ส.ส.อังกฤษลงมติเห็นชอบกับการขอให้อียูเลื่อนเวลาการเบร็กซิต จากเดิมวันที่ 29 มีนาคมนี้ ออกไปก่อน ขณะรัฐบาลของนายกฯ เทเรซา เมย์ รอยื่นข้อตกลงกับอียูที่โดนสภาตีตกไปแล้ว 2 รอบ กลับเข้าสภาใหม่สัปดาห์หน้า

แฟ้มภาพ AFP

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2562 ว่าอังกฤษมีแนวโน้มจะต้องถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ในวันที่ 29 มีนาคมที่จะถึงนี้ โดยปราศจากข้อตกลงเบร็กซิตที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภา แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา สมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษได้ลงมติเห็นชอบการขอให้บรรดาผู้นำชาติสมาชีกอียูยินยอมเลื่อนการถอนสมาชิกภาพของอังกฤษออกไปจากกำหนดเดิม เพื่อหลีกเลี่ยงความโกลาหลวุ่นวายเพราะการหย่าร้างแบบไร้ข้อตกลง

    มติเมื่อวันพฤหัสบดีเปิดทางให้นายกฯ เมย์ ยื่นข้อตกลงซึ่งเคยโดนสภาปฏิเสธมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อเดือนมกราคมและในสัปดาห์นี้ กลับไปให้สภาพิจารณาเพื่อลงมติอีกครั้งในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ดี ยังมีความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะถอนตัวแบบไร้ข้อตกลงในวันที่ 29 มีนาคม หากข้อตกลงฉบับนี้ของเมย์ถูกปฏิเสธอีกครั้ง และ 27 ชาติสมาชิกอียูไม่อนุมัติการขยายเวลา

    พวกผู้นำอียูกล่าวกันไว้ว่า พวกเขาจะพิจารณาคำร้องขอของอังกฤษ แต่อียูก็อยากรู้ก่อนที่ผู้นำจะประชุมกันที่กรุงบรัสเซลส์สัปดาห์หน้าว่า อังกฤษต้องการยืดเวลาถึงเมื่อใด และจะมีประโยชน์อันใด

    รายงานกล่าวว่า เมย์จะขอให้อียูยืดเวลาการเบร็กซิตออกไปเป็นวันที่ 30 มิถุนายน เพื่อให้เวลาการลงมติรับรองข้อตกลงเบร็กซิต แต่เมย์เตือนไว้ว่า หากข้อตกลงของเธอถูกปฏิเสธอีก เบร็กซิตก็อาจเลื่อนไปนานกว่านั้น

    การยืดเวลาออกไปหลังจากนั้นอาจทำให้อังกฤษต้องเข้าร่วมการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรปในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะทำให้อังกฤษต้องกลับไปมีส่วนร่วมในการเมืองของอียูทั้งที่มีประชามติถอนตัวเมื่อ 3 ปีก่อน

    โดนัลด์ ทุสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า อียูอาจอนุมัติการเลื่อนเวลาเบร็กซิตออกไป หากอังกฤษทบทวนยุทธศาสตร์เบร็กซิตและสร้างฉันทมติให้เกิดขึ้น

    สัปดาห์ที่ผ่านมา บรรยากาศในสภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษแห่งนี้เต็มไปด้วยความโกลาหลวุ่นวาย ส.ส.ได้ลงมติเมื่อวันพุธ ไม่เห็นชอบการถอนตัวจากอียูโดยปราศจากข้อตกลง และยังไม่เห็นด้วยกับการจัดประชามติเบร็กซิตครั้งที่ 2

    ประเด็นที่เป็นปัญหาขัดแย้งหลักๆ ในข้อตกลงนี้คือเรื่อง "แบ็กสต็อป" ไอร์แลนด์ ที่เป็นข้อตกลงเปิดพรมแดนไอร์แลนด์เหนือกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ไว้ต่อไป.