22ก.พ.62-ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​   นายนพดล อมรเวช  หัวหน้าพรรครวมใจไทย  ได้ดินทางมายื่นหนังสือถึงประธาน กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบการประทำผิดของพรรคการเมือง และพิจารณามีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคการเมือง 12 พรรค ประกอบด้วย  พรรคประชาชนปฎิรูป พรรครวมพลังประชาชาติ(รปช.)​ พรรคพลังท้องถิ่นไทย  พรรคเพื่อแผ่นดิน  พรรคเศรษฐกิจใหม่  พรรคไทยศรีวิไลย์  พรรคครูไทยเพื่อประชาชน  พรรคประชาธรรมไทย  พรรคพลังปวงชนไทย  พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย  พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล  และพรรคภารดรภาพ   เนื่องจากพรรคการเมืองต้นสังกัดของผู้สมัครได้เข้าแก้ไขระยะเวลาการเข้าเป็นสมาชิกพรรค ของผู้สมัครในระบบฐานข้อมูล  เพื่อให้คุณสมบัติในการลงสมัครครบถ้วน    

นายนพดล กล่าวว่า อย่างกรณีพรรคหนึ่งตามที่มีการเปิดเผยทางสื่อ ว่าเป็นสมาชิกพรรคอยู่วันที่ 22 ม.ค. 2562   ซึ่งถือว่าถ้าเป็นสมาชิกตามระยะเวลาดังกล่าว ก็ไม่มีคุณสมบัติในการลงสมัคร  เป็นสมาชิกไม่ครบ 90 วัน  แต่ก็มีการไปแก้ไขย้อนหลังให้ไปเป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. 2561   ซึ่งตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มา ซึ่งอำนาจในการปกครอง ที่ไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่รัฐธรรมนูญกำหนด ขัด พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92

“การดำเนินการครั้งนี้ ผมไม่ได้จงเกลียดจงชังพรรคไหน เพราะหัวหน้าพรรคการเมืองทั้ง 12 ผมไม่รู้จัก อย่างพรรคเศรษฐกิจใหม่ หรือพรรครปช. ซึ่งมีการแก้ไขระยะเวลาการเป็นสมาชิกของผู้สมัครทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต ผมก็ไม่รู้จัก แต่อยากสร้างมาตรฐานทางการเมือง ไม่อยากให้เกิดการโกงตั้งแต่รับสมัคร  และถือเป็นบทบาทหนึ่งของการพรรคการเมืองที่เราจะต้องตรวจสอบครอบครัวการเมืองกันเองก่อนที่จะเสนอตัวให้ประชาชนเลือก” นายนพดล กล่าว

นายนพดล กล่าวด้วยว่า    หลังจากมีข่าวว่าตนจะมายื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบ 12 พรรค  ก็มีพรรคการเมืองจำนวน  4-5 พรรค ที่อยู่ในจำนวน 12 พรรค  ได้ติดต่อว่าขอให้ไม่ยื่นร้องให้ยุบพรรค  เพราะเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ และบางพรรคได้ชี้แจงกับ กกต.ไปแล้ว   พร้อมขู่หากมีการยื่นร้องให้ยุบพรรคก็จะมีการดำเนินคดี  เพราะอาจเข้าข่ายเป็นการใส่ร้ายป้ายสี   แต่ตนเห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานจากสำนักงาน กกต.ที่มีการนำเสนอผ่านสื่อ  จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบในเรื่องนี้