สัญญาณ 'เปลี่ยนยุค' ประเทศ


เพิ่มเพื่อน    

    เป็นไงบ้างครับ กับผลเลือกตั้งเมื่อวาน?
    ต้องบอกว่า นี่คือสัญญาณ
    ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ "ยุคเปลี่ยนผ่าน" แท้จริงแล้ว!
    แต่สรุปชัดเจนลงไปทีเดียวยังไม่ถนัด เพราะตอนลงมือคุยกับท่าน ตอน ๒ ทุ่ม (๒๔ มี.ค.๖๒)
    ผลเลือกตั้งรวม เพิ่งนับคะแนนไปได้ประมาณ ๖๕% เท่านั้นเอง
    แต่พอเห็นแนวโน้ม
    "พรรคพลังประชารัฐ" ซึ่งเป็นพรรคใหม่ กลับได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนทั้งประเทศ น่าพอใจ
    ถึงไม่นำขาด แต่จากคะแนนรวม 
    ต้องร้อง...อื้อฮือ!
    ในขณะที่ "พรรคเพื่อไทย" ขนาดคนแดนไกลประกาศกลางงานสมรสแฝดที่ฮ่องกงว่า "เราชนะแน่"
    แต่ผลที่ออกมา ชนะน่ะ...ชนะแน่
    แต่จะชนะเลยหนวดพลังประชารัฐหรือไม่ ยังไม่แน่ ยิ่งจะไปคิดถึงขั้นได้ตั้งรัฐบาล ได้เป็นนายกฯ ขนาดนั้น 
    บอกได้คำเดียว สำหรับเพื่อไทย 
    ฝันได้ไกลสุด แค่ ๔๙% !
    ดูตามคะแนนรวมตอน ๒ ทุ่มกว่า แค่ ๔ ล้านกว่าเสียง ถ้าเป็นอย่างนี้ นับครบ ๓๕๐ เขต อาจได้แค่ ๗-๘ ล้าน 
    อาจ "รวย ส.ส.เขต"
    แต่จะจน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ถึงขั้นไม่ได้เลยซักคน!
    หมายถึง แคนดิเดตนายกฯ พรรคทั้ง ๓ คน "สุดารัตน์-ชัชชาติ-ชัยเกษม" กอน วิธ เดอะ วิน
    ทั้งเก้าอี้นายกฯ และเก้าอี้ ส.ส.!
    พรรคที่มาชนิดเหนือคาดหมาย ชนิดทำให้บรรดากูรูการเมืองทั้งหลายต้องหาคำอธิบายตอนโม้หน้าจอกันใหม่ ก็คือ
    พรรคอนาคตใหม่ กับ 
    พรรคภูมิใจไทย
    โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ ต้องบอกว่า แรงตั้งแต่ออกสตาร์ท และรักษาระยะได้ตลอด
    โดยเฉพาะในจังหวัดและในภาคที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ ทั้งอีสาน-เหนือ-ใต้ 
    เครือข่ายนักวิชาการเอ็นจีโอ กลุ่มอาจารย์สายอยากเลือกตั้ง และสายนิยมระบอบทักษิณ ถือว่าทำงานได้ผล
    "อนาคตใหม่" กลายเป็นกำลังหลักของระบอบทักษิณไปแล้ว 
    เพื่อไทยจะทำเสียงดังกว่าธนาธรไม่ได้แล้ว
    เพื่อไทย.........
    ต่อจากนี้ ต้องนึกถึงคำพระ "เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป" ให้มากเข้าไว้
    เพราะ "พระเอกคนใหม่" ของระบอบทักษิณและเอ็นจีโอ เขามาแล้ว!
    ก็ต้องขอบคุณ "ไทยรักษาชาติ" เขาด้วย ถ้าไทยรักษาชาติยังอยู่ในสนาม ไพ่จะออกไปอีกหน้า
    "อนาคตใหม่" ก็อาจไม่หล่อถึงขนาดนี้?
    ดูทาง "ประชาธิปัตย์" พรรคมาตรฐานบ้าง ทั้งใจหายและหายใจไม่ออกกันทั้งประเทศ
    "เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร?"
    ทั้งซือแป๋ ทั้งเจ้าสำนัก และศิษย์อาวุโสทั้งหลาย ถึงเวลาต้องไปนั่งคุกเข่า สำนึกตัวเองอยู่ในถ้ำสักระยะ 
    ส่วนอนาคตสำนัก ถึงเวลาต้องปล่อยให้ศิษย์รุ่น New Dem เขาฟื้นฟูและวางแนวทางกัน 
    ประชาธิปัตย์ไม่มีวันตาย ครั้งนี้ ก็แค่สลบชั่วคราวเท่านั้น!
    "ภูมิใจไทย" ก็มาดเดียวกับ "อนาคตใหม่"
    มาแรงแซงโค้งเหนือคาดหมาย เรียกว่าแซงประชาธิปัตย์เกือบจมมิด
    ต้องยอมรับกันว่า นี่ด้วยกำลังภายในเนวินเค้า
    ที่คาดหมายกันแต่แรกว่า "ประชาธิปัตย์" คือตัวแปรในการตั้งรัฐบาล
    พลังประชารัฐจะตั้งรัฐบาลได้มั้ย พลเอกประยุทธ์จะได้เป็นนายกฯ มั้ย ขึ้นอยู่กับประชาธิปัตย์จะร่วม-ไม่ร่วม?
    แต่ผลที่ออกมา........
    กลายเป็น "ภูมิใจไทย" เป็นตัวแปรไปแล้ว!
    ขณะคุยกันนี้ ผลรวมยังยากสรุป พลังประชารัฐกับเพื่อไทย ยังบี้กันไป-บี้กันมา แต่คะแนนรวม พลังประชารัฐน่าจะเบียดเพื่อไทย
    ที่เป็นเช่นนี้ เพราะความโลภมาก "แตกพรรค" ของทักษิณนั่นแหละ อนาคตใหม่เลยหารคะแนนไปเป็นกอบ-เป็นกำ
    ยิ่งไทยรักษาชาติ เทคะแนนให้อีก 
    เพื่อไทยเลยสิ้นอนาคต!
    ตอนนี้ ยังคำนวณว่าแต่ละพรรคจะได้ ส.ส.เขต-ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์กันเท่าไหร่ยังไม่ได้ เพราะต้องรอดูว่า ผู้ออกมาใช้สิทธิ์ทั้งหมดมีเท่าไหร่?
    เท่าที่ประเมิน ก็ไม่น่าต่ำกว่า ๔๐ ล้าน และยังต้องดูต่ออีกว่า แต่ละพรรค ได้คะแนนรวมเท่าไหร่?
    ตีซะว่า ๘๐,๐๐๐ คะแนน แลก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ได้ ๑ คน ก็ดูกันตามนี้เป็นเกณฑ์ละกัน
    อยากรู้ พรรคไหนได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แค่ไหน ก็เอาคะแนนรวมพรรคนั้นตั้ง แล้วเอา ๘ หมื่นไปหาร
    ได้ผลออกมาเท่าไหร่ นั่นคือจำนวน ส.ส.พรรคนั้น "พึงมีได้"
    แล้วก็ดูว่า พรรคนั้น ได้ ส.ส.เขตกี่คน..........
    สมมุติ พึงมีได้ ๑๐ คน 
    แต่ได้ ส.ส.เขตแล้ว ๑๑ คน ก็จะไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพราะถึงเกณฑ์พึงมีได้แล้ว
    แต่ถ้าได้ ส.ส.เขต ๘ คน ก็จะได้ ส.ส.เขต ๒ คน ครบ ๑๐ คน ตามสัดส่วนที่พึงมีได้ 
    ตามสูตรนี้ ถ้าอยากรู้เพื่อไทยจะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์มั้ย ตีซะว่าคะแนนรวมได้ ๘ ล้านคะแนน
    เอา ๘ หมื่นไปหาร ๘ ล้าน เพื่อไทยก็จะพึงมี ส.ส.ได้ ๑๐๐ คน
    ทีนี้ไปดู ได้ ส.ส.เขตแล้วเท่าไหร่ แต่ละโพล ฟันธงว่า เพื่อไทยจะได้ตั้งแต่ ๑๓๕-๑๗๓ คน ขึ้นไป
    เกิน ๑๐๐ ที่พึงมีได้แล้ว ฉะนั้น อดได้ปาร์ตี้ลิสต์!
    ดูกันหยาบๆ ตอน ๓ ทุ่มกว่า เหลือคนอยู่ในแถว "ต่อรองนายกฯ" ๓ คน เท่านั้น คือ
    พลเอกประยุทธ์ พลังประชารัฐ
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล ภูมิใจไทย และ
    นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อนาคตใหม่
    ที่บอกว่า "ต่อรองกัน" หมายถึง ใครตกลงไปจับขั้วกับฝ่ายไหน ด้วยจำนวน ส.ส.ในมือ สามารถต่อรองตำแหน่งได้
    ถ้าอนุทิน, ธนาธร ไปจับขั้วเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ๒ คนนี้ก็ตกลงกัน ใครจะเป็นนายกฯ? 
    เพราะ ๓ ว่าที่นายกฯ เพื่อไทย หมดสิทธิ์แน่!
    เช่นเดียวกัน ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และ+++ ไปจับมือพลังประชารัฐ 
    จะตั้งได้-ไม่ได้ ก็ต้องดูว่าอนุทินยอมให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ มั้ย?
    เพราะประกาศปาวๆ จะเป็นเอง!
    ถ้าภูมิใจไทยไม่ร่วม พลังประชารัฐก็ตั้งรัฐบาลยาก กับอนาคตใหม่ ไม่ต้องพูดถึง ยังไงเขาไม่ร่วมกับฝ่ายนี้อยู่แล้ว
    ดูไป-ดูมา ไม่ว่าฝ่ายไหน ตั้งไม่ง่ายซะแล้วรัฐบาล! 
    ๓ อันดับเจ้ายุทธ์ จากเดิมพูดกันว่า..........
    เพื่อไทย-พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์
    แต่จากผลเลือกตั้ง ๒๔ มีนา ปรากฏว่า ๓ อันดับ คือ "เพื่อไทย-พลังประชารัฐ-อนาคตใหม่"
    ประชาธิปัตย์หล่นไปชิงอันดับ ๔ กับภูมิใจไทย!
    ครับ....
    ยอมรับว่า เลือกตั้งระบบใหม่นี้ ยากชี้ขาดผลได้ในช่วง ๑-๒ ชั่วโมงเหมือนการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา
    ดังนั้น ที่คุยวันนี้ หยาบๆ เท่านั้น พรุ่งนี้ ค่อยคุยกัน แต่ขอชมสปิริต "คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" 
    ท่านลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เท่ากับสลายเงื่อนไขที่จะไม่ร่วมกับพลังประชารัฐ
    ถ้าเป็นไพ่ ถือว่า "หมอบ" อย่างมีชั้นเชิง 
    เพราะยังไงๆ ในทางยาว ประชาธิปัตย์ "ก็ไม่มีวันตาย" อยู่แล้ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"