สืบต่อ 'เผด็จการ-ประชาธิปไตย'


เพิ่มเพื่อน    

      ฟังดีเบตหน้าจอมาหลายวัน พอจะสรุป "หัวข้อ" ที่หลายพรรคยกขึ้นมาเป็น "เงื่อนไข" ได้ประมาณนี้

                -ประชาธิปไตย

                -เผด็จการ

                -สืบต่ออำนาจเผด็จการ

                -จะทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นการสืบต่ออำนาจ

                หัวข้อเหล่านี้..........

                หลายพรรคใช้เป็น "โครงสร้างวาทกรรม" ประหัต-ประหาร ชิงคะแนนเสียงกัน ระหว่าง

                "พรรครัฐบาล" ที่ถูกกำหนดให้เป็น "ฝ่ายเผด็จการ" คือพรรคพลังประชารัฐ และแนวร่วม

                เช่น พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาชนปฏิรูป เป็นต้น

                กับ.......

                พรรคคู่แข่ง ที่กำหนดตัวเองเป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" คือพรรคตระกูลเพื่อ มี "เพื่อไทย" เป็นแกน

                จะ "คิดใหม่-ทำใหม่" หรือ "รื้อเก่า-ปฏิรูปใหม่" ตั้งแต่หลัง ๑๔ ตุลา ๑๖ เรื่อยมา จนถึงวันนี้ ก็ร่วม ๕๐ ปี

                แต่หาเสียงเลือกตั้ง "ลากไม่เคยสุดหาง" วนอยู่กับเปลือกคำ "ประชาธิปไตย-เผด็จการ" แค่นี้

                ผมก็มานั่งนึกๆ......

                ลองกะเทาะเปลือก "หาแก่น" ดูสักที ว่าสรรพคุณจริงๆ ของมันคืออะไร ตรงไหน?

                สรุปตาม "หลักการ" วาทกรรมเลือกตั้ง เอาเป็นว่า

                "ประชาธิปไตย" ดี

                "เผด็จการ" เลว

                ก็กะเทาะประชาธิปไตยที่ว่าดี มาดู "เนื้อใน" ทางปฏิบัติกัน

                ยุค "รัฐบาลระบอบทักษิณ"

                เปลือกนอกเป็น "ประชาธิปไตยเลือกตั้ง"

                แต่เนื้อใน ชัดเจนเป็น "เผด็จการรัฐสภากินเมือง"

                เปลือกประชาธิปไตยเป็นยังไง...ไส้ในเผด็จการกินเมืองเป็นยังไง?

                พูดลอยๆ จะเป็นการใส่ไฟ-ป้ายสี ก็จะถามกันว่า

                "ไหนล่ะ..ใบเสร็จ"?

                ก็นี่ไง เอาไปเลย........

                "นายเสนาะ เทียนทอง" คนปั้นทักษิณกะมือ เขียนในหนังสือ "รู้ทันทักษิณ ๔" เมื่อปี ๔๘ จะยกมาให้อ่าน

                "..........พ.ต.ท.ทักษิณ เคยบอกรัฐมนตรีในรัฐบาลว่า 'ไม่ต้องคิดอะไรมาก ขอให้ทำตามก็พอ'

                หากรัฐมนตรี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนที่คิดมาก รอบคอบ คอยตักเตือน จะอยู่ไม่ได้เลย

                คนที่อยู่ได้ จะต้องตอบ 'เยส' อย่างเดียว

                ด้วยเหตุนี้ รัฐมนตรีบางคน ในช่วงเทศกาลเลือกตั้ง มักมีบัตรเลือกตั้ง ที่ 'พิมพ์เกิน' อยู่เต็มรถ

                จึงได้รับการฟูมฟักอย่างดี เหนียวแน่น ถูกเรียกใช้งานบ่อยๆ ในช่วงหลัง

                ยิ่งกว่านั้น ยังมีการใช้ 'ระบบธุรกิจครอบครัว' มาจัดการผลประโยชน์ในรัฐบาลแบบเบ็ดเสร็จ

                ตั้งแต่ 'ขนคน' ที่เคยทำงานกับตัวเองในบริษัทแบบยกชุด 'วางคนของตัวเอง' ไปในทุกกระทรวง โดยไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งที่มีอำนาจอย่างเป็นทางการ

                แต่ทุกคนในกระทรวงจะรู้ดีว่า คนคนนี้ คือ 'คนของเขา' จะทำอะไรก็ต้อง 'ผ่านคนคนนี้' เรียกว่ามี ๒-๓ คน ไปดูแลผลประโยชน์ 'ทุกกระทรวง' เป็นเสมือนหลงจู๊

                แล้วยังส่งคนไป 'ยึดตำแหน่ง' ใน กมธ.ชุดต่างๆ ของสภาผู้แทนราษฎร

                ใน ครม.ก็ไม่ต่างกัน.........

                'ทุกโครงการ' ที่จะมีการอนุมัติ ถ้ารัฐมนตรีคนไหน เสนอเรื่องขอใช้ 'งบกลาง' ที่จัดสรรไว้มหาศาล ก็ต้องไป 'เคลียร์กับคนของเขา' ให้เรียบร้อยก่อน

                รัฐมนตรีหลายคน จะมี 'คนของเขา' เข้ามาบอกว่า......

                'เดี๋ยวทำงบฯ จะเอากี่พันล้าน แต่ต้องเอาเข้าพรรค ๑๐%'

                หมายความว่า จะไป 'ทำอะไรขึ้นมาก็ได้' ไปเขียนโครงการมา ถ้ารัฐมนตรีคนไหนทำไม่ได้ ก็ 'อยู่ไม่ได้'

                เวลาทำโครงการ ก็ต้อง 'จ้างที่ปรึกษา' ที่เป็น 'คนของตัวเอง' แล้วใช้วิธีที่เก่งที่สุด

                คือ 'ยกเว้นระเบียบพิเศษ' ยิ่งใช้วิธีขีดเส้นตายว่า ต้องเสร็จวันนั้น-วันนี้ เหมือนกรณี 'สนามบินสุวรรณภูมิ'

                เพื่อจะได้ใช้วิธี 'จัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษ' นโยบาย ๑๐%

                รัฐมนตรีต้องทำโครงการ.......

                 โดย 'ตบแต่งงบประมาณ' ขึ้นมาก่อนว่า มูลค่าของโครงการ จะ 'ครอบคลุม ๑๐%' ที่ต้องหักเข้าพรรค

                จากนั้น ไปตกลงกับคนของเขา

                'ผ่านคุณหญิง'

                เรียบร้อยเมื่อใด ก็ส่งมาให้ 'ตัวตาย-ตัวแทน' ทางการเมืองที่เขาไว้ใจ

                พอเข้า ครม. .........

                นายกฯ จะเสนอโครงการและอนุมัติให้เองเสร็จสรรพ

                รัฐมนตรี 'ไม่ต้องคิด-ไม่ต้องสงสัย'

                'ทุกวันนี้ ยังไม่มีใครรู้-ใครเข้าใจ ว่า ๑๐% มีอยู่เท่าไร คงต้องไปถามคุณหญิง' "

                นี่แหละ ใบเสร็จจากต้นขั้ว..........

                ที่พรรคตระกูลเพื่อ "ฝ่ายประชาธิปไตย" ยกขึ้นชู และย้ำว่า แบบเขา คือ แบบนี้แหละ

                ประชาธิปไตยที่ "เลอค่า-อมตะ" กว่าเผด็จการ!

                เลือกพวกเขากลับเข้าไปเป็นรัฐบาลบริหารประเทศสิ

                ด้วยประชาธิปไตย ๑๐% "ผ่านคุณหญิง".........

                จะทำให้ เป๋าตุง เศรษฐกิจดี!

                พินิจตามนี้ ยึดกรอบหลักการ "ประชาธิปไตยดี-เผด็จการเลว" เป็นตัวตั้ง ก็จะได้คำตอบออกมาว่า

                ในความที่ว่า "เผด็จการเลว"

                ประชาธิปไตยของตระกูลเพื่อ ไม่ต้องมาก เอาแค่ที่นายเสนาะ "คนเพื่อไทย" ด้วยกันแฉ

                "เผด็จการ" ที่ว่าเลว

                "บวกเลว" ไปอีก ๑,๐๐๐% นั่นแหละประชาธิปไตยระบอบทักษิณ

                ๕ ปี "รัฐบาลเผด็จการ"........

                ทั้งเศรษฐกิจ-อุตสาหกรรม-โทรคมนาคม-คมนาคมขนส่งฐานราก และทั้งการจัดระบบ ปฏิวัติสังคมสู่ศตวรรษใหม่

                เป็น ๕ ปี ในปัญหาและอุปสรรคที่หมักหมม ต้อง ขุด-ล้าง-บากบั่น แล้วตั้งทิศ วางฐานรากใหม่

                ถึงตอนนี้ ปรากฏเป็นรูปธรรมให้ "หวังได้-จับต้องได้" แล้ว

                การสร้างอนาคต-สร้างประเทศ.......

                เหมือนปลูกต้นสัก ต้องให้เวลาปลูกและช่วงเวลาโต

                ไม่เหมือนเพาะถั่วงอก เพาะเย็น เช้าล้นเข่ง!

                ย้อนหลังดู ๑๐ ปี "รัฐบาลประชาธิปไตยบริหาร" ตามนิยาม "พรรคตระกูลเพื่อ"

                "๑๐% ผ่านคุณหญิง" นั่นไง.....

                คือประชาธิปไตยจับต้องได้ ของพรรคตระกูลเพื่อ!?

                ยุคทักษิณ ตั้งกระทรวงไอซีทีขึ้นมา ให้ "นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี" รัฐมนตรี แปลงสัมปทานดาวเทียมเอื้อชินคอร์ป จนติดคุก ๑ ปี

                นั่นไง...ผลงานประชาธิปไตยพรรคตระกูลเพื่อ

                ศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น คุก ๒ ปี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ กรณีแปลงที่ดินธรณีสงฆ์ให้อัลไพน์ แล้วขายต่อทักษิณ

                ก็นั่นไง...ผลงานประชาธิปไตยพรรคตระกูลเพื่อ

                กระทั่ง "ตัวพ่อ" ประชาธิปไตยตระกูลเพื่อเอง

                ทักษิณ ในฐานะนายกฯ........

                ถูกคุก ๒ ปี คดี "ผัวเซ็น-เมียซื้อ" ที่ดินรัชดาฯ ลือลั่นถึงขั้นให้ ๓๑ ธันวา ๔๖ วันสิ้นปี "ไม่หยุดราชการ"

                เพื่อให้เมียโอนที่ดิน โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มตามอัตราประเมินใหม่ ในปี ๔๗

                ยังอีกหลายคดี จนประชาธิปไตยตัวพ่อไม่กล้ากลับมา อ้างถูกกลั่นแกล้ง ตัดสินไม่เป็นธรรม

                สายเลือดนี้.......

                สืบสันดานถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ "ไม่โกง-ไม่กิน-ไม่คุก-ไม่หนี" ก็ไม่ใช่รัฐบาล "ฝ่ายประชาธิปไตย" น่ะซี

                ทุจริตจำนำข้าวจีทูจี........

                คุก "นายบุญทรง" อดีต รมว.พาณิชย์ ๔๒ ปี "นายภูมิ" อดีต รมช. ๓๖ ปี

                ส่วนตัวแม่ประชาธิปไตย "พี่รอหนูแป๊บ เดี๋ยวถึง" คุก ๕ ปี ฐานหลิ่วตา แต่หนีไปโผล่ลอนดอน

                ลักหลับ "กฎหมายเหมาเข่ง" ตอนตี ๔ เสียบบัตรแทนกัน

                กระทั่งย้ายข้าราชการ........

                เอาตำแหน่ง ผบ.ตร.ให้พี่เมียของพี่ชาย จนถูกถอดนายกฯ!

                เหล่านี้ แค่เนื้อหาสังเขป "ประชาธิปไตย ฉบับตระกูลเพื่อ"

                ยังมิต้องเอ่ยถึงการเผาบ้าน-เผาเมือง และปฏิบัติการเปลี่ยนประเทศเป็นแดงทั้งแผ่นดิน

                ตามที่ดีเบต ที่พูดหาเสียงกันตอนนี้ สรุปเจตนาได้ว่า

                ไม่ต้องการให้มีการ "สืบต่ออำนาจ คสช."

                นายจาตุรนต์, นายชัชชาติ, คุณหญิงสุดารัตน์ ไปที่ไหน ก็พูดที่นั่น "จะทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นการสืบต่ออำนาจ"

                พูดชัดๆ ตามนัยนี้

                ถ้าพลังประชารัฐ "เป็นรัฐบาล" มีพลเอกประยุทธ์ "เป็นนายกฯ"

                เขาถือเป็นการ "สืบต่ออำนาจ" เผด็จการ คสช.

                ในทางกลับกัน ก็จะเกิดคำถามขึ้นว่า.......

                ถ้าพรรคตระกูลเพื่อ "เป็นรัฐบาล" ล่ะ ไม่เป็นการ "สืบต่ออำนาจ" ประชาธิปไตย ๑๐% หรือ?

                เมื่อสรุปเป็นตรรกะฐานเดียวกันเช่นนี้แล้ว ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ๒๔ มีนาทั้งหลาย

                ตอบซิ.....

                จะเลือกเผด็จการ "สร้างบ้าน-สร้างเมือง" ดี

                หรือจะเลือกประชาธิปไตย ๑๐% ดี แถมด้วย "เผาเมืองและจ้องล้มสถาบัน"?          

                สงสัย ก็...ถาม "คุณหญิง ๑๐%" สิคะ! 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"