13 มี.ค. 62 -  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2562 เวลา 10.30 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการสัมมนาผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ (SOE CEO Forum) ครั้งที่ 3 และได้มอบนโยบายเรื่อง การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้วยพลังรัฐวิสาหกิจไทย ให้ผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจ โดยมี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง ร่วมปาฐกถาพิเศษ 

ทั้งนี้ นายสมคิด ถือโอกาสกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างมอบนโยบาย ว่า ทุกวันนี้มีหลายฝ่ายหาว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สร้างความเหลื่อมล้ำ คนพูดมีสมองหรือเปล่า มีตาไหม คิดแต่ว่าพูดอย่างเดียวแล้วได้คะแนนเสียง เป็นเรื่องที่น่าอับอาย เราต้องร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศใช่หรือไม่ ความเหลื่อมล้ำเพิ่งเกิดในรัฐบาลนี้หรือไม่ โจทย์แค่นี้ก็ไปพูด จนกระทั่งเกิดความไขว้เขวว่า พล.อ. ประยุทธ์ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ฟังแล้วก็รู้สึกเป็นห่วง และกังวล

นอกจากนี้ กรณีที่มีพรรคการเมืองบางพรรคบอกว่า ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องที่ พูดเร็วไปไหม? จะบอยคอตอะไรกันอีก เมื่อก่อนก็เคยบอยคอต 2 รอบ หลังจากบอยคอตเสร็จแล้วอะไรตามมา คนไทยลืมง่ายไหม นี่จะบอยคอตอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ได้บอยคอตเลือกตั้งแต่บอยคอตตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเลย

นายสมคิด กล่าวอีกว่า เราก็รู้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนมาเพื่อให้มีรัฐบาลผสมแน่นอน แล้วยังเป็นรัฐบาลผสมของพรรคแกนหลักไม่กี่พรรค ซึ่งคะแนนขณะนี้ก็เดาได้ว่าผิดกันไม่มากเท่าไหร่ ดังนั้น ถ้าพรรคการเมืองบางพรรค บอกซ้ายไม่เอา ขวาไม่เอา ต้องมีผมคนเดียว ก็จะสร้างความสับสนทางการเมืองให้กับนักลงทุนต่างชาติ ที่กังวลว่าจะตั้งรัฐบาลอย่างไร ถ้าตั้งไม่ได้ แล้วการเมืองมันถึงทางตัน พรรคนั้นจะพูดทำไม ไม่ต้องพูด คิดอยู่ในใจก็พอ เพราะยังไม่ถึงเวลา

“ไม่ต้องไปพูดอะไรมากมาย พูดนโยบายของพรรคดีกว่า หรือว่าไม่มีนโยบายอะไรให้พูด ผมว่าประการหลังมากกว่า  อยากให้พรรคที่พูดไปคิดนโยบายออกมาหน่อย ไม่มีใครเขาอยากจะมานั่งจองเป็นรัฐบาลตลอดชาติ ผมถาม นายอภิศักดิ์ ว่าเป็น รมว.การคลัง มา 4 ปี จนลงไปกี่ล้าน เพราะฉะนั้น เรื่องบางเรื่อง ในช่วงที่การเมืองมีแต่ความไม่แน่นอน เอกชนชะลอการลงทุน ต่างประเทศขอดูความแน่นอน อย่างนี้ พูดน้อยประเทศชาติจะได้ประโยชน์ พูดมากคนพูดอาจไม่ได้ประโยชน์ก็ได้นะ เพราะมีคนไทยกี่คนที่อยากให้การเมืองถึงทางตัน ดีไม่ดีจะไม่ได้อย่างใจนะ” นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวด้วยว่า ข้อกังวลเรื่องที่ 2 ซึ่งไม่ได้พูดแทน พล.อ.ประยุทธ์  ที่บอกว่า ไม่สนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะสืบทอดอำนาจ การที่คนคนหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะไม่ให้มีการเลือกตั้งตอนนี้ก็ทำได้ แต่ก็ยังเดินตามโรดแมปเลือกตั้ง จะดีจะชั่วไม่รู้ ท่านก็พร้อมลงสู่สนามเลือกตั้ง พร้อมเป็นนอมินีพรรคการเมือง ตอนนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ยังไม่ตั้งแล้วมันสืบทอดอำนาจอย่างไร ถ้าบอกว่าสืบทอดอำนาจเพราะอยากมาทำงานต่อ รู้ใช่ไหมว่าประเทศมีปัญหาเยอะ ต้องทำการบ้านให้เสร็จ แต่จะทำได้ต้องมีอำนาจ ดังนั้น นี่คือการสืบทอดอำนาจเพื่อการทำงานให้บ้านเมืองดีขึ้น

ทั้งนี้ การที่มีพรรคการเมือง ต้องการเป็นรัฐบาล เป็นแล้วเป็นอีก อยากถามว่าย้อนกลับไปมีผลงานหรือเปล่า ผมไม่รู้ ให้ประชาชนตัดสินใจกันเองว่าเคยเห็นผลงานไหม แล้วต้องการเป็นรัฐบาล แต่ซ้ายไม่เอา ขวาไม่เอา ต้องเลือกผมเป็นนายกรัฐมนตรี อย่างนี้เรียกสะดุดอะไร ฉะนั้นอย่าพูดเยอะเลย พูดน้อยๆ

นายสมคิด กล่าวว่า ข้อกังวลข้อที่ 3. ที่พรรคการเมืองบางพรรค ระบุว่าต้องการรีบเข้ามาเพราะเศรษฐกิจเสียหายมาก จำเป็นต้องเข้ามาฟื้นฟู ผมก็กระซิบถาม รมว.การคลัง ว่าเสียหายมากอย่างไร มีอะไรที่ท่านปิดบังผมหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่ามันเสียหายตรงไหน ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) บลูมเบิรกซ์ ก็ชม ใคร ๆ ก็ชม มีแต่พวกคุณคอยค่อนขอด เสียหายตรงไหน มีแต่ผมคอยฟื้นฟู หลังจากท่านเข้ามาแล้วก็ไป รอบก่อน 6 ปี รอบใหม่ 4 ปี ใครกันแน่ที่ฟื้นฟูใคร