ปิดฉากจอมทรัพย์ลวงโลก จำคุก8ปีปั้นแพะช่วยแกะ


เพิ่มเพื่อน    


         ปิดฉาก "ครูจอมทรัพย์" ลวงโลก! คุก 8 ปีคดีปั้นแพะช่วยแกะ "ครูอ๋อง" 7 ปี 9 เดือน พยานเท็จ 2 รายโดน 2 ปีกว่า อดีตสามี 2 เดือน เพื่อน 2 คนกับหลานรอด วืดประกันนอนเรือนจำ รอศาลอุทธรณ์พิจารณา
         ที่ห้องพิจารณาคดีบัลลังก์ 2 ศาลจังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 6 มีนาคม เวลา 09.00 น. มีการพิจารณาคดีที่อัยการจังหวัดนครพนมเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือศรีบุญหอม อายุ 57 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร เป็นจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาเลขที่ 295/61 ข้อหาซ่องโจร เบิกความเท็จ และแจ้งความอันเป็นเท็จ โดยร่วมกับพวก ประกอบด้วย นายสุริยา นวนเจริญ หรือครูอ๋อง จำเลยที่ 2, นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ จำเลยที่ 3, นางทองเรศ วงศ์ศรีชา จำเลยที่ 4, นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อดีตสามีนางจอมทรัพย์ จำเลยที่ 5, นายเสน่ห์ สุพรรณ (เพื่อน) จำเลยที่ 6, นางรจนา จันทรัตน์ (เพื่อน) จำเลยที่ 7 และ น.ส.วาสนา เพ็ชรทอง หลานสาว จำเลยที่ 8
         คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรณีนางจอมทรัพย์ ตกเป็นจำเลยในคดีขับรถชนคนตายเมื่อปี 2548 ในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม โดยวันที่ 24 ก.ย.2556 ศาลฎีกาพิพากษาตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน กระทั่งเมื่อวันที่ 3 เม.ย.2558 ได้รับพระราชทานอภัยโทษออกจากเรือนจำกลางนครพนม รวมนางจอมทรัพย์ถูกจำคุก 1 ปี 6 เดือน หลังพ้นโทษได้ร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้กระทรวงยุติธรรมช่วยรื้อฟื้นคดีใหม่ โดยอ้างว่าตนเองตกเป็นแพะ
         ทั้งนี้ ศาลจังหวัดนครพนมนัดสืบพยานตามที่นางจอมทรัพย์ร้องขอตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นมาพิจารณาใหม่ ระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ.2560 โดยอ้างชื่อนายสับ วาปี ที่ออกมายอมรับว่าเป็นคนขับรถชนคนตายตัวจริง ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 รับรื้อฟื้นคดี แต่ในวันสืบพยานฝ่ายผู้ร้องกลับไม่ได้นำตัวนายสับ กุญแจดอกสำคัญขึ้นเบิกความในชั้นศาล
         กระทั่งวันที่ 17 พ.ย.60 ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์ พิจารณายกคำร้องของนางจอมทรัพย์ หลังพยานหลักฐานต่างๆ ไม่น่าเชื่อถือ ที่สำคัญไม่มีหลักฐานใหม่ที่พอจะให้ศาลเชื่อถือเพื่อสั่งรื้อฟื้นคดีตามที่นางจอมทรัพย์ร้อง ภายหลังศาลยกคำร้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งความดำเนินคดีกับขบวนการจ้างแพะช่วยแกะ เริ่มจากนายสับ วาปี ร้อนตัวรีบเข้ามอบตัว พร้อมยอมรับว่าไม่ได้ขับรถชนคนตาย ตามที่ให้การกับตำรวจ แต่มีนายสุริยาหรือครูอ๋อง มาติดต่อและรับปากจะให้เงิน 4 แสนบาท แลกกับการรับผิดแทน แต่ยังไม่มีการจ่ายเงินกัน
         หลังศาลอนุมัติออกหมายจับขบวนการจ้างแกะช่วยแพะ วันที่ 25 พ.ย.2560 เจ้าหน้าที่จึงบุกจับกุมครูจอมทรัพย์ที่บ้านพักใน จ.สกลนคร ในคดีซ่องโจร และให้การเท็จต่อศาล พร้อมฝากขังศาลจังหวัดนครพนม โดยไม่อนุญาตให้ประกันตัว ขณะที่ครูอ๋องหลบหนี ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ที่สถานีรถไฟหลักสี่ กทม. ส่วนจำเลยรายอื่นๆ ถูกดำเนินคดีตามที่หลักฐานพยานโยงไปถึง
         ด้านนายประทีป นวลเศรษฐ ทนายความนางจอมทรัพย์ เปิดเผยก่อนจะเข้าไปรับฟังการพิจารณาคดีว่า ในช่วงสืบพยานโจทก์นัดสุดท้าย หลังเสร็จสิ้นได้ยื่นหลักทรัพย์ขออนุญาตให้ศาลประกันตัวและปล่อยตัวชั่วคราวนางจอมทรัพย์และนายสุริยา พร้อมทั้งผู้ต้องหาอื่นๆ รวม 8 คน ซึ่งนางจอมทรัพย์และนายสุริยาได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 5 แสนบาท  โดยเมื่อวันที่ 30 ส.ค.2561 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 อนุญาตให้ประกันตัว ส่วนนางวาสนา นางทัศนีย์ นางทองเรศ และผู้ต้องหารายอื่นๆ ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวไปคนละ 1 แสนบาท 
         เบื้องต้นในการสืบพยานทั้งสองฝ่าย นางทัศนีย์และนางทองเรศรับสารภาพทุกข้อหา ส่วนนางจอมทรัพย์กับนายสุริยาปฏิเสธทุกข้อหา ยกเว้นกรณีที่นายสุริยาว่าจ้างนายเสริฐ รูปสะอาด มาอ้างเป็นคนขับรถชนนายเหลือ พ่อบำรุง เสียชีวิต แต่ภายหลังทราบว่านายเสริฐขับรถไม่เป็น จึงเปลี่ยนมาจ้างนายสับ วาปีแทน
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยาได้เดินทางมาถึงที่ศาลก่อนใคร โดยยืนอยู่กับทนาย มีสีหน้าสดชื่น แต่ยังคงแฝงด้วยความวิตก พร้อมกับยอมรับว่าถูกตั้งข้อกล่าวหาถึง 10 ข้อหา วันนี้ไม่ได้เตรียมการอะไรมา ส่วนนางจอมทรัพย์เจอ 6 ข้อหา ขณะที่นางทัศนีย์พยานที่อ้างว่าประสบเหตุการณ์ซึ่งๆ หน้า คราวรถยนต์ชนคนตาย มีสีหน้าวิตกกังวล และเดินหลบเลี่ยงผู้สื่อข่าวขึ้นไปชั้นบนศาล ด้านนางทองเรศผู้นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์นางทัศนีย์พูดคุยกับทนายอาสาบริเวณห้องทำงานทนายความข้างรั้วศาล   
         กระทั่งเวลา 09.30 น. นางจอมทรัพย์พร้อมกับทนายความได้เดินทางมาถึงศาล โดยเข้าประตูรั้วเหล็กข้างศาลด้านทิศเหนือ ซึ่งนางจอมทรัพย์สวมใส่ชุดสีขาว และพยายามหลบเลี่ยงทัพสื่อมวลชน โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์อะไร อย่างไรก็ตาม บริเวณโดยรอบศาลจังหวัดนครพนมมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองนครพนมร่วม 10 นายดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยด้วย
         ต่อมา เวลา 11.30 น. หลังจากศาลจังหวัดนครพนมได้นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาหนากว่า 300 หน้า ใช้เวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง พิพากษาลงโทษนางจอมทรัพย์จำเลยที่ 1 จำคุก 8 ปี, นายสุริยาหรือครูอ๋อง เพื่อนนางจอมทรัพย์ จำเลยที่ 2 จำคุก 7 ปี 9 เดือน, จำเลยที่ 3 นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ จำคุก 2 ปี 19 เดือน, จำเลยที่ 4 นางทองเรศ วงศ์ศรีชา จำคุก 2 ปี 12 เดือน, จำเลยที่ 5 นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อดีตสามีนางจอมทรัพย์ จำคุก 2 เดือน ส่วนนายเสน่ห์ สุพรรณ (เพื่อน) นางรจนา จันทรัตน์ (เพื่อน) และ น.ส.วาสนา เพ็ชรทอง หลานสาวนางจอมทรัพย์ จำเลยที่ 6-8 ศาลยกฟ้อง
         ทั้งนี้ จำเลยที่ 1-8 ศาลได้ยกฟ้องในข้อหาซ่องโจร  แต่ลงโทษในข้อหาแจ้งความเท็จ และแจ้งความอันเป็นเท็จ ขณะที่นางทัศนีย์และนางทองเรศ ซึ่งใช้ทนายอาสาไม่ได้เดินทางมาศาล ยังไม่ทราบว่าจะประกันตัวหรือไม่ ส่วนนางจอมทรัพย์และนายสุริยาใช้หลักทรัพย์เดิมวงเงิน 5 แสนบาทยื่นประกันตัว อย่างไรก็ตาม ศาลจังหวัดนครพนมได้มีความเห็นให้ส่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของนางจอมทัพย์และนายสุริยาไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาและมีคำสั่ง ทำให้ทั้งสองคนไม่ได้ประกันตัว และถูกนำตัวไปยังเรือนจำกลางจังหวัดนครพนมเพื่อรอคำสั่งต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"