ตร.ไล่ล่าโจรบึ้ม'พัทลุง-สตูล'


เพิ่มเพื่อน    


    "อนุพงษ์" สั่ง "พัทลุง-สตูล" ปรับแผนป้องกันเหตุเท่าจังหวัดชายแดนใต้ กำชับนายอำเภอใช้มาตรการเชิงลับปฏิบัติงาน "ผบช.ภ.9" เผยไม่กี่วันได้ตัวคนร้ายแน่ ฝ่ายความมั่นคงคุมตัว 5 ผู้ต้องสงสัยเข้าศูนย์ซักถามสอบเครียด "ตำรวจ" เตรียมยื่นศาลออกหมายจับมือบึ้ม 10 ราย 13 มี.ค.นี้ "วีระศักดิ์" เชื่อไม่กระทบการท่องเที่ยว
    เมื่อวันอังคาร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมว.มหาดไทย) กล่าวถึงเหตุระเบิดใน จ.พัทลุงและสตูล ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์แล้ว รวมถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยก็ได้ร่วมเดินทางไปด้วย ซึ่งในส่วนของสองจังหวัดที่เกิดเหตุ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทางกระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งให้นายอำเภอใช้มาตรการในเชิงลับปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยเน้นมาตรการป้องกันในพื้นที่สาธารณะของหน่วยราชการทั้งหมดที่รับผิดชอบ รวมทั้งใช้มาตรการในลักษณะเดียวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งการบูรณาการร่วมกับทหาร ตำรวจ 
    "มาตรการที่จะต้องดำเนินอย่างเข้มข้น คือ งานด้านการข่าว ที่ต้องรู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้เรายังใช้กฎหมายปกติอยู่" พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
    ถามว่า เชื่อมโยงกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.หรือไม่ รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ขณะนี้เท่าที่ทราบยืนยันไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ดังนั้นเราต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการด้านการข่าว เพื่อให้ทราบตัวผู้ก่อเหตุ รวมทั้งขั้นตอนการดำเนินการ เพื่อจะได้เตรียมพร้อมรับมือ 
    พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 กล่าวถึงความคืบหน้าการคลี่คลายคดีระเบิด จ.พัทลุงและสตูล ว่า ขอเวลาอีกไม่กี่วันจะได้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 2 จังหวัด ซึ่งขณะนี้จากการสืบสวนสอบสวนพบเป็นการปฏิบัติการโดยกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีคนในพื้นที่ซึ่งเป็นแนวร่วมกลุ่มใหม่ร่วมด้วย  
    "สาเหตุเบื้องต้นเป็นการขยายพื้นที่การก่อเหตุความรุนแรง ส่วนในประเด็นอื่นๆ ขอเวลาเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานและรายละเอียดต่างๆ ก่อน" ผบช.ภ.9 กล่าว
    มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้นำตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 5 คน ไปสอบสวนยังศูนย์ซักถาม ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งทั้งหมดเป็นบุคคลที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดอยู่ในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุก่อนมีการระเบิดขึ้น
    "จากการสอบสวนยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร มีเพียงบางคนที่ให้การเป็นประโยชน์ และมีความสัมพันธ์กับกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้" แหล่งข่าวระบุ
    หน่วยข่าวความมั่นคงระบุว่า ได้มีการสั่งการให้ตรวจสอบหาแนวร่วมในพื้นที่ อ.ปากพะยูน และ อ.กงหรา จ.พัทลุง เนื่องจากทั้ง 2 อำเภอเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาจำนวนเกือบ 30 แห่ง  ซึ่งมีนักเรียนจำนวนมาก ที่มาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีบางแห่งที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเยาวชนที่เป็นปีกการเมืองในขบวนการบีอาร์เอ็น ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในครั้งนี้
    "มีการตรวจสอบพบผู้ต้องสงสัยในการมีส่วนร่วมกับการวางแผนก่อเหตุใน จ.พัทลุง เป็นนักศึกษาในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ปากพะยูน แต่ยังไม่ได้มีการควบคุมตัว เพราะต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในขณะที่ผู้ต้องสงสัยบางส่วนในพื้นที่ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ติดตามประกบตัวเพื่อป้องกันการหลบหนีแล้ว" หน่วยข่าวระบุ
    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองรักษาความสงบภายในจังหวัดพัทลุง ได้เร่งแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สามารถบันทึกภาพคนต้องสงสัยเกี่ยวโยงการวางระเบิด 11 จุด ในพื้นที่ 2 อำเภอของจังหวัดพัทลุงได้ โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดสงขลา และในพื้นที่ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้เข้าพักในโรงแรมแห่งในพื้นที่อำเภอปากพะยูน ก่อนที่จะออกไปปฏิบัติการวางระเบิดตามจุดต่างแล้วหายไป โดยมีรถยนต์กระบะเป็นรถนำทางไปวางในทุกจุดที่ระเบิด
    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถแกะรอยและเก็บภาพที่บันทึกได้ เพื่อจะนำไปสู่การออกหมายจับอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 13 มี.ค. ซึ่งจากการตรวจสอบคาดว่ากลุ่มต้องสงสัยมีไม่ต่ำกว่า 10 คน โดยพนักงานสอบสวนได้เรียกพยานเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุระเบิดมาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อจะนำไปสู่การจับกุมคนร้ายต่อไป
    ขณะที่ พล.ต.ต.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล (ผบก.ภ.จว.สตูล) กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งหมดเพื่อหาเส้นทางของผู้ต้องสงสัย ขณะนี้พบผู้ต้องสงสัยจำนวนหนึ่งที่เป็นคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นผู้ให้ความร่วมมือกับผู้ลงมือในการวางระเบิดครั้งนี้ และได้นำผู้ต้องสงสัยมาทำการสอบถามแล้ว 2-3 คน ซึ่งยังให้การปฏิเสธ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
    ที่ สภ.เมืองสตูล เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเก็บกวาดเศษสะเก็ดระเบิดที่ปลิวว่อนตกเกลื่อนกลาดไปบริเวณโรงจอดรถของกลาง และซ่อมแซมผนังอาคารติดกับโรงจอดรถ) และผนังห้องประชุมชั้นสองที่ได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดครั้งนี้
    ในส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ได้ยกระดับความปลอดภัย ทั้งถนนสายยนตรการกำธรสตูล-รัตถูมิ หมู่ 4 ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล หน้าปั๊ม ปตท. ก่อนถึงหัวสะพานตายาย มีการสนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจตรารถที่วิ่งผ่านไปมาอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในช่องทางขาเข้าเมืองสตูล เฉกเช่นเดียวกับถนนสายบ้านฉลุง-ละงู-ทุ่งหว้า-ตรัง หมู่ 2 ต.ท่าแพ อ.ท่าแพ มีการตั้งจุดตรวจ โดยเฉพาะช่วงทางขาเข้าไปตัวเมืองฉลุง อ.เมืองสตูล
    นายประสิทธิ์ แบ้สกุล นายกเทศมนตรีเมืองสตูล กล่าวว่า ต้องมีการพูดคุยในเวทีระดับจังหวัดเพิ่มเติม ในส่วนของกล้องวงจรปิดในการเข้ามาช่วยในการป้องกันเหตุด่วนเหตุร้าย เพื่อช่วยสอดส่องและจับตาผู้ไม่หวังดีเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งปกติทางท้องถิ่นของเทศบาลเมืองสตูลมีกล้องจำนวน 40 ตัว ในการบริการประชาชนตามส่วนที่รับผิดชอบและชุมชน ซึ่งต้องขอให้จัดสรรงบประมาณในการเพิ่มเติมจัดซื้อกล้องเพิ่มที่มีคุณภาพ เพื่อป้องกันเหตุด่วนในการจับคนก่อเหตุมาลงโทษให้ทันท่วงที รวมทั้งจะประสานชุมชน โรงเรียน ในการช่วยกันสอดส่องดูแลตรวจตราจุดที่อาจจะเป็นจุดบอดให้กลุ่มคนไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุได้ เชื่อว่าความมั่นใจในพื้นที่สตูลจะกลับคืนมา
    ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงผลกระทบด้านการท่องเที่ยวจากเหตุระเบิดว่า ที่เกิดเหตุไม่ใช่บริเวณที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยว จึงยังไม่ได้รับผลกระทบอะไร ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงที่จะเข้าไปตรวจสอบ แต่เบื้องต้นยังไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแน่นอน
    “เหตุที่เกิดขึ้นไม่มีผลกับการท่องเที่ยว เพราะไม่ได้มุ่งที่ตัวนักท่องเที่ยว แม้จะเกิดเหตุในหลายพื้นที่ แต่ไม่ได้เกิดความสูญเสีย แปลว่าเขาต้องการแค่ให้เกิดเสียงดังเท่านั้น จึงเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะเข้าใจสถานการณ์ในบ้านเราช่วงที่ใกล้เลือกตั้ง ซึ่งจะมีการสร้างสถานการณ์ที่ต้องการให้ดูน่าตื่นเต้น” นายวีระศักดิ์กล่าว
    ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นใน จ.พัทลุงและสตูล ว่าถือว่าดีที่รัฐบาลไปลงพื้นที่ แต่อยากให้เร่งคลี่คลายสถานการณ์ เพราะปกติปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น 
    ถามว่ามีความเป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุอะไรอีกหรือไม่ เพราะใกล้ถึงวันเลือกตั้งแล้ว หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการให้ชัดเจน ประชาชนจะได้มั่นใจและสบายใจ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"