ลิเวอร์พูล ตบเท้าเข้ารอบพร้อมหน้าเป็นทีมที่ 4 ของอังกฤษ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบควอร์เตอร์ไฟนอล หลังระเบิดฟอร์มบุกไปถล่มถล่ม ยอดทีมบุนเดสลีกา บาเยิร์น มิวนิค ได้ถึงถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า เจอร์เกน คล็อปป์ กลั้นความดีใจไม่อยู่หลังสอยอดีตคู่อริสมัยคุมดอร์ทมุนด์ ตกรอบคาบ้าน ยกให้เป็นหนึ่งในแมทช์ที่ดีที่สุดนอกบ้านของทีม
        เจอร์เกน คล็อปป์ กล่าวยกย่องนักเตะหงส์แดงหลัง ระเบิดฟอร์มสุดยอดในเกมนอกบ้าน ของศึกสโมสรยุโรป ให้เห็น ด้วยการบุกไปถล่ม บาเยิร์น มิวนิค ในเกมเลกสอง ที่ เยอรมนี ได้ถึง 3-1 ตบเท้าผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ เมื่อคืนวันพุธ หลังจากที่เลกแรก เสมอกันมาแบบไร้สกอร์ที่แอนฟิลด์ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
        2 ประตูจาก ซาดิโอ มาเน่ บวกกับลูกโหม่งที่เด็ดขาดของ เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ช่วยให้ ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมสุดท้ายจากอังกฤษ ที่ผ่านเข้าสู่รอบควอร์เตอร์ไฟนอล พร้อมหน้า 4 ทีมเป็นครั้แรกนับตั้งแต่ปี 2008 โดยอีก 3 ทีมจากเมืองผู้ดีในรอบต่อไป ยังอยู่กันครบ เมื่อรวมกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
        บาเยิร์น ในรอบ 10 มานี้ มักทะลุเข้าถึงรอบเซมิไฟนอลได้เป็นอย่างน้อย แต่ ลิเวอร์พูล ที่ทำได้แค่เสมอในเลกแรก สามารถเขี่ยยอดทีมบุนเดสลีกา พ้นเส้นทางอย่างไม่ยากเย็นนัก แม้นัดนี้ จะเสียกัปตันทีม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไปตั้งแต่ต้นเกม แต่ก็ยังสามารถคุมเกมได้เหนือกว่าทีมเจ้าบ้านและถล่มชนะได้อย่างราบคาบสมควรกับสกอร์ที่ออกมา
        คล็อปป์ ยอมรับว่ารู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสไตล์และคุณภาพการเล่นของทีมของตนในเวลานี้ และเชื่อว่าพวกเขามีสิทธิที่จะได้เข้าไปเป็นหนึ่งในทีมที่ได้เตะในนัดชิงชนะเลิศ ที่ มาดริด ในวันที่ 1 มิถุนายน
        "ในเกมอย่างนี้ คุณต้องลุยให้ได้ตลอด พักไม่ได้" คล็อปป์ กล่าว "มันเป็นชัยชนะที่คู่ควร ทุกคนรู้ว่ามันหนักแค่ไหนที่ต้องมาเตะนัดเยือนเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค ที่นี่ นี่เป็นเกมใหญ่ ผมภูมิใจมากกับเด็กๆของผม"
        "จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เจ็บข้อเท้าพลิก หวังว่าอาการจะไม่หนักมาก การที่ต้องเปลี่ยนตัวเร็วตอนต้นเกม ไม่ใช่เวลาดี"
        "ประตูแรก ผมจะต้องกลับไปดูอีกราว 1,000 ครั้ง มันสุดยอดมาก เกมรับของเราก็ทำได้ดี เราไม่ได้รับกันอย่างปกติที่เราเคยทำ เมื่อเจอเกมนัดเยือนในแชมเปี้ยนส์ลีก เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค คุมการรับมือกับเซตพีซ และเขาก็ยังอันตรายมากเมื่อขึ้นไปช่วยลุ้นประตู"
        "เกมนี้ไม่ได้ออกมาว่า บาเยิร์น เป็นฝ่ายไล่ต้อนเรา เรากลับมา และไม่ต้องสงสัยว่าเราจะกลับมาอีก ผมรู้ว่า เรามีโอกาส แต่ผมไม่คาดว่ามันจะออกมาขนาดนี้ แต่เด็กๆของเราช่วยทำให้มันเกิดขึ้นได้ เกมนี้สุดยอดมาก"
        เฮนเดอร์สัน ยังสามารถเดินกลับจากสนามได้ปกติ ไม่ได้ต้องอาศัยไม้ค้ำหรือเข้าเฝือก แต่อาจยังไม่สามารถลงเตะในเกมต่อไปที่จะไปเยือน ฟูแล่ม อาทิตย์นี้ หลายคนยังเกรงว่า เขาจะฟิตพอสำหรับศึก ยูโร 2020 รอบคัดเฃือก ได้หรือไม่ในเกมที่เจอ สาธารณรัฐเชก กับ มอนเตเนโกร
        อีกอย่างที่ คล็อปป์ รู้สึกว่าไม่น่าเกิดขึ้น คือ ใบเหลืองของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งหมายความว่าเขาจะติดโทษแบน อดลงเล่นในเกมเลกแรก ของรอบควอร์เตอร์ไฟนอล
        "ผมไม่แค่ต้องการเอาชนะ บาเยิร์น" คล็อปป์ กล่าว "ผมต้องการชนะกับ ลิเวอร์พูล ผมแน่ใจว่าผมทำให้แฟนๆดอร์ทมุนด์มีความสุขไปด้วย"