ฟุ้ง!หลังเลือกตั้งศก.พุ่งแน่ สมคิดเชื่อนายกสานงานต่อ


เพิ่มเพื่อน    


    "สมคิด" ฟุ้งเศรษฐกิจไทยหลังเลือกตั้งจะเติบโตได้ต่อเนื่อง ยอมรับนักลงทุนอาจกังวล มั่นใจ "บิ๊กตู่" กลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบแน่พร้อมสานต่อโครงการเดิม เผยหลายประเทศประกาศนโยบายชัดเชื่อมโยงการลงทุนในไทย เลขาฯ บีโอไอเตรียมการส่งเสริมปีแห่งการลงทุน 
    ที่อิมแพค เมืองทองธานี วันที่ 4 มีนาคม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ปีแห่งการลงทุน : เปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาส" ว่า แม้เศรษฐกิจโลกยังไม่สดใสนัก ประเทศต่างๆ กำลังเผชิญความท้าทาย แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้งจะเติบโตได้ต่อเนื่อง จากที่ผ่านมารัฐบาลได้เปลี่ยนวิกฤติการเมืองเป็นโอกาส สามารถดึงนักลงทุนเข้ามาในไทย ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนในระยะต่อไป โดยเฉพาะโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เห็นได้จากการลงทุนจากต่างประเทศในพื้นที่อีอีซีเพิ่มขึ้นกว่า 100% ซึ่งมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะได้กลับมาหลังการเลือกตั้งเพื่อสานต่อการทำงานตามนโยบายต่างๆ ให้ประเทศ
    "สิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง ซึ่งข้อดีของการเลือกตั้งคือ ประชาชนจะได้เลือกตั้งและเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตย ส่วนข้อกังวลในช่วงเลือกตั้งคือ นักลงทุนทั่วโลกกังวลว่าสิ่งดีๆ ที่ผ่านมาจะมีการสานต่อหรือไม่ และรัฐบาลชุดใหม่จะมีการทำงานที่สนับสนุนเอกชนหรือไม่ โดยเฉพาะการสานต่อโครงการอีอีซี ซึ่งที่ผ่านมามีการพัฒนามาโดยตลอด เราจะไม่ยอมให้มันสูญหายและจะคงนโยบายนี้ไปสู่จุดหมายของเรา สิ่งเหล่านี้เป็นสไตล์การทำงานของท่านนายกฯ อยู่แล้ว รอเพียงวันเลือกตั้งเท่านั้น หากถามว่ามั่นใจไหมว่าท่านนายกฯ จะได้กลับมาดำรงตำแหน่ง ผมจะบอกให้ท่ามกลางการขายฝันลมๆ แล้งๆ เต็มไปหมด ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลนี้กำลังทำและพัฒนาเป็นของจริงและเป็นรูปธรรม คนไทยไม่โง่ มีตา มีสมอง  ฉะนั้นผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าท่านนายกฯ จะได้กลับมา และจะกลับมาสานต่อการพัฒนาเหล่านี้ให้ประเทศไทย ซึ่งประชาชนทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตประเทศไทยในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน" นายสมคิดกล่าว
    รองนายกฯ กล่าวต่อว่า ปีนี้บีโอไอประกาศให้เป็นปีแห่งการลงทุน และจะมีมาตรการพิเศษต่างๆ  ครอบคลุม ทั้งมาตรการสำหรับภาคอุตสาหกรรม มาตรการสำหรับสังคมและสิ่งแวดล้อม และมาตรการสำหรับท้องถิ่น เป็นแรงขับเคลื่อนจากความเข้มแข็งภายในที่ทำให้ไทยพร้อมสำหรับรองรับการลงทุน
    ทั้งนี้ ประเทศไทยจะใช้โอกาสที่จีนประกาศพิมพ์เขียวแผนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษระหว่าง 4  จังหวัดใหญ่ของประเทศจีน หรือจีบีเอ (Greater Bay Area: GBA) ได้แก่ ฮ่องกง มาเก๊า กวางตุ้ง และเซินเจิ้น เชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างอนุภูมิภาคทั้งสอง ในฐานะที่ฮ่องกงเป็นประตูแห่ง 4 จังหวัดใหญ่ของจีน และไทยเป็นประเทศสู่ซีแอลเอ็มวีที (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย) ให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน รองรับเป็นฐานการผลิตของโลก ซึ่งเบื้องต้นมีสัญญาณว่าผู้ประกอบการจีนในสหรัฐเริ่มย้ายฐานการผลิตมาไทยและเวียดนามแล้ว
    "ปีนี้ไทยยังเตรียมเป็นประธานการประชุมอาเซียน ผนวกกับความร่วมมือต่างๆ ในภูมิภาค อาทิ  การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซป (RCEP) ระหว่างอาเซียนกับ 6  ประเทศคู่เจรจา ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมถึงความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก ที่สำคัญในเดือน พ.ค.นี้ ประเทศไทยจะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของในหลวงรัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี ช่วยสร้างความมั่นใจในศักยภาพและอนาคตที่สดใสของไทย" นายสมคิดกล่าว 
    นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ปีนี้บีโอไอมีมาตรการส่งเสริมปีแห่งการลงทุน 2 ด้าน ได้แก่ มาตรการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและมาตรการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ อาทิ มาตรการปีแห่งการลงทุน สมาร์ตซิตี มาตรการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก, มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว เป็นต้น มั่นใจจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
    นอกจากนี้ยังเปิดตัวระบบบริการผ่านออนไลน์ หรือบีโอไอ ดิจิตอล ทรานส์ฟอร์เมชัน ให้บริการค้นหาสิทธิประโยชน์/แจ้งผลอนุมัติ/การขออนุญาตถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับโครงการที่จะขอรับการส่งเสริมการลงทุน ทั้งยังมีคลินิกให้คำปรึกษาครบวงจร มีนักลงทุนสนใจขอรับคำปรึกษากว่า 200 คน เป็นสัญญาณที่ดีต่อแนวโน้มปีแห่งการลงทุน
    นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลักกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงมียุทธศาสตร์และแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งไทยปี 2558-2565 ที่กำหนดให้เกิดโครงการด้านคมนาคม  111 โครงการ รวมเงินลงทุนทั้งหมด 1,912 ล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง  31 โครงการ เพิ่มโครงข่ายการขนส่งทางน้ำ 15 โครงการ พัฒนาบริการและโครงข่ายการขนส่งสาธารณะ 24 โครงการ เสริมสร้างความสามารถการขนส่งทางอากาศ 15 โครงการ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของการเชื่อมโยงระหว่างฐานการผลิตภายในประเทศกับประเทศเพื่อนบ้าน 26 โครงการ ตอนนี้เราดำเนินการตามแผนไปหลายโครงการแล้ว ตั้งเป้าพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางขนส่งทางเรือของอาเซียนด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"