ศรีวราห์แจงคดีเสือดำ มั่นใจเอาผิด'เปรมชัย'


เพิ่มเพื่อน    


    "ศรีวราห์" นำพนักงานสอบสวนมาแถลงคดีเสือดำ ยันฟ้องทุกข้อหาที่สามารถเอาผิดได้ มั่นใจ "เปรมชัย" กับพวก ไม่รอดแน่ 19 มี.ค. ศาลนัดพิพากษา ด้านผู้ปล่อยข่าวเท็จ ขณะนี้ ปอท.อยู่ระหว่างดำเนินการดำเนินคดีทุกราย
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 14 มีนาคมนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. แถลงความคืบหน้าคดีฆ่าเสือดำ ที่มีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก ตกเป็นผู้ต้องหาล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดพิพากษาวันที่ 19 มี.ค.นี้ แต่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลถึงคดีดังกล่าวว่าอัยการสั่งไม่ฟ้อง ทำให้นายเปรมชัยรอดคดีทุกข้อหา จนทำให้สังคมเกิดความสับสน โดยเชิญพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาชี้แจง ทั้งพนักงานสอบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พนักงานสอบสวนจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  (บก.ปทส.) พนักงานสอบสวนจากกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)  
    โดยพนักงานสอบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี สรุปคดีดังกล่าวว่า เหตุเกิดวันที่ 4 ก.พ.61 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร หลังจากพนักงานสอบสวนรับเรื่อง ใช้เวลา 35 วันทำสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหา แจ้งข้อหาทั้ง 4 คน จำนวน 10 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ร่วมกันนำเครื่องมือใช้ในการล่าสัตว์ป่าเข้าไปโดยโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองและพยายามล่าสัตว์ป่า 4.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง 5.ร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือพาไปเสียซึ่งซากสัตว์ป่า 6.ร่วมกันเก็บหาของป่า 7.ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าไว้ในความครอบครอง 8.ร่วมกันมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต 9.ร่วมกันพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 10.ร่วมกันทารุณกรรมสัตว์
    พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนสั่งฟ้อง 9 ข้อหา สั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหาคือ ทารุณกรรมสัตว์ และได้ส่งให้พนักงานอัยการ อัยการภาค 7 ตรวจสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องนายเปรมชัย 5 ข้อหา คือ ร่วมกันล่าสัตว์ป่า, ร่วมกันซ่อนเร้นฯ, ร่วมกันมีไว้ในครองซากสัตว์ป่า, ร่วมกันเก็บหาของป่า, ร่วมกันมีอาวุธปืน และมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เรื่องทารุณกรรมสัตว์ เมื่อพนักงานอัยการมีความเห็นแย้งกันกับตำรวจ พนักงานสอบสวนจึงส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด เมื่ออัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นฟ้องตามพนักงานอัยการภาค 7 พนักงานอัยการจึงยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตรวจพยานหลักฐานทั้งฝ่ายโจทก์ จำเลยเสร็จสิ้น ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 19 มี.ค.นี้ ที่มีการปล่อยข่าวอัยการสั่งไม่ฟ้องไม่เป็นความจริง
    ด้านพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ชี้แจงว่า ในคดีดังกล่าวยังมีคดีการติดสินบนเจ้าพนักงาน พนักงานสอบสวน บก.ปปป.รับเรื่องการติดสินบนจากนายวิเชียร ชินวงศ์ หัวหน้ารักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2561 กล่าวโทษกับนายเปรมชัย กรรณสูต และนายยง โดดเครือ ข้อหาร่วมกันให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจหรือประวิงการกระทำอันมิชอบ จากการตั้งคณะกรรมการพนักงานสอบสวนจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง มีความเห็นสั่งฟ้อง และได้ส่งให้พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7 เมื่อวันที่ 30 มี.ค.61 และทางอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องตามพนักงานสอบสวน  กระบวนการไต่สวนทั้งหมดเสร็จสิ้น ศาลนัดพิพากษาวันที่ 11 มิ.ย.62  
    ขณะที่พนักงานสอบสวน บก.ปทส.ชี้แจงว่า หลังจากจับกุมที่อุทยาน มีการสืบสวนขยายผลพบงาช้างและอาวุธปืน จากการเข้าตรวจค้นที่บ้านย่านห้วยขวางวันที่ 7 ก.พ.61 ยึดอาวุธปืน 43 กระบอก งาช้าง 4 กิ่ง ตรวจสอบอาวุธปืนพบ 5 กระบอก ไม่มีทะเบียน แจ้งข้อหานายเปรมชัย ฐานครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ในทางคดีพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องเช่นเดียวกัน คดีอยู่ที่ศาลอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ ส่วนงาช้างพบว่าเป็นงาช้างจากแอฟริกา จึงดำเนินคดีข้อหาลักลอบนำงาช้างจากต่างประเทศเข้ามาตาม พ.ร.บ.ศุลกากรและครอบครองสัตว์ป่า นอกจากนี้ยังดำเนินคดีกับภรรยานายเปรมชัยข้อหา แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสาร ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้ยื่นแจ้งเจ้าหน้าที่ครอบครองงาช้างที่ยืนยันว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง และพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องเช่นเดียวกัน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล
    พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า คดีล่าเสือดำมั่นใจจะสามารถเอาผิดนายเปรมชัยได้ เพราะความเห็นตรงกับพนักงานอัยการสูงสุด ขบวนการยุติธรรมเบื้องต้นตำรวจอัยการเห็นตรงกันแล้ว เหลือแต่ศาลจะพิจารณาตามความหนักเบา ผิดน่ะผิดแน่  
    พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ยังฝากเตือนประชาชนที่เสพข่าวอย่าไปหลงเชื่อโซเชียลที่บิดเบือนจากความจริง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งให้ตรวจสอบใครบิดเบือนข่าวให้นำมาดำเนินคดี ซึ่งเป็นความผิด พ.ร.บ.คอมพ์ รวมทั้งการแชร์ข่าวด้วย นับตั้งแต่เริ่มมีข่าวมาช่วงหลังนี้ ถ้าเป็นเท็จดำเนินคดีหมด โดยได้สั่งให้ ปอท.ดำเนินการ เพราะการกระทำดังกล่าวทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย วันที่ 19 มี.ค.ศาลตัดสิน จะทราบกันว่าเป็นอย่างไร.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"