พท.ประกาศ "ปรับหนี้ เติมเงิน ลดภาษี สร้างเศรษฐีใหม่" แก้เศรษฐกิจ 3 สเต็ปจบใน 180 วัน ปชป.เปิดนโยบายสตรี ชูลาคลอด 6 เดือนรับเงินเดือนเต็ม ภท.ลั่นถ้าเป็นรัฐบาลดันกัญชาเสรี 2 ปีไม่สำเร็จพร้อมลาออก "ธนาธร" คึก อนค.เรตติ้งพุ่ง ลุยอีสานตอนบน 4 จังหวัดรวด
    เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พรรคเพื่อไทยได้แถลงนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการใน 30 วัน 100 วัน และ 180 วันหากได้เป็นรัฐบาล โดยมีผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้งและ ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้าร่วมรับฟังการแถลงอย่างพร้อมเพียง รวมถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์, นายชัยเกษม นิติสิริ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรคเพื่อไทย 
    นายชัชชาติกล่าวว่า ก่อนปี 2554 เราเคยใช้นโยบายเศรษฐกิจ 4 ปีซ่อม 4 ปีสร้าง แต่วันนี้เราต้องใช้นโยบาย 4 ปีซ่อมและสร้างไปพร้อมๆ กัน เศรษฐกิจไทยไทยปัจจุบันเหมือนติดหล่ม ต้องใช้รถโฟวีลไดรฟ์พาประเทศออกจากหล่ม ล้อแรกจะเน้นการขับเคลื่อนการส่งออกและการท่องเที่ยว ล้อที่ 2 ส่งเสริมการลงทุน ล้อที่ 3 กระตุ้นการบริโภคในประเทศ ล้อที่ 4 กระตุ้นการลงทุนภาครัฐ ดังนั้นในภาพรวมเราจะเพิ่มรายได้ประชาชน ซึ่งพรรคพร้อมที่จะซ่อมและสร้างใน 4 ปีข้างหน้านี้
    ด้านคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เราให้คำมั่นว่าจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ภายใน 180 วัน จะไม่ยอมให้ประชาชนต้องทุกข์ร้อน จะทำทันทีด้วยการ "ปรับหนี้ เติมเงิน ลดภาษี สร้างเศรษฐีใหม่" เริ่มจากการตรวจโรคใน 30 วันแรก จะต้องสำรวจตรวจสอบความเสียหายจากโครงสร้างที่บิดเบี้ยวที่ทำให้เศรษฐกิจเบี้ยวไปด้วย ทั้งการตรวจสภาพหนี้ของรัฐบาล การใช้ทรัพยากรของรัฐที่ไม่เกิดประโยชน์  ตรวจสอบกฎหมายที่ทำให้เกิดความเสียหายต่างๆ อาทิ ร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์ รวมถึงข้อตกลงต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคนไทย เช่น เรื่องการประมง 
    ระยะที่สองคือ การรักษาแผลของประเทศภายใน 100 วัน โดยเริ่มจากการปรับหนี้และเพิ่มรายได้  เราต้องอัดน้ำเกลือให้ประชาชน เอาหนี้มาพักให้เขาลุกขึ้นได้ ด้วยการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ช่วยปรับโครงสร้างหนี้เอสเอ็มอีหรือธุรกิจรายย่อย ปรับหนี้ครูและหนี้ของนักเรียนที่กู้ กยศ. แล้วตั้งสถาบันพัฒนารายได้ทุกจังหวัดให้ผู้ประกอบการรายเล็กเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่าย จะมีทุนกู้ให้เบื้องต้นรายละ 5 ล้านบาท  รวมถึงเร่งขยายศักยภาพสินเชื่อธุรกิจรายย่อยขยายเพดานวงเงินจาก 50,000 บาท เป็น 100,000 บาท  พร้อมกันนี้จะมีการปรับเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำ 15% ไม่ให้กระทบผู้ประกอบการ และจะมีมาตรการช่วยเหลือ เช่น ลดภาษีนิติบุคคล สนับสนุนต้นทุนการผลิตให้ชาวนา 5,000 บาทต่อเกวียน ไม่เกิน 15  เกวียน หรือ 75,000 บาทต่อราย
    ระยะที่ 3 คือ การให้วัคซีนไม่ให้คนกลับมาป่วยอีกใน 180 วัน ด้วยการเร่งทลายอุปสรรคจากกฎหมายที่ล้าหลังเป็นอุปสรรคต่อการทำกิน เพื่อต้องสร้างโอกาสให้เกิดธุรกิจใหม่ เช่น การทำคราฟต์เบียร์หรือสุรากลั่นชุมชน รวมถึงต้องหยุดการรีดภาษีจากประชาชน และให้สิทธิพิเศษนอกอีอีซี ด้วยการปรับลดภาษีให้เอสเอ็มอีรายย่อยที่ยอดขายไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี เป็นภาษีเหมาจ่ายเพียง 1% ยกเว้นภาษีออนไลน์ 2 ปี งดเว้นภาษีให้สินค้าและบริการที่มีชื่อว่า "ไทยทำ" แล้วพรรคเพื่อไทยจะนำสินค้าเหล่านี้ไปขายในต่างประเทศ รวมถึงสตาร์ตอัพจะยกเว้นภาษีให้ 2 ปีเพื่อให้เขาตั้งตัวได้ก่อน
    รวมทั้งยังมีเป้าหมายเรื่องราคาเกษตร โดยตั้งเป้าให้ราคาข้าวขาว 5% ราคาอย่างน้อย 10,000  บาทต่อเกวียน ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาทต่อเกวียน ยางพารากิโลกรัมละ 60 บาทขึ้นไป อ้อยกิโลกรัมละ 100 บาทขึ้นไป ปาล์มกิโลกรัมละ 4.5 บาทขึ้นไป และข้าวโพดกิโลกรัมละ 7 บาทขึ้นไป ราคาสินค้าเกษตรต้องกลับมาดีภายใน 180 วัน นอกจากนี้จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรป้อนโลกให้ได้ และเกษตรกรจะเป็นผู้กำหนดราคา เราจะทำให้เกษตรกรมีรายได้ 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี และมีกองทุนปรับหน้าดินให้เกษตรกรด้วย
    นอกจากนี้จะมีกองทุนเสริมสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่หรือเถ้าแก่ใหม่ทั้งใน กทม.และภูมิภาค ต่อมาคือกองทุนคนเปลี่ยนงาน ที่จะให้ทั้งเงินทุน ทักษะ และความรู้แก่คนที่ต้องการเปลี่ยนงาน 
    "วันนี้หลายพรรคพูดเรื่องสวัสดิการต่างๆ เราไม่ขัด แต่สิ่งที่เราคิดต่างคือไม่ได้คิดแค่แจกเงิน แต่คิดถึงการสร้างรายได้ด้วย เราจะไม่แก้หนี้ด้วยหนี้ แต่เราจะแก้หนี้ด้วยรายได้ เชื่อว่าเราจะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป" คุณหญิงสุดารัตน์ระบุ
    ที่บริเวณสกายวอล์ก บีทีเอสช่องนนทรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค แถลงนโยบายสตรี ภายใต้ชื่อ Dem For Women ผลักดันคุณภาพชีวิตผู้หญิงให้ดีขึ้นด้วย "วาระผู้หญิง วาระประชาธิปัตย์" อาทิ ขยายระยะเวลาสิทธิ์ลาคลอด 6 เดือน รับเงินเดือนเต็มเดือน สตรีทุกคนต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เช่น ตรวจรักษาโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม เป็นต้น นอกจากนี้ได้นำเทคโนโลยีแอปพลิเคชัน "น้องเข้าใจ" ซึ่งเป็นแชตบอร์ดเชื่อมโยงผ่านทุกอุปกรณ์ที่ผู้หญิงสามารถใช้ เพื่อให้คำปรึกษาปัญหาต่างๆ และแอปพลิเคชันแจ้งการเตือนภัยให้ผู้หญิง  
    ที่ จ.ขอนแก่น นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีต รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่หาเสียงช่วยนายวุฒิพงศ์ ศุภรมย์ ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 5 ของพรรค โดยได้เดินขอคะแนนจากแพทย์และพยาบาล รพ.ภูเวียง อ.ภูเวียง โดยนายวิทยากล่าวว่า กระแสการตอบรับของพรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานนั้นดีขึ้นมาก เพราะวันนี้ไปที่ไหนคนที่จะเป็นเป้าที่สุดคือพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้พรรคให้ความสำคัญในการเร่งเสริมสร้างสุขภาพให้ประชาชน โดยเฉพาะโรงพยาบาลใกล้บ้าน โรงพยาบาลประจำอำเภอนั้นสามารถรองรับการให้บริการได้และไม่เกิดการแออัด รวมถึงอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ถือเป็นด่านหน้าในการทำงานด้านสาธารณสุขในชุมชนที่จะมีการปรับขึ้นเงินเดือนให้ด้วย
    ที่พรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค กล่าวถึงการคัดค้านนายทุนผูกขาดสัมปทานกัญชาว่า พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2562 ที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และประกาศใช้ ผู้ที่จะสามารถเข้ามาเป็นผู้ได้รับอนุญาตผลิต นำเข้า  จำหน่าย ประกอบด้วยคน 7 กลุ่ม แต่ไม่พบว่ามีประชาชน ดังนั้นต้องมีการแก้กฎหมายตามนโยบายพรรค ทั้งทางการแพทย์ การพาณิชย์ ประชาชนต้องเข้าถึงกัญชาได้เสรี โดยการปลูกบ้านละ 6 ต้น และรวมกันเป็นวิสาหกิจชุมชนเชิงพาณิชย์ได้ โดยรัฐบาลวิจัยให้ฟรีและมีหน้าที่รับซื้อจากประชาชน ไม่ใช่มีหน้าที่ปลูกเอง
    "ประชาชนต้องช่วยกันแสดงฉันทามติในวันที่ 24 มี.ค. เข้าคูหาอย่างมีสติป้องกันการผูกขาดการปลูกกัญชา ขอให้เลือกพรรคภูมิใจไทย เราจัดทำเป็นร่าง พ.ร.บ.และระเบียบแก้ไขไว้เรียบร้อย หากอยากให้ทำเร็วก็เลือกเราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการผลักดันการปลูกกัญชาเสรีจะใช้เวลา 9-24  เดือน หากพรรคได้เป็นรัฐบาลแล้วทำไม่ได้ พรรคจะขอลาออกเองไม่ต้องรอเลือกตั้งครั้งหน้า" นายศักดิ์สยามกล่าว
    วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางไปช่วยผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน โดยเริ่มต้นที่ จ.หนองคาย ก่อนจะเดินทางไปยัง จ.บึงกาฬ, นครพนม และปิดท้ายด้วยการปราศรัยใหญ่ที่สกลนคร โดยนายธนาธรกล่าวว่า แม้ผลโพลหลายสำนักจะระบุว่าพรรคอนาคตใหม่ได้รับความนิยมดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ตนเองและทีมงานชาวอนาคตใหม่ทุกคนยังต้องทำงานหนัก เหลือเวลาอีก 20 กว่าวัน พรรคจะทำให้เต็มที่เพื่อสื่อสารนโยบายและจุดยืนต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งผู้คนต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเลือกพรรคอนาคตใหม่ ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลง.