที่จะลงมาดีเบต และ พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่จำเป็นต้องดีเบต เพราะที่ผ่านมาก็ได้แสดงวิสัยทัศน์ในนามนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องอยู่แล้ว พปชร.เรียนเชิญมานั่งแคนดิเดตนายกฯ เพราะตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนหน้าที่ดีเบตและการนำเสนอนโยบายเป็นหน้าที่ของพรรค ดังนั้นโดยกฎหมายไม่อนุญาตให้ลงมาดีเบตได้ เนื่องจากไม่ใช่สมาชิกพรรค ขอให้แยกให้ชัดเจน
    ส่วนพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในฐานะประธานคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรค พร้อมด้วยผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ลงพื้นที่โครงการปฏิบัติการ "เดินคารวะแผ่นดิน คารวะประชาชน" จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นจังหวัดที่ 75 และร่วมในพิธีเปิดที่ทำการสำนักงานตัวแทนพรรคประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน เขต 1 
    นายสุเทพกล่าวว่า หลังการเลือกตั้งจะไม่มีทางจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ถ้าจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้พรรคนั้นต้องได้คะแนนเสียง 251 คนในสภา ซึ่งไม่มีทางที่จะมีพรรคไหนได้ในเวลานี้ อาจจะเป็นรัฐบาลผสม 2-3 พรรค แต่จะผสมอย่างไรก็ต้องเป็นพรรคการเมืองมีที่หลักการหรือแนวทางเดียวกัน
     ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. กล่าวถึงความพร้อมการดูแลรักษาความเรียบร้อยในการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ว่า บช.น.มั่นใจและมีความพร้อมดูแลการเลือกตั้งในเขตพื้นที่ กทม. ให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย สำเร็จลุล่วง มั่นใจรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งได้ ขณะเดียวกันยังสั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่ทำข้อมูลของทุกกลุ่มที่อาจจะก่อให้เกิดผลต่อการเลือกตั้ง หรือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ตอนนี้ยังไม่มีการรายงานจะมีเหตุหรือผลกระทบกับการเลือกตั้ง
    "การดูแลรักษาหีบบัตรเลือกตั้ง คูหา และการนับคะแนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปดูแลอย่างแน่นอน และทำในขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง โดยทาง บช.น.ได้มีการประสานงาน กกต.กทม.อยู่แล้ว เช่น สอบถามเขตเลือกตั้งใน กทม. มีกี่เขต เพื่อนำมาคำนวณจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความเรียบร้อยในคูหาการเลือกตั้งต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ และเป็นการเตรียมกำลังตำรวจเพื่อรองรับการเลือกตั้งและรักษาความปลอดภัย" พล.ต.ท.สุทธิพงษ์กล่าว
    ถามถึงปัญหาการทำลายป้ายหาเสียง ผบช.น.กล่าวว่า สาเหตุส่วนใหญ่มาจากอาการเมาสุราและคึกคะนอง และปัญหาสุขภาพจิต อีกทั้งการทำลายป้ายหาเสียงยังพบว่าไม่ได้มีการเจาะจงไปที่พรรคการเมืองใด หรือเบอร์ใดโดยเฉพาะ เพียงแต่ป้ายหาเสียงส่วนใหญ่อยู่ในเส้นทางเดียวกัน จึงไม่ใช่การเจาะจงหรือมุ่งเน้นทำลายป้ายหาเสียง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"