หลักฐานพอยุบ'ทษช.' ศาลรธน.ไม่ไต่สวนนัดพิพากษา7มี.ค.


เพิ่มเพื่อน    


    ศาลรัฐธรรมนูญชี้มีหลักฐานเพียงพอวินิจฉัยคดียุบไทยรักษาชาติแล้ว ไม่จำเป็นต้องไต่สวนอีก พยาน 19 ปากที่ ทษช.เสนอมาอดแจง นัดพฤหัสบดี 7 มี.ค. 13.30 น. ลงมติก่อนบ่ายสามอ่านคำวินิจฉัย ทนายต่อสู้คดีเผยแก้ต่างดีที่สุดแล้ว รับมีแค่ยุบหรือยก อึ้ง! “ปรีชาพล-จาตุรนต์” ไม่โผล่ไปพรรค
    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 ก.พ. เวลา 13.30 น.ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาคดีที่ 1/2562 เรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 (3 )  ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา  92  โดยได้แจ้งผู้ถูกร้องทราบ และให้ผู้ถูกร้องทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งพรรค ทษช.ได้ส่งคำชี้แจงแล้วเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 
    ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าวที่ 3/2562 มีเนื้อหาว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องกรณี กกต. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรค ทษช.  ซึ่งผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องที่ยื่นต่อศาลแล้ว เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหลายราย ศาลจะได้พิจารณาสั่งในวันนัดพิจารณาต่อไป
    ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงไม่ทำการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง และกำหนดประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัย ศาลธรรมนูญกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในวันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม เวลา 13.30 น. และนัดอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันเดียวกัน เวลา 15.00 น. แจ้งวันเวลานัดอ่านคำวินิจฉัยดังกล่าวให้คู่กรณีทราบ
    ทั้งนี้ ในระหว่างการพิจารณาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้ง 11 จังหวัดนครราชสีมา พรรค ทษช. ได้มายื่นร้องสอดคำร้องยุบพรรค ทษช. ตามมาตรา 92 ต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดยนายวัฒนะชัยระบุว่า เดินทางมายื่นร้องสอดตามสิทธิในฐานะที่เป็นผู้สมัคร และมั่นใจว่าจะเป็นผู้มีโอกาสที่ได้รับการคัดเลือกจากประชาชน ดังนั้นจึงขอให้ศาลให้ความเป็นธรรม ส่วนรายละเอียดในคำร้องนั้นไม่ขอเปิดเผย และการเดินทางมาครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับพรรค แต่ยอมรับว่าหลังเหตุการณ์วันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมาทำให้ประชาชนรู้จักพรรค ทษช.มากขึ้น และได้รับการต้อนรับจากประชาชนมากขึ้น 
    “ส่วนความคาดหวังว่าศาลจะวินิจฉัยหลังการเลือกตั้งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล แต่วันนี้ได้เฝ้ารอมาตั้งแต่ช่วงเช้า เพราะเข้าใจผิดคิดว่าศาลจะตัดสิน แต่พอทราบว่าศาลไม่ตัดสิน จึงตัดสินใจยื่นร้องสอด”
    ขณะเดียวกัน นายรุ่งเรือง พิทยศิริ อดีตกรรมการบริหารพรรค ทษช. ก็เดินทางมายื่นเอกสารและแผ่นซีดีให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน โดยเป็นหลักฐานว่าไม่ได้ร่วมประชุมและไม่มีส่วนรู้เห็นการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรค ทษช. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็ได้รับเรื่องทั้ง 2 กรณีไว้ในสำนวน
ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่พรรค ทษช. เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญได้เข้ายื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรค ทษช. โดยมี น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรค ทษช. เป็นผู้รับเรื่อง โดยหนังสือดังกล่าวที่เจ้าหน้าที่ยื่นระบุว่า ตามที่ กกต.ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยกรณียุบพรรค ทษช.นั้น ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 7 มี.ค.นี้ เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ที่ห้องพิจาณาคดีชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ จึงแจ้งมาเพื่อทราบ และเข้าฟังการอ่านวินิจฉัยตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว ทั้งนี้ ถ้าคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่ายแล้วแต่กรณีทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา  ศาลรัฐธรรมนูญจะบันทึกไว้แล้วให้ถือว่าคำวินิจฉัยนั้นได้อ่านโดยชอบตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 76 วรรค 2
    สำหรับบรรยากาศที่พรรค ทษช.นั้น ในช่วงบ่ายแกนนำพรรคบางส่วนทยอยเดินทางเข้ามาติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่า ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค และนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ไม่ได้เดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรคแต่อย่างใด
    ขณะที่นายสุรชัย ชินชัย ทนายความต่อสู้คดียุบพรรค ทษช. กล่าวหลังเจ้าหน้าที่ศาลยื่นเอกสาร นัดกำหนดวันวินิจฉัยคดีของพรรค ว่าศาลรัฐธรรมนูญใช้มาตรา 58 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 ว่าข้อเท็จจริงเพียงพอต่อการวินิจฉัยคดีได้ถือว่าสิ้นสุดแล้ว เพราะพยานเอกสารชัดเจนแล้ว เมื่อท่านใช้ดุลพินิจตามมาตรา 58 ฟังข้อเท็จจริง และกฎหมายเพียงพอแล้วก็วินิจฉัยได้เลย คดีนี้ก็ถือว่าไม่มีการนำพยานบุคคลใดๆ เข้าไต่สวนอีกแล้ว ส่วนจะยื่นเอกสารหลักฐานใดๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น โดยวิธีพิจารณาเมื่อศาลท่านนัดวินิจฉัยแล้ว แม้เราจะยื่นเอกสารหรือพยานใดๆ เพิ่มเติมไป ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ แม้ตามกฎหมายจะให้ยื่นได้อย่างน้อย 3 วัน ก่อนวันวินิจฉัย แต่เราเชื่อว่าเราไม่มีพยานหลักฐานอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องได้
    “ในวันที่ 7 มี.ค. คาดว่าจะมีคำตัดสิน 2 แนวทาง คือ ยกคำร้อง หรือยุบพรรคก็เป็นได้ และเมื่อคำวินิจฉัยสิ้นสุดแล้วก็ถือเป็นที่สิ้นสุด ไม่สามารถยื่นคำร้องหรืออุทธรณ์ใดๆ ได้อีก เราเคารพศาล” นายสุรชัยกล่าว
    เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ที่ศาลนัดฟังคำวินิจฉัยโดยที่ไม่ไต่สวนพยาน นายสุรชัยตอบว่า พรรคไม่มีเจตนากระทำเป็นทางลบต่อประเพณีการปกครอง และได้ชี้แจงข้อกล่าวหากรณีที่พรรคอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองไปแล้ว และข้อกฎหมายที่ได้โต้แย้งคือประเด็นที่ กกต.มีมติข้ามขั้นตอนกฎหมาย คิดว่าการชี้แจงของเราครบถ้วน ส่วนจะหักล้างข้อกล่าวหาได้หรือไม่นั้น เมื่อได้ชี้แจงไปหมดแล้ว ศาลจะวินิจฉัยอย่างไรพรรคก็ยอมรับ
ทั้งนี้ ข้อต่อสู้ของ ทษช.ที่ยื่นต่อศาลเมื่อวันที่ 20 ก.พ.นั้น เป็นเอกสารกว่า 20 หน้า โดยมี 3 ประเด็นหลัก และ 8 ประเด็นย่อย รวมทั้งได้ยื่นบัญชีพยานบุคคล ซึ่งเป็น กก.บห.พรรค 14 คนและพยานคนกลาง ซึ่งเป็นคนนอก 5 ปาก
    น.ส.สุณีย์กล่าวเช่นกันว่า ไม่ว่าผลการวินิจฉัยของศาลในวันที่ 7 มี.ค.จะออกมาอย่างไร พร้อมยอมรับ ส่วนการกำหนดการเดินสายหาเสียงของพรรคที่กำหนดไว้แล้วนั้น คงต้องปรึกษากับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ คณะทำงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งก่อนว่าจะยังมีต่อหรือไม่ หรือจะเอาอย่างไรค่อยมาว่ากัน 
    วันเดียวกัน ที่สำนักงาน กกต. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) เข้ายื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อทวงถามความคืบหน้าที่ขอให้ กกต.ตรวจสอบยุบพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กรณีเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ได้มายื่นเรื่องตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. ซึ่งขณะนี้ใช้เวลา 9 วันแล้ว แต่ กกต.ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหว ซึ่งกรณีของพรรค พปชร.ข้อมูลชัดเจน และง่ายในการแสวงหาข้อมูลมากกว่ากรณีของพรรค ทษช. แต่กลับใช้เวลามากกว่า
    “ผมเห็นว่า กกต.ควรมีมาตรฐานเดียวกันกับพรรค ทษช. ในการตรวจสอบพรรค พปชร. ซึ่งควรใช้เวลาไม่เกิน 5 วันเหมือนกัน แต่ขณะนี้ผ่านมา 9 วันแล้ว แต่ผมจะให้เวลา กกต.อีก 1 อาทิตย์ หากยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็จะดำเนินการทางกฎหมายกับ กกต.” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"