เกลียดประเทศไทยเหรอ? ฮัลโหล…ฟังทางนี้หน่อยไหม


เพิ่มเพื่อน    

9 มี.ค.62 - นายสุวินัย ภรณวลัย อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Suvinai Pornavalai  เกลียดประเทศไทยเหรอ?  ฮัลโหล…ฟังทางนี้หน่อยไหม?

ผมเข้ามาทำงานในแอฟริกา คือ ประเทศไนจีเรียได้พักหนึ่งแล้วครับ

อย่างที่เพื่อนๆรับรู้กันผ่านที่ผมเขียนเล่ามาหลายตอนว่า  สิ่งต่างๆที่นี่ยังคงต้องการการพัฒนาอีกมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง  ชีวิตความเป็นอยู่  ความสะอาด  รวมถึงความปลอดภัย  ผมเองก็ยังคงต้องปรับตัวอีกมาก   เพราะคุ้นเคยกับความสะดวกสบายมาตลอดชีวิต

คำพูดของเพื่อนฝรั่งที่ทำงานด้วยกันบอกผมว่า  “ที่นี่จะทำให้เธอตาสว่างขึ้น”  (This place will be an eye opening for you)  และ  “เธอจะซาบซึ้งกับสิ่งที่เธอมีอยู่ที่บ้าน” (You will appreciate what you have back home) นี่คือความจริงที่สุด   

ถนนคอนกรีตที่นี่มีเฉพาะเส้นหลัก  ตามตรอกซอกซอยเป็นถนนดินและหินมีแต่หลุมบ่อ  น้ำฝักบัวไหลเอื่อยๆ  ไฟดับทุกชั่วโมง  กลิ่นน้ำเน่ามีให้ดมทั่วไป  รถยนต์ 90% ที่วิ่งบนถนนมีแต่สภาพไม่ต่ำกว่า 15 ปี  ควันดำโขมงเป็นเรื่องปกติ

ไหนจะต้องระวังยุงมาเลเรียมากัดอีก  ฮ่วย!

ที่บอกมานี่  ไม่ใช่จะว่าประเทศเขาไม่ดี  แต่เพราะเขากำลังพัฒนาและความเจริญยังไปไม่ถึง

การมาใช้ชีวิตที่นี่ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาทันทีว่า  ผมนั้นโชคดีแค่ไหนที่เกิดในเมืองไทย   และสิ่งดีๆที่เรามีในเมืองไทยนั้น   ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆหรือแค่เพราะโชคช่วย  เทวดาบันดาลลงมาให้

หากแต่เพราะการทำงานหนักและความทุ่มเทของคนหลายๆคนในบ้านเมืองเราตลอดสิบๆร้อยๆปีที่ผ่านมา  ทั้งที่เรารู้จักและไม่รู้จักชื่อ

.

สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตได้ก็คือ  ถึงแม้ว่าความเป็นอยู่ไนจีเรียจะแค่ไหนยังไง  คนไนจีเรียทุกคนที่ผมได้เจอ  ไม่ว่าจะเป็น  คนขับรถ  แม่บ้าน  คนซ่อมเสื้อผ้า  นักบิน  พนักงานออฟฟิศ  ช่าง หรือ ทีมรปภ.  ฯลฯ

ทุกคนพอเห็นผมหน้าตาเอเชียก็จะยิ้มให้แล้วถามว่า  “เธอเห็นว่าไนจีเรียเป็นอย่างไรบ้าง?” (How do you found Nigeria?)  หลังจากคุยกันพักหนึ่ง  ทุกคนจะมีคำพูดติดปากบอกผมเสมอว่า  

“ไนจีเรียเป็นประเทศที่ดีนะ” - Nigeria is a good country.

แล้วพูดต่อไปว่า  “เรารู้ว่ามันต่างจากที่เธอจากมา  แต่เราก็พัฒนาอยู่” 

สิ่งที่ผมมองเห็นในแววตาแข็งกร้าวของคนไนจีเรียคือ “ความหยิ่งในชนชาติ” และ “ความหวัง”  นี่คือสิ่งที่ผมชื่นชมอยู่ลึกๆ   แต่ไม่กล้าพูดออกไปเพราะเกรงว่าจะเข้าใจผิดกันว่าเราไปดูถูกเขา

ไม่เลย  ไม่เคยมีคนไนจีเรียคนไหนสักคนที่มาด่าประเทศไนจีเรียให้ผมฟังสักครั้งเดียว  ผมรับประกันได้

เวลาที่ผมหลุดปากบ่นอะไรออกไป  เขาก็จะฟังแล้วนิ่งเงียบ  ไม่เคยมาร่วมผสมโรงด่าประเทศตัวเอง   

นี่คือสิ่งที่ผมประทับใจในคนไนจีเรีย  อยากปรบมือให้ทุกวัน

ไม่มีคำพูดเหน็บแนมเช่น  “Thailand only”  หรือวาทกรรมอื่นที่คนในชาติคิดค้นขึ้นมาทำลายชาติตนเอง

ย้อนกลับมาที่บ้านเรา   เวลาผมเห็นคนไทยบางคนที่ชังชาติไทยออกมาพูดเย้วๆ  ว่าไม่อยากให้ลูกหลานเติบโตในเมืองไทย  หรือ  พวกที่โพสท์บนสื่อออนไลน์ช่วยต่างชาติหัวเราะด่าประเทศไทย  บอกตรงๆว่า ผมอนาถใจ

อยากให้มากินมานอนอยู่ไนจีเรียสักสิบวัน   แล้วจะรู้ว่าเมืองไทยนั้นสวรรค์เพียงใด

.

ที่เขียนมานี่บางคนอาจจะแย้งในใจว่า  “เอ้า  ทำไมไม่ไปเปรียบเทียบกับอเมริกาหรือประเทศพัฒนาแล้วล่ะ?”

ตอบว่า  ผมเคยใช้ชีวิตในอเมริกามาก่อนครับ  อเมริกานั้นพัฒนามากและสะดวกสบายอย่างจริงแท้ที่สุด  แต่จะสบายได้เราต้องมีเงินจำนวนหนึ่งและต้องมีรถ  แถมระบบการรักษาพยาบาลก็ไม่ได้ดีเท่าประเทศไทย

ขอทานในอเมริกาก็มี  มีเยอะด้วยนะ  ไม่เชื่อลองไปเดินแถวๆวอลล์มาร์ทตอนสักสี่ทุ่มสิครับ  ผมเคยเจอขอทานฝรั่งผมทองนั่งตาลอยบ่นพึมพำๆอยู่หน้าร้านขายยา   น่าเวทนาจนผมต้องวางเงินไว้ให้กับพื้น

ทุกประเทศมีดีมีร้ายครับ  

สิ่งที่เราควรทำคือหยุดวาทกรรมที่ก่นด่าชาติตัวเอง   หยุดคนที่พยายามบ่อนทำลายความอยู่ดีมีสุข   หยุดทัศนคติที่พยายามล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชนในชาติมาตลอดหลายร้อยปี

ย้อนคิดสักนิดและภูมิใจในสิ่งที่เรามีแล้วเถอะครับ

การมีสถาบันพระมหากษัตริย์แบบของประเทศไทยน่ะ… น่าภาคภูมิใจมาก

เชื่อเถิดครับว่าสิ่งที่เรามีมาและมีอยู่แล้วน่ะ…ดีที่สุดแล้ว / นัท

***หมายเหตุ "เกลียดประเทศไทยเหรอ?  ฮัลโหล…ฟังทางนี้หน่อยไหม?" เขียนโดย ธราพงศ์ รุ่งโรจน์ นักเขียนอิสระ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ประเทศไนจีเรีย


ธราพงศ์ รุ่งโรจน์ หรือ นัท


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"