จับตายแก๊งชิงเงิน เหิมสู้เจอสวนคาที่


เพิ่มเพื่อน    


    "บิ๊กแป๊ะ" ปิดคดีชิงเงิน 7.2 ล้าน สั่งลูกน้องตามจับ "กอล์ฟ" คนร้ายที่เหลือหลังได้ข้อมูลวนเวียนในพื้นที่ อีกฝ่ายฮึดสู้เลยถูกวิสามัญ พบเงินแค่ 3 แสน ส่วนอีก 3 ล้านอยู่กับเพื่อนสนิท ยังตามตัวไม่เจอ แม่ผู้ตายไม่เชื่อลูกเป็นคนร้าย โวยตำรวจทำเกินกว่าเหตุ เตรียมเดินหน้าขอความเป็นธรรม
    เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 4 มีนาคมนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร ผบก.น.9, พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. ซึ่งร่วมประชุมคลี่คลายคดี 2 คนร้ายชิงเงิน 7.2 ล้านบาท ที่ สน.หนองค้างพลู สืบทราบว่านายทักษ์ดนัย หรือ กอล์ฟ เหนี่ยวรั้งใจ อายุ 27 ปี 1 ใน 2 คนร้าย หลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนออกติดตามจับกุม และเกิดยิงปะทะกันทำให้นายทักษ์ดนัยถูกยิงเสียชีวิตที่กลางซอยทวีวัฒนา 1 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม.
    วันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา นายทักษ์ดนัยร่วมกับนายจิรายุส สวนมิ อายุ 20 ปี ก่อเหตุชิงเงินบริษัท BRINKS บริเวณทางเข้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ถนนเพชรเกษม ได้เงินสดไปกว่า 7.2 ล้านบาท ต่อมานายจิรายุสถูกจับกุมได้เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ก.พ. ส่วนนายทักษ์ดนัยสามารถหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตยังวนเวียนกบดานอยู่ในย่านพุทธมณฑล สาย 3 และพุทธมณฑล สาย 4
    เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลด้วยว่า ก่อนการยิงปะทะ นายทักษ์ดนัยยังคงนัดเจอกับเพื่อนฝูงที่โต๊ะสนุกเกอร์ปากซอยทวีวัฒนา 1 เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุม ปรากฏว่านายทักษ์ดนัยไหวตัวทัน ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีน้ำเงิน ทะเบียน 7 กต 5952 กรุงเทพมหานคร หลบหนีเข้าไปในซอยทวีวัฒนา 1 จะมุ่งหน้าไปทางพุทธมณฑลสาย 4 แต่มีตำรวจอีกชุดหนึ่งปิดทางหนี ผู้ตายเห็นจวนตัว ทิ้งรถจักรยานยนต์วิ่งหลบหนีเข้าพงหญ้า ขณะที่ตำรวจไล่จับกุมอย่างกระชั้นชิด นายทักษ์ดนัยจึงชักอาวุธปืนพกลูกโม่ ยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี กระสุนเจาะกระจกข้างรถกระบะสีขาวของชุดจับกุม ตำรวจจึงยิงโต้ตอบและจบชีวิตผู้ต้องหาลงได้
    จากการเคลียร์พื้นที่ พบว่านายทักษ์ดนัยถูกยิงเข้าที่กลางอก 2 นัด ตรวจสอบในกระเป๋าสะพายพบเงินสดจำนวน 300,000 บาท ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานพนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน อัยการ และแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ร่วมตรวจสอบ
    พ.ต.อ.นภดล กาญจนพันธุ์ ผกก.สน.หนองค้างพลู กล่าวว่า จะต้องรอให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบพยานหลักฐานและวิถีกระสุนทั้งหมด เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีวิสามัญฆาตกรรม โดยได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่วิสามัญ และแจ้งข้อหานายทักษ์ดนัย พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เพื่อส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา แต่เนื่องจากนายทักษ์ดนัยเสียชีวิต พนักงานอัยการก็จะจำหน่ายคดีของนายทักษ์ดนัยออกจากสารบบ เหลือส่งฟ้องเพียงนายจิรายุส สวนมิ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้เพียงคนเดียว นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เกี่ยวข้องมาตรวจเลขธนบัตร และลายเซ็นบนสายรัดธนบัตร เพื่อยืนยันว่าเป็นเงินที่ถูกจี้ไป ส่วนอาวุธปืนของนายทักษ์ดนัย พบว่าเป็นปืนลูกโม่ขนาด .32 แต่เป็นคนละกระบอกกับที่ใช้ในวันชิงเงิน เพียงแต่ใช้กระสุนขนาดเดียวกัน
    มีรายงานว่า ตำรวจยังได้เข้าตรวจค้นบ้านเช่าของนายทักษ์ดนัย ย่านบางบอน เพื่อค้นหาเงินอีกกว่า 3 ล้านบาท ขณะที่มีข้อมูลว่านายทักษ์ดนัยนำเงินไปฝากเพื่อนสนิท 2 คน โดยให้เพื่อนเปิดห้องเช่า และมีการย้ายห้องเช่าเพื่อเก็บเงินไปเรื่อยๆ ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อนของนายทักษ์ดนัยทั้ง 2 คนอยู่
    ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นางสุพัตรา เหนี่ยวรั้งใจ อายุ 49 ปี แม่ของนายทักษ์ดนัย พร้อมด้วยแฟนสาว เดินทางไปรับศพนายทักษ์ดนัย ขณะเดียวกันนางสุพัตราก็เปิดเผยว่า มีลูกชาย 2 คน นายทักษ์ดนัยเป็นคนโต ก่อนเกิดเหตุก็อยู่ด้วยกันกับตนตลอดที่บ้าน โดยแฟนของลูกชายก็พักอาศัยอยู่ด้วยกัน ปกติลูกชายเป็นคนนิสัยดี รักครอบครัว ดูแลตนเองมาตลอด แต่วันที่เกิดเหตุตนติดต่อลูกไม่ได้ เพราะนัดลูกให้มารับ กระทั่งดูข่าวในโทรทัศน์จึงทราบเรื่อง
    นางสุพัตรากล่าวว่า ไม่เชื่อว่าลูกชายจะเป็นคนก่อเหตุชิงเงิน ทั้งไม่เคยเห็นเงินที่มากผิดปกติของลูก ส่วนลูกชายจะเคยทำงานบริษัทรถขนเงินหรือไม่ ไม่ทราบข้อมูล แต่การที่ตำรวจทำวิสามัญ ตนมองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ตำรวจพยายามปกปิดข้อมูล และสร้างสถานการณ์ขึ้นมา มั่นใจว่าลูกไม่มีอาวุธปืน อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาว่าพบปืนที่ลูกชายนำไปทิ้งแล้ว หลังจากนี้ตนจะเดินหน้าขอความเป็นธรรม และหากเป็นไปได้จะขอให้พิสูจน์ศพลูกชายอีกครั้ง
    ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวยืนยันว่า ผู้ต้องหาคือนายกอล์ฟ พกพาอาวุธปินติดตัว รายละเอียดในเหตุการณ์นั้น พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. จะเป็นผู้ชี้แจง ส่วนเรื่องญาติของผู้ต้องหาร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมนั้น ยังไม่ได้รับรายงาน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"