อ่านสถานการณ์ในเมืองหลังเลือกตั้ง


เพิ่มเพื่อน    

 

 ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์

มฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ/พระราหูจร (8)เดินอยู่ในราศีมิถุน

พฤหัสบดีจร (5) เดินอยู่ในราศีธนู/พระเสาร์จร(7) เดินอยู่ในราศีธนู

พระอังคารจร (3) เดินในราศีเมษ 5-22 กุมภาพันธ์ 2562

พระอังคารจร (3) เดินในราศีพฤษภ (22 มีนา-7พฤษภ 62)

พระอาทิตย์กาลกิณีจร (1) เดินอยู่ในราศีมีนระหว่าง 15 มีนา-14 เมษ 62

อาทิตย์จร (1) ร่วม-สวนราหูจร (8) 15 มิถุนา-17กรกฎ 62

                บทความแม่หมอสมัครเล่นตอนนี้ตีพิมพ์-เผยแพร่ในวันเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ คือวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว พอให้เห็นทิศทางการเมืองเลาๆ เพียงแต่กระบวนการของ กกต.ยังไม่จบสิ้น ซึ่งต้องใช้เวลาไปอีกระยะหนึ่ง

                การเลือกตั้งครั้งนี้ คล้ายศึกชิงบ้านเมือง-ชิงอำนาจ แถมยังเกิดพรรคการเมือง คล้ายขี่มฤตยูมาเพื่อปฏิวัติใหญ่ในเมือง อีกทั้งเริ่มเกิดแตกแยกทางความคิดในเมืองระหว่างประชาธิปไตย-เผด็จการ อันอาจเป็นหนึ่งในประเด็นหลักที่ต้องต่อสู้กันในเรื่องความคิดยาวนานตลอดยุคใหม่ 4.0 ขึ้นไปของกรุงรัตนโกสินทร์ ที่จะกินเวลายาวนานประมาณ 20 ปี

                หลายคนจึงถามมาถึงอนาคตของเมืองหลังการเลือกตั้ง ซึ่งผู้เขียน-เพิ่มเติมด้วยแนวทางจากสมาชิกแฟนเพจเฟซบุ๊ก-ฟองสนาน-ที่ล้วนนิยมโหรทั้งหลายช่วยกันแสดงภูมิออกมา หรือบางคราวคิดไม่ออกจริงๆ ผู้เขียนก็โทรศัพท์ไปถามโหร ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ เอาดื้อๆ จึงขออ่านชะตาเมืองหลังการเลือกตั้งตกผลึกออกมาในประเด็นต่างๆ ให้ทราบดังนี้

                1.ส่วนตัวยังยืนยันเหมือนเดิมว่า เมือง-การเมือง-นักการเมือง-พรรคการเมือง และบุคคลสำคัญในเมืองยังเขย่าต่อไป จนกว่าจะถึงกรกฎา.  2565 ในระดับที่ วันนั้นเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนครเราจะถามตัวเองว่าเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร (มฤตยูจรเจ้าของภัยอาเพศ-การเปลี่ยนแปลงใหญ่ในระดับฏิรูปขึ้นไป ถ้าจะให้ถูกโฉลกต้องระดับปฏิวัติในเรื่องที่เป็นเป้าหมายทับลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิมของเมืองระหว่างมีนา. 2559-กรกฎา. 2565)

                จากคำเตือนล่วงหน้าที่พยายามสื่อสารออกไปให้คนไทยกล้า ยอมรับ-ปฏิวัติ-เปลี่ยนแปลง ที่ก่อนหน้านี้เหมือนกับเป็นตัวตลกทางโหร แต่ขณะนี้ที่มฤตยูจรเดินอยู่ในราศีเมษไม่ถึงครึ่งทางคนไทยในเมืองหลายคนเริ่มผวากับการเปลี่ยนแปลงใหญ่ว่า จะนำเมืองไปสู่จุดใด

                คำถามนี้ผู้เขียนเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน เพราะเกินความรู้และจินตนาการ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างมั่นใจคือ ดวงเมืองรัตนโกสินทร์ออกแบบมามั่นคงแข็งแรงพอ (แม้จะวุ่นวายจากการทะเลาะกันของคนไทย เช่นที่ตอนนี้กำลังทำสงครามไซเบอร์กันแบบเอาเป็นเอาตาย) ประกอบกับพื้นชะตาเดิมดวงเมืองนั้นมฤตยูมาในแนวให้คุณ จึงแม้ความเป็นบาปเคราะห์ของมฤตยูจะสร้างความปั่นป่วนเขย่าประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงก่อน แต่ในที่สุด ผลจะออกมาดีมากกว่าร้าย เพียงแต่เมืองและคนในเมืองต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัย

                2.ไม่ว่ามฤตยูจะเขย่าเมือง-การเมืองแค่ไหน แต่ ตั้งแต่ 21 เมษา. 2561 มาแล้วที่ เมืองอยู่ในระหว่างขาขึ้นเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยปีแรกจะสิ้นสุดในวันคล้ายวันเกิดเมืองครบ 237 ปี ที่ 21 เมษา.  2562 นั้น เป็นระยะที่พระเสาร์เป็นศรีจร รัฐบาล (ที่พระเสาร์เป็นตัวแทน) ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำอะไรหลายอย่างไว้ให้ประเทศด้านโครงสร้างพื้นฐาน (ที่พระเสาร์เป็นตัวแทน) เช่น อีอีซี-ถนน-รถไฟฟ้า-แก้กฎหมายให้ปลูกต้นไม้ยืนต้น-เอาแชมป์ส่งออกข้าวกลับมา และเป็นปีทองของข้าว-นำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ ฯลฯ

                ส่วนปีที่สองของขาขึ้นของเมือง จะเริ่มตั้งแต่ 21 เมษา. 62-21 เมษา. 2563 เป็นต้นไป จะได้เขียนในตอนต่อๆ ไป

                บางคนอาจบ่นว่าผู้เขียนทำนายอะไร เมืองดีหรือร้ายกันแน่ ก็ขอยกตัวอย่าง ชะตาคน มา เปรียบเทียบกับเมือง คือในบ้านบางคนอาจวุ่นวายขายกระจาด แต่ครั้นไปทำงานกลับมุมานะจนได้ดี

                3.ระยะนี้คือระหว่าง 22 กุมภา. 62-10 กันยา. 63เมืองอยู่ในระหว่างได้คู่มิตรใหญ่ (พระราหูจร 8 ที่ราศีมิถุนเล็งใส่พระเสาร์ดวงเดิมเป็นคู่มิตรใหญ่) คุณอัศวิน เจได สมาชิกแฟนเพจ-ฟองสนาน-กรุณามาช่วยอ่าน บอกเป็นคู่โชค ซึ่งคงจะจริง เพราะตำราจักรทีปนีก็บอก หากเป็นดวงชะตาคนจะได้เมียสาว ได้โชคเงินทองและทรัพย์สิน (ยังไม่นับรวมพระราหูจร 8 เดินอยู่ในภพสหัชชะ-เป็นสามกับลัคนา-ให้คุณคือ..พระภูบาลให้สถานยศเงินทอง)

                4.ระยะนี้คือระหว่าง 22 กุมภา. 62-10 กันยา. 63เมืองอยู่ในระหว่างได้คู่ที่คุณอัศวิน เจได บอกเป็นคู่สมประโยชน์ แบบได้ครึ่งเสียครึ่ง (พระราหูจรที่มิถุน เล็งพฤหัสบดีดวงเดิมที่ธนู)

                5.อีกเกณฑ์หนึ่งที่ผู้เขียนเองให้น้ำหนักมากที่ปรากฏการณ์ตรึงกำลังระหว่างหัวหน้าดาวสองขั้วดี-ร้ายในเมืองรัตนโกสินทร์ตั้งแต่ 3 มีนา.-25 พฤษภา. 62 (พฤหัสบดีตรึงกับพระเสาร์) ที่ ส่งผลให้คนในเมืองอึดอัดที่ชัดเจน คือไม่รู้ผลการเลือกตั้งจะออกหัวออกก้อย

                6.ขณะที่ความอึดอัดใจเกิดขึ้นทั่วไป (ระหว่าง 3 มีนา.-25 พฤษภา. 2562 นั้น ผู้เขียนเห็นด้วยกับคุณอัศวิน เจได คือให้น้ำหนักว่าผลไม่น่าจะออกมาเลวร้าย เพราะเป็นไปขณะที่พฤหัสบดีจร (5) หัวหน้าดาวดีหรือหัวหน้าเทวดาประจำเมืองกำลังได้มาตรฐานสูง (เกษตราธิบดี-ที่ราศีธนู)

                สำคัญคือขณะที่ตรึงกำลังกับหัวหน้าดาวร้ายอยู่นั้น หัวหน้าเทวดาประทำเมืองยังไว้ลายแผ่รัศมีไปคุ้มครองลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง (๑) ที่สถิตราศีเมษได้เต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์อีกด้วย

                7.ผู้เขียนเห็นว่าการตรึงกันรอบนี้น่าจะเริ่มผ่อนคลายตั้งแต่ 8 เมษา. 2562 (พฤหัสบดีจรเริ่มเดินถอยหลัง) คนในเมืองจะเริ่มเบาและโล่งใจขึ้นครึ่งหนึ่ง

                8.จากนั้นเดินหน้าเมืองเข้า สู่เป้าหมายหลักที่ผู้เขียนเรียกร้องตลอดให้คนไทยจับมือกันช่วงหัวหน้าเทวดาประจำเมืองฟันฝ่าจากวันที่ 5 ตุลาคม 2561 มาให้ถึง คือวันคล้ายวันเกิดดวงเมืองที่ 21 เมษายน 2562 เพราะหลังวัดเกิดดวงเมือง พฤหัสบดีพลิกกลับเป็นศรีจรเป็นเวลา 1 ปี ไปเดินอยู่ในราศีไหน-ภพอะไรของเมืองดีหมด

                ทั้งนี้ รวมทั้ง พระราชพิธีบรมราชาภิเษกก็มีขึ้นขณะที่พฤหัสบดีเป็นศรีจร-ได้มาตรฐานเกษตราธิบดี (ที่ราศีธนู)-และมีกำลังแรงสุดๆ ด้านดี(เพราะกำลังเดินถอยหลัง)-สาดแสงไปถึงลัคนาเมืองและพระอาทิตย์ดวงเดิม (๑) ซึ่งตัวแทนพระราชสายโลหิตของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้คู่มิตรใหญ่เป็นไปตามโฉลกพระครูต้องสุรีย์ จะได้ที่ศักดินา

                9.และแม้ตั้งแต่ 25 พฤษภา. 2562 พฤหัสบดีศรีจรจะเดินกลับเข้าราศีพิจิกภพมรณะดวงเมืองก็ตามคุณของศรีจรจะมากมาย ซึ่งใกล้ๆ ถึงเวลาจะนำมาเล่าให้ฟัง

                นี่คือภาพรวมใหญ่ของเมืองหลังเลือกตั้ง ส่วนปรากฏการณ์สำคัญจากดาวอื่นที่ดวงเล็กลงมาแต่สำคัญในเมืองที่น่าจับตาหลังการเลือกตั้งคือ

                1.ทางโหรการท้าทายในเมืองอย่างมโหฬารที่เกิดขึ้นระหว่าง 5 กุมภา.เป็นต้นมาหยุดลงในวันที่ 22 มีนา. 2562 (พระอังคารจร 3 ตัวแทนลัคนาเมืองย้ายจากเมษเข้าพฤษภ-หยุดปรากฏการณ์ฤาษีถูกท้าทายจนเสียตบะ ความจริงคือวันศุกร์ที่ 22 มีนา.หลายพรรคเปิดเวทีปราศัยใหญ่เพื่อให้เสร็จก่อนวันเลือกตั้ง และได้ท้าทายกันไปหมดแล้วทุกกระบวนท่า

                2.ทำนายว่า ระหว่าง 22 มีนา.-7 พฤษภา. 2562 พระอังคารจร (3) อยู่ในราศีพฤษภภพที่สองดวงเมือง ตำราจักรทีปนีบอก ..จะรำคาญมิเป็นการถ้อยความมี..คาดว่าการดำเนินคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งคงจะชุกชุมให้รำคาญ ขณะเดียวกันอุบัติเหตุ ฟืนไฟ ระเบิด ควันในเมืองคงจะแรง จึงต้องระวังเป็นพิเศษช่วงสงกรานต์-คนฉวยโอกาส (พระอังคารจรทับพระอังคารเดิม) แต่ด้านดีพระอังคารจรเป็นราชาโชค โชคใหญ่ โชคพระราชา รอบนี้มาแรงคือพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่คงจะตื่นตาตื่นใจมาก

                3.ในหนังสือศาสตร์แห่งโหรปี 2562 ผู้เขียนทำนายว่าอาจจะได้-เห็นตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ระหว่าง 15 มีนา.-14 เมษา. 62 (พระอาทิตย์กาลกิณีจรตัวแทนผู้นำเดินอยู่ในราศีพิจิก-ภพวินาสน์-ลาภเหมือนมาดที่หวังไว้) หากผิดจากนี้เพราะกระชั้นชิดกับวันเลือกตั้งเกินไป ขอให้จับตาช่วง 15 มิถุนา.-17กรกฎา. 62 อันเป็นระยะที่จะมีการเปลี่ยนตัวบุคคลสำคัญในเมืองให้ตื่นเต้นเร้าใจ เพียงแต่จะระดับไหนเท่านั้น

                สรุป คือแม้การเมือง-บุคคลสำคัญในเมือง-การเมืองจะเขย่ากันต่อไปให้เวียนหัว แต่เมืองยังจะเดินหน้าต่อไปในทางดีมากกว่าร้าย แต่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามยุคและสมัย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"