ฝุ่นพิษเดือดล่าชื่อ ไล่ผวจ.เชียงใหม่


เพิ่มเพื่อน    


    ภาคเหนือวิกฤติหนัก ฝุ่นควันท่วมเมือง โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ พีเอ็ม 2.5 พุ่งขึ้นถึง 241 จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คนเมืองหงุดหงิด เปิดเพจล่าชื่อไล่ผู้ว่าฯ ชี้ไร้ประสิทธิภาพ ขณะที่คนถูกไล่ยันทำงานเต็มที่ ประชุม 25 อำเภอ กำชับห้ามเผาป่าเด็ดขาด
    กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ณ เวลา 09.00 น. วันที่ 24 มีนาคมนี้ จังหวัดเชียงราย ที่ ต.เวียง อ.เมือง ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) อยู่ที่ 126 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมโครกรัม (PM 10) อยู่ที่ 151 มค.ก./ลบ.ม. ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย PM 2.5 อยู่ที่ 215 ส่วน PM 10 อยู่ที่ 264 มค.ก./ลบ.ม. ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง PM 2.5 อยู่ที่ 241 มค.ก./ลบ.ม. PM 10 อยู่ที่ 282 มค.ก./ลบ.ม. ต.ศรีภูมิ อ.เมือง PM 2.5 อยู่ที่ 221 PM 10 อยู่ที่ 248 ต.สุเทพ อ.เมือง PM 2.5 อยู่ที่ 132 PM 10 อยู่ที่ 172 ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม PM 2.5 อยู่ที่ 134 ส่วน PM 10 อยู่ที่ 182
    นอกจากนี้ ที่ จ.ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา และตาก ค่า PM 2.5 และ PM 10 ก็อยู่ในระดับสูง มีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งสิ้น โดยที่ลำปางสูงสุดคือ ต.พระบาท อ.เมือง PM 2.5 อยู่ที่ 186 PM 10 อยู่ที่ 263 ลำพูน ที่ ต.บ้านกลาง อ.เมือง PM 2.5 อยู่ที่ 210 PM 10 อยู่ที่ 272 แม่ฮ่องสอน ต.จองคำ อ.เมือง PM 2.5 อยู่ที่ 233 PM 10 อยู่ที่ 255 น่าน ต.ในเวียง อ.เมือง PM 2.5 อยู่ที่ 146 PM 10 อยู่ที่ 184 แพร่ ต.นาจักร อ.เมือง PM 2.5 อยู่ที่ 141 PM 10 อยู่ที่ 177 พะเยา ต.บ้านต่อม อ.เมือง PM 2.5 อยู่ที่ 184 PM 10 อยู่ที่ 205 และตาก ต.แม่ปะ อ.แม่สอด PM 2.5 อยู่ที่ 90 PM 10 อยู่ที่ 139   
    เว็บไซต์ www.airvisual.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์วัดคุณภาพอากาศของทั่วโลก ระบุว่า จากการเปรียบเทียบดัชนีคุณภาพอากาศ หรือค่า US AQI จากหัวเมืองใหญ่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก พบว่าค่ามลพิษในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่พุ่งสู่อันดับ 1 ของโลกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 404US AQI อันดับ 2 คือเมืองดักกา บังกลาเทศ 265 และอันดับ 3 เมืองกาฐมาณฑุ เนปาล 219
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลจากฝุ่นควันปกคลุมจังหวัดเชียงใหม่หนาแน่น ในการลงคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ พบว่าประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิ์ต่างกากันสวมหน้ากากอนามัย เพราะมลพิษอากาศอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ 
    มีรายงานด้วยว่า เพจ https://www.change.org ได้โพสต์เรียกร้องให้คนเชียงใหม่ร่วมลงชื่อขับไล่ ผวจ.เชียงใหม่คนปัจจุบัน โดยระบุว่า "ร่วมลงชื่อขอเปลี่ยนผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ไร้ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาฝุ่นควัน" ปรากฏว่ามีประชาชนร่วมกันลงชื่อแล้วเกือบ 7 พันคน พร้อมแสดงความเห็นสนับสนุน
    ด้านนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีมีการเข้าชื่อทางเฟซบุ๊กขับไล่ตนนั้น เข้าใจได้ว่าประชาชนห่วงใยในเรื่องสุขภาพของเขา ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงมาตลอดว่า จังหวัดได้ทำเรื่องปัญหาฝุ่นควันมาโดยตลอด ไม่ใช่ทำแค่เมื่อวานกับวันนี้ แต่ทำมาเป็นเดือน ทำอย่างเข้มข้นเป็นรูปร่าง เพียงแต่ข้อมูลที่ทำนั้นเข้าถึงเขาหรือไม่ ก็เป็นกังวลว่าช่องทางหรือข้อมูลจะเข้าไปไม่ถึงประชาชน ในเมื่อเขามีการพูดถึงและตั้งคำถามนี้ขึ้นมา ก็ต้องทำอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือทำอย่างไรให้เขาเข้าถึงและรับทราบ แล้วเกิดความเข้าใจให้มากขึ้น ประการที่สองคือ ต้องทำงานต่อไป 
    ผวจ.เชียงใหม่ยังได้ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ไปยัง 25 อำเภอของจังหวัด เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน รายงานสถานการณ์ และปัญหาอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของแต่ละพื้นที่ หลังสถานการณ์ปัญหาหมอกควันยังคงปกคลุมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
    ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศมาตรการในการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก และการดูแลสุขภาพของประชาชน ประจำปี 2562 (เพิ่มเติม) ให้ทุกอำเภอดำเนินการตามมาตรการห้ามเผาเด็ดขาด โดยให้จัดชุดลาดตระเวน ตรวจตรา เพื่อป้องกันการเผาป่า และจัดชุดปฏิบัติการเข้าดับไฟทันทีในเวลาอันรวดเร็ว หากมีเหตุเผาไหม้ในพื้นที่ และหากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง รวมทั้งสั่งการให้อำเภอมอบหมายหน่วยงานสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกให้คำแนะนำวิธีปฏิบัติตนที่ถูกต้องในการดูแลรักษาสุขภาพ เพี่อป้องกันผลกระทบจากฝุ่นละอองและหมอกควันไฟป่า และกำชับให้ดำเนินการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับเด็ก สตรี ผู้มีโรคประจำตัว (ระบบทางเดินหายใจ) และประชาชนทั่วไป ซึ่งสามารถมารับด้วยตนเองได้ที่สาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือตามเทศบาลท้องถิ่นของตนเอง และให้แจกจ่ายแบบเคาะประตูบ้าน เพื่อให้ทั่วถึงทุกชุมชน
    ตลอดจนให้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารในทุกช่องทาง เช่น เสียงตามสายประจำหมู่บ้าน ชุมชน วิทยุชุมชน รถกระจายเสียงเคลื่อนที่ ในการชี้แจงทำความเข้าใจการห้ามเผาป่า เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายและผลกระทบของการเผาป่า
    นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ทุกอำเภอประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการสร้างความชุ่มชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มรอบในการกวาดล้างทำความสะอาด และควบคุมพื้นที่ก่อสร้างไม่ให้เกิดฝุ่นละออง และขอความร่วมมือจากประชาชนในการเพิ่มความชุ่มชื้นบริเวณที่อยู่อาศัย เช่น รดน้ำต้นไม้ ฉีดล้างถนน หรือทางเท้าหน้าอาคารบ้านเรือนของตนเอง เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่
    ที่จังหวัดอำนาจเจริญ เกิดพายุฝนในพื้นที่ อ.โคกสาร อ.ชานุมาน เมื่อใกล้ค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำโขง จำนวน 5 หลัง ได้รับความเสียหาย หลังคาบ้านถูกกระแสลมพัดปลิวว่อน ส่วนที่ถนนสายบ้านนกกระเต็นไป อ.ชามุมาน เสาไฟฟ้าหักโค่นล้ม  5 ต้น ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง กระทั่งเช้าวันที่ 24 มี.ค. เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าสวนภูมิภาคอำนาจเจริญจึงงเข้าไปซ่อมแซมจนสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้เป็นปกติ
    กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 24-27 มีนาคม 2562)" ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2562 ว่า บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่า จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยมีผลกระทบตามภาคต่างๆ มีดังนี้
    วันที่ 24 มีนาคม ภาคเหนือ จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ, ภาคกลาง จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล, ภาคตะวันออก จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    ในช่วงวันที่ 25-27 มีนาคม ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร  กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์, ภาคกลาง จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล, ภาคตะวันออก จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด
    ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้แล้ว และคาดว่าจะแผ่ปกคลุมภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างในวันพรุ่งนี้ (25 มี.ค.62) ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"