ปลุกทำภารกิจ2475 ธนาธรหวังอนาคตใหม่สานต่ออดีตสำเร็จ


เพิ่มเพื่อน    


    “บิ๊กตู่” ลั่นรักและภูมิใจที่ได้เป็นทหาร  ชี้อย่าให้ใครมาปลุกปั่นให้เกลียด เดือด! พวกแช่งหลังต้องเปลี่ยนเครื่องมากระบี่ บอกรักทุกคนแม้ติดคุกยกเว้นพวกหนี แนะอย่าเลือกคนโกงและพวกสร้างความแตกแยก “บิ๊กแดง” โชว์ฟิตบอก “สตรองอาร์มี่” วินธัยย้ำ คสช.ไม่ได้เร่งคดีธนาธร แย้มผู้ถูกกล่าวหาอาจมีส่วนเร่งเอง “ไพร่หมื่นล้าน” เปิดความในใจบอกหวังปฏิวัติ 2475 เสร็จสมบูรณ์! “เจษฎ์” ชี้กรณีแต่งประวัติถึงขั้นยุบพรรคหากมีคนร้อง
    เมื่อวันพฤหัสบดี ที่กองบัญชาการกองทัพบก ในเวลา 07.00 น. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้นำนายทหารระดับ 5 เสือกองทัพบก รวมถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองบัญชาการกองทัพบก ผู้บังคับหน่วยของกองทัพภาคที่ 1 และกำลังพลในสำนักงานผู้บังคับบัญชา ทดสอบร่างกายประจำปี 2562 ครั้งที่ 1 ตามนโยบาย “Smart Soldiers Strong Army”  
    ทั้งนี้ ในการทดสอบได้มีเปิดเพลงหนักแผ่นดิน (อะคูสติกเวอร์ชั่น) มาร์ชกองทัพบก และความฝันอันสูงสุด เป็นต้น คลอไปด้วย ซึ่งระหว่างทดสอบ พล.อ.อภิรัชต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 (ผบ.ฉก.ทม.รอ. 904 ) ระบุว่า “ทหาร ทม.แข็งแรงทุกคน ยึดพื้น เข่าต้องไม่แตะพื้น”
    หลังจากการทดสอบ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเหนื่อยมั้ย พล.อ.อภิรัชต์ตอบว่า “เหนื่อยอะไร ดูสิ ทหารรักกันจะตาย” พร้อมชี้ไปที่กำลังพลและผู้บังคับบัญชาระดับสูงก่อนกล่าวว่า “ให้กำลังใจ ทหารรักกันขนาดนี้ และพอใจสถิติวันนี้ในภาพรวม ผู้บังคับบัญชาทุกระดับมีกำลังกายที่แข็งแรง ทำให้สถิติดีขึ้นทุกคน สตรองอาร์มี่” 
    เมื่อถามต่อว่า ช่วงนี้กองทัพถูกโจมตีเยอะ จะชี้แจงอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า “ก็นี่ไง สตรอง”
    ด้าน พล.ต.กฤษณ์ จันทรนิยม โฆษกกองบัญชาการกองทัพบก ได้ชี้แจงถึงบทบาทและหน้าที่ของกองบัญชาการกองทัพไทย โดยไล่เรียงประวัติการจัดตั้งกองทัพ รวมทั้งยกเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาพร้อมระบุว่า กองทัพไทยถือกำเนิดคู่กับความเป็นชาติไทย เหล่าทหารหาญได้พลีเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติ ซึ่งสิ่งที่ควรถามไม่ใช่ทำไมต้องมีกองบัญชาการกองทัพไทย แต่ควรถามว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยกันพัฒนาและเสริมสร้างให้กองบัญชาการกองทัพไทยสามารถขับเคลื่อนงานด้านการปฏิบัติการร่วมของกองทัพไทยอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งห้วงสถานการณ์ก่อนการเลือกตั้ง อาจเชื่อมโยงนำกองทัพไปเป็นประเด็นในการหาเสียง จึงขอให้ทุกฝ่ายพิจารณาทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยไม่สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคม การนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองขอให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ยึดผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ
    “บิ๊กตู่”ยกกรณีขึ้นนั่ง“ซี130”
    วันเดียวกัน ที่ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวมอบนโยบายแก่ข้าราชการและหน่วยงานในท้องถิ่นว่า ตั้งใจจะมาแต่เช้า จริงๆ ขึ้นเครื่องบินทหาร (ซี 130) มา แต่เครื่องมีปัญหา นี่คือเครื่องบินที่ใช้มา 30-40 ปีแล้ว นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเราต้องหมุนเวียน เปลี่ยน จัดหา และซ่อมแซมเพิ่มเติม ซึ่งก็ซ่อมไม่รู้กี่ครั้งแล้ว และถ้ามันเสียบนอากาศมันก็แก้ไขไม่ได้ และวันหน้าเครื่องบินเหล่านี้เอาไว้ใช้รับพวกเรานั่นแหละ แล้วใครจะกล้าเสี่ยงขึ้น เมื่อมันไม่ปลอดภัย
    “วันนี้รัฐบาลพยายามเร่งรัดซ่อมแซมจัดหามาทดแทน แต่อย่างว่า มันต้องใช้เวลาและงบประมาณ การจัดซื้อจัดหามันจำเป็นต้องซื้อ เพราะบินไปแล้วเหลือ 3 ใบพัดมันไหวที่ไหน วันนี้โลกเขามีเทคโนโลยีขั้นสูงแล้ว เราไม่ได้มีเอาไว้ยิงหรือรบกับใคร แต่มันทำให้ไม่ต้องรบกัน นั่นคือศักยภาพของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพลทหาร นายทหาร มันก็ลูกหลานของท่านทั้งนั้น มันไม่เหมาะที่จะมาโจมตีกันในตอนนี้ มันไม่ใช่เวลา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ไม่ใช่ทหารแล้ว แต่เป็นอดีตทหาร และยังมีความรัก ความมั่นใจในความเป็นทหาร ไม่อยากให้ใครมาทำลายความเชื่อมั่น ความไม่ไว้วางใจของตัวทหารทุกคน อย่าลืมถ้าทำให้เขาเสียขวัญ ไม่มีกำลังใจ แล้ววันหน้าใครจะมารบให้กับเรา อย่าให้ใครมาบิดเบือนตรงนี้ได้ ที่สำคัญในสมัยโบราณคนไทยก็เกณฑ์เป็นทหาร โดยไม่มีค่าจ้าง เวลาใครมาบุกประเทศ พระมหากษัตริย์นำทัพไปสู้รบใช่หรือไม่ ไม่ได้เงินได้ทอง ไปครั้งหนึ่ง 3-4 เดือน ออกจากบ้านคือไปแล้วไปลับเลย วันนั้นเขายังเสียสละได้ แต่วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น
    ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามขึ้นว่า ใครเกลียดทหารขอให้ยกมือ ปรากฏว่าไม่มีใครยกมือ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ถามอีกว่า ใครรักทหารขอให้ยกมือ ซึ่งประชาชนยกมือกันเต็มห้อง รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ก็ยกมือด้วย จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า "ภูมิใจในความเป็นทหาร เพราะไม่ได้ทุจริตคดโกงใครเขามา และก็เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย คนที่เป็นทหารผ่านการรบมาทั้งนั้น ชายแดนสู้ภัยคอมมิวนิสต์ ผ่านศึกสงครามมาทั้งนั้น ใครไม่เป็นก็ไม่รู้ ไอ้คนที่พูดวันนี้ไม่เคยเป็นทหารสักคนเลย ลูกหลานของเราทั้งนั้น เอาล่ะพอแล้วเรื่องทหาร"
    นายกฯ กล่าวอีกว่า "มาช้าไปเปลี่ยนเครื่องมา ยังไงก็ต้องมา หลายคนบอกนายกฯ ลางไม่ดี กลับบ้านดีกว่า ไม่ต้องมาอีกแล้ว บางคนก็แช่งให้ตกๆ ไปเลย อะไรวะนั่น แค่จะมาเยี่ยมประชาชนยังแช่งผมเลย มันเกลียดชังอะไรผมขนาดนี้ ผมก็รักทุกคน ใครจะด่าจะว่าก็เป็นคนไทย ยิ่งผมเป็นนายกฯ เป็นหัวหน้า คสช.ก็ต้องรักคนไทยทั้งหมด ตราบใดที่ไม่ติดคุก ติดคุกยังต้องรักเลย ส่วนที่หนีคุกไม่รัก เข้าใจยัง ผิดก็จะหนี ไม่ใช่บอกว่าถูกแล้วจะหนี ถ้าถูกแล้วไม่ต้องหนี ไม่ได้ว่าใครเลย ขอสักที สงบมาให้หลายวันแล้ว"
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งต้องสงบเรียบร้อย เพราะจะมีงานพระราชพิธีใช่หรือไม่ ใครสัญญาว่าจะให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยขอให้ยกมือ แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครทำอะไรได้ การเลือกตั้งต้องได้นายกฯ ที่มีคุณธรรม ไม่โกง ครั้งนี้ใครที่ทำให้คนไทยแตกแยก และทำให้ความรักความสามัคคีแตกสลาย เพื่อให้ตัวเองเข้ามามีอำนาจถือว่าใช้ไม่ได้ ทำให้คนอื่นอ่อนแอ แล้วตัวเองเข้ามาใช้ไม่ได้ ขณะเดียวกันสิ่งที่ทำทุกวันนี้แม้ใครไม่ชอบ ตนเองก็ไปเกลียดไม่ได้ ยิ่งว่ายิ่งต้องทำ    
ซัดธนาธรอาจทำให้คดีเร็วเอง
    ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แจงกรณีพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) กล่าวหานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และพวกกรณีกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (2) กรณีไลฟ์สดวิจารณ์พลังดูด เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2561 เป็นการเร่งรัดและเลือกปฏิบัติ ว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจ ยืนยัน คสช.ไม่ได้เร่งรัด และไม่เลือกปฏิบัติ ทุกอย่างเป็นไปตามหลักการขั้นตอนปกติทั่วไป แต่อาจมีบางบุคคลพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง และโดยทั่วไปในทุกๆ คดีที่ศาลยังไม่ตัดสิน ย่อมถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ และเปิดกว้างให้ตัวผู้ถูกกล่าวหาทุกคนสามารถไปแก้ต่างได้ตามช่องทางและกระบวนการ    
    “คดีนี้ได้เริ่มต้นดำเนินการมาก่อนประกาศวันเลือกตั้ง แต่ความคืบหน้านั้นอาจเป็นที่ความร่วมมือของผู้ถูกกล่าวหาเองด้วย” พ.อ.วินธัยระบุ
    มีรายงานถึงขั้นตอนคดีกรณีดังกล่าวในวันที่ 27 ก.พ.2562 นั้น ตามหลักเเล้วนายธนาธรกับพวก ซึ่งได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวนอยู่แล้ว โดยไม่ได้มีการยื่นคำร้องฝากขัง เมื่อพนักงานสอบสวนนำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายธนาธรยื่นอัยการแล้วไม่จำเป็นต้องยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลอาญาอีก เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวนอยู่แล้ว และเลยขั้นตอนการฝากขังมาแล้ว 
    ส่วนนายธนาธรกล่าวถึงคดีนี้ว่า ไม่กังวล ทุกคนในพรรคทดแทนกันได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความเป็นพรรคอนาคตใหม่จะดำรงอยู่ต่อไป ส่วนกระแสตอบรับจากคนรุ่นใหม่เป็นอย่างดีนั้น ขอขอบคุณทุกคนมาก แต่ยืนยันว่าอนาคตใหม่สนใจกลุ่มคนทุกช่วงวัย แต่ที่สนใจคนรุ่นใหม่มาก ก็เพราะพร้อมเปิดกว้างรับแนวความคิดที่ก้าวหน้าได้ 
    เมื่อถามถึงการชี้แจงจากกองทัพว่างบประมาณได้รับมาจากฝ่ายการเมืองไม่เกี่ยวกับทหาร นายธนาธรกล่าวว่า นี่เป็นภาระของรัฐบาลพลเรือนในอนาคต กระแสการปฏิรูปกองทัพที่ทุกพรรคการเมืองพูดถึงในตอนนี้ แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ก่อนหน้า 2-3 เดือนทุกคนต่างบอกว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน ทำไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้กลายเป็นวาระหลักของสังคม เมื่อเราร่วมกันผลักดันรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างก็เป็นไปได้ นี่คือสิ่งที่อนาคตใหม่ต้องการ
    นายธนาธรยังกล่าวถึงกระแสคนออกมาปกป้องในโลกโซเชียลว่า ซาบซึ้ง และขอบคุณกับสิ่งที่ทุกคนมอบให้กับเรามา คิดว่ากระแสฟ้ารักพ่อที่เกิดขึ้นเราไม่ได้ทำ นี่คือดอกไม้บานตามธรรมชาติ คิดว่านี่คือความก้าวหน้าของสังคมไทยอีกขั้น
    และเมื่อเวลา 12.30 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต นายธนาธรพร้อมแกนนำพรรคลงพื้นที่พบปะนักศึกษาและประชาชนละแวกชุมชนสวนอ้อย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ได้รับการตอบรับอย่างดี มีการตะโกนฟ้ารักพ่อ นำน้ำมาให้ดื่ม ทิชชู่มาเช็ดเหงื่อ พร้อมพูดคุยทักทายจำนวนมาก จนต้องจัดแถวต่อคิวเซลฟีกับนายธนาธรนานนับชั่วโมง โดยมีรายหนึ่งขอให้ชู 2 นิ้ว แต่นายธนาธรทำท่าชู 3 นิ้ว อันหมายถึงสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ ซึ่งนักศึกษาทุกคนก็พร้อมใจกันทำตาม นอกจากนี้ ระหว่างการเดินพบปะประชาชนนักศึกษาพ่อค้าแม่ค้าวินมอเตอร์ไซค์นายธนาธรยังได้แนะนำให้ร่วมกันศึกษานโยบายของอนาคตใหม่ก่อนตัดสินใจไปเลือกตั้งด้วย
หวังปฏิวัติ 2475 สมบูรณ์ 
    จากนั้นนายธนาธรได้ชวนนักศึกษาล้อมวง ก่อนกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงขนาดเล็ก รณรงค์ปลุกใจให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ใจความว่า อีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้งแล้ว น้องนิสิตนักศึกษาทุกคนถือเป็นคนรุ่นใหม่ เกิดมาโดยไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง แต่โตขึ้นมาก็ต้องมาพบกับความขัดแย้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง แล้วเราเรียนจบออกมาจะทำงานอะไร คนที่รับความซวยคือพวกเราที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง คนที่ต้องกำหนดอนาคต 20 ปี พวกเราต้องเป็นคนกำหนดเอง อย่ายอมให้ที่คนยึดอำนาจเข้ามากำหนดอนาคตให้เรา
     "ต้องใช้การเลือกตั้งให้เป็นประโยชน์ เพื่อส่งเสียงคนรุ่นใหม่ให้ดังว่า เราพร้อมแล้ว คนอายุระหว่าง 18-25 ปี มี 8 ล้านเสียง คิดเป็น 1 ใน 8 ของจำนวน ส.ส.ในสภา หรือ 62 ส.ส. ถือว่ามีความหมายมาก อย่าไปเชื่อว่าไม่มีความหมาย เสียงของเราเปลี่ยนประเทศไทยได้ อนาคตใหม่มุ่งมั่นที่เอาสิทธิ เสรีภาพ และความเป็นธรรมกลับคืนมาให้สังคมไทย ใครฝันเหมือนกันให้มาร่วมลองทำกันให้ได้สักครั้ง สร้างสังคมที่เท่าเทียมกันให้เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย มาร่วมกันทำภารกิจเมื่อ พ.ศ.2475 เพื่อให้ประชาธิปไตยยั่งยืนกัน ซึ่ง 86 ปียังทำไม่สำเร็จ ให้สำเร็จกันสักครั้ง" นายธนาธรกล่าว
    ทั้งนี้ เหตุการณ์ พ.ศ.2475 หรือเรียกว่าเป็นการปฏิวัติสยาม เกิดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2475 ซึ่งทำให้ราชอาณาจักรสยามเปลี่ยนรูปแบบประเทศจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ และเปลี่ยนรูปแบบการปกครองไปเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาโดยคณะราษฎร และทำให้ประเทศสยามมีรัฐธรรมนูญฉบับแรกเกิดขึ้น
    ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงคดีของนายธนาธรว่า ขณะนี้ดำเนินคดีอาญาอยู่ ถ้าศาลตัดสินค่อยมาว่ากันอีกที เพราะเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของผู้สมัคร ส่วนหากถูกฝากขังหรือจำคุกโดยหมายของศาลนั้น ก็ต้องไปดูตัวบทกฎหมายอีกครั้ง
    ขณะที่นายเจษฎ์ โทณวณิก อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีโลกออนไลน์เปิดโปงประวัตินายธนาธรในเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ที่บิดเบือนว่า การปล่อยข้อมูลที่ผิดพลาดไว้ในเว็บไซต์พรรคนานถึง 5 เดือน ในแง่กฎหมายอาจไม่ได้มองว่าตั้งใจหลอกลวง แต่ความเป็นพรรคการเมืองที่ชูเรื่องของเทคโนโลยีและหาเสียงในโลกออนไลน์เป็นหลัก เมื่อพบว่าข้อมูลไม่ถูกต้องจากความเป็นจริง ก็ควรรีบแก้ไข ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้นานถึง 5 เดือน การอ้างว่าเป็นความผิดพลาดของทีมงาน แต่ทิ้งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไว้นานขนาดนี้ เป็นคำแก้ตัวที่อ้างยาก 
    “ตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 (5)  กำหนดห้ามไม่ให้ผู้สมัครจูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งด้วยการหลอกลวง ซึ่งความผิดนี้มีโทษถึงขั้นยุบพรรค จึงต้องติดตามดูว่าจะมีผู้ใดไปยื่นคำร้องเรื่องนี้ต่อ กกต. หรือไม่ เรื่องนี้จึงอาจถือว่าเป็นมรสุมการเมืองลูกใหม่ของพรรคอนาคตใหม่” นายเจษฎ์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"