เกมยื่นหมูยื่นแมวคดีหมิ่น วัชระถอนฟ้อง3เกลอนปช.


เพิ่มเพื่อน    


    เคลียร์กันลงตัว! "วัชระ" ถอนฟ้องชั้นฎีกา "3 เกลอ นปช." หมิ่นปมพิมพ์หนังสือสมัคร ไกล่เกลี่ย "จตุพร" คดีอมเงินบริจาคเสื้อแดง ศาลฎีกาเลื่อนอ่านคำพิพากษาไป 15 พ.ค.
    ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ อ.4977/2555 ที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายวีระกานต์ หรือวีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 และเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
    คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2552 จำเลยที่ 1-3 จัดรายการความจริงวันนี้ ออกอากาศสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีทีวีของคนเสื้อแดง กล่าวหาว่าโจทก์พิมพ์หนังสือชื่อ “สมัคร ทักษิณ จาบจ้วง ป๋าเปรม ถึงนอมินี” ขึ้นมาใหม่หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีถึงแก่อสัญกรรมแล้ว และพวกจำเลยยังเรียกร้องให้คนเสื้อแดงมาคุกคามโจทก์ที่พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่หนังสือดังกล่าวได้พิมพ์เผยแพร่ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2551 โดยมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นประธานในพิธีเปิดตัวหนังสือฉบับนี้ ร่วมกับนายปรีชา สามัคคีธรรม ก่อนที่นายสมัครจะอสัญกรรม ซึ่งทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
    คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลยทั้งสามในความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ จำคุกคนละ 1 ปี ปรับ คนละ 5 หมื่นบาท แต่โทษจำคุกนั้นเมื่อศาลพิจารณาพฤติการณ์แล้วเห็นว่าไม่ร้ายแรง จึงให้รอการลงโทษไว้คนละ 2 ปี และให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจากการทำละเมิดโจทก์ จำนวน 6 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่ 29 ธ.ค.2555 ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำเลยยื่นฎีกาขอให้ยกฟ้อง
    วันนี้ (12 มี.ค.) จำเลยทั้งสามเดินทางมาศาล ส่วนโจทก์ส่งผู้รับมอบอำนาจเดินทางมาศาล โดยได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสาม เนื่องจากโจทก์และจำเลยได้ทำการไกล่เกลี่ยจนเข้าใจแล้ว จำเลยยอมรับข้อเท็จจริงว่าหนังสือดังกล่าวได้พิมพ์ขึ้นในขณะที่นายสมัครยังไม่ถึงแก่อสัญกรรม โจทก์ไม่ติดใจเอาความอีก ขอถอนฟ้อง ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่อาจอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาได้ ให้ส่งคืนศาลฎีกาเพื่อนัดฟังคำสั่งอีกครั้ง
    วันเดียวกัน ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำที่ อ.3910/2553 ที่นายจตุพร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเมธี อมรวุฒิกุล อดีตแนวร่วม นปช. และอดีตดารานักแสดงชื่อดัง, บริษัท นสพ.แนวหน้า จำกัด, นายโชคชัย สุมน, นายวัชระ เพชรทอง, บริษัท เอ็นเอส ทีนิวส์ จำกัด, บริษัท เอเอสทีวีผู้จัดการ จำกัด และนายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และ 332 
    กรณีเมื่อวันที่ 12 ต.ค.2553 นายเมธีแถลงข่าวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ทำนองว่านายจตุพรอมเงินบริจาคของคนเสื้อแดงจำนวน 68 ล้านบาท และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับผู้หญิงบนชายหาดเมืองพัทยา รวมทั้งกล่าวหาว่านายจตุพรโทรศัพท์ขู่ฆ่าจำเลย ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี
    คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกนายเมธี 2 ปี และปรับ 100,000 บาท คำรับสารภาพเป็นประโยชน์เห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน และปรับ 66,666 บาท ขณะที่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-7 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอว่าได้ร่วมกันกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 
    ต่อมาโจทก์และจำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2559 เห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิด แต่ก็มีเหตุอันควรปรานี เมื่อไม่ปรากฏว่าได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยที่ 1 ได้กลับตัว การใช้ดุลพินิจกำหนดโทษของศาลชั้นต้นโดยรอการลงโทษจึงเหมาะสมแล้ว ส่วนข้อเท็จจริงปรากฏตามทางนำสืบว่า นายวัชระ จำเลยที่ 4 ได้คัดลอกคำให้สัมภาษณ์ของนายเมธี จำเลยที่ 1 มาใส่ในบทความ โดยมีข้อความที่นายเมธีกล่าวหมิ่นประมาทโจทก์รวมอยู่ด้วยโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่นอนเสียก่อน และมิได้คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่โจทก์ มิใช่การติชมด้วยความเป็นธรรมโดยสุจริต จึงมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์โดยการโฆษณา
    ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 และ 4 มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ตาม ป.อาญามาตรา 328 ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 1 แสนบาท คำเบิกความเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 1 ปี 4 เดือน ปรับคนละ 66,666 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลยที่ 1 และ 4 ร่วมกันลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับ เป็นเวลา 3 วัน ส่วนจำเลยที่ 2, 3, 6 และ 7 ให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น
    คดีนี้มีจำเลยที่ 4 นายวัชระยื่นฎีกาสู้คดีเพียงคนเดียว วันนี้นายวัชระ จำเลยส่งทนายความผู้รับมอบอำนาจเดินทางมาศาล โดยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในวันนี้ออกไป ก่อนเนื่องจากติดหาเสียงช่วยพรรค ซึ่งฝ่ายโจทก์ไม่คัดค้าน ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้เลื่อนการฟังคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปเป็นวันที่ 15 พ.ค.นี้
    อย่างไรก็ตาม นายสุภาพ เพชรศรี ทนายความของนายจตุพร โจทก์ เปิดเผยถึงคดีนี้ว่า นายจตุพรได้มีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกับนายวัชระ เพื่อจะถอนฟ้องให้ต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"